ไข้หวัดใหญ่ เรื่องใหญ่ของผู้สูงอายุ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทางเลือกใหม่ลดเสียชีวิต

Published on

โรคไข้หวัดใหญ่จะเป็นโรคที่เรามักคุ้นชินและเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ยังมีคนเสียชีวิตจากโรคนี้อยู่ไม่น้อย องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 650,000 คนต่อปี และประมาณ 90% ของผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ คือผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว

รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ เปิดเผยว่า ปกติการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วโลกจะสูงที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เพราะเป็นช่วงการระบาดใหญ่ของประเทศซีกโลกเหนือ โดยข้อมูลจาก WHO รายงานว่าต่อสัปดาห์จะมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สูงถึงหลายหมื่นจนถึงมากกว่าแสนราย ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้คาดการณ์ว่าฤดูกาล 2023/2024 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากกว่า 25 ล้านราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 280,000 ราย และเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่มากกว่า 17,000 ราย

ขณะที่สถิติไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ปี 2566 กรมควบคุมโรคพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ประมาณ 480,000 ราย เสียชีวิต 29 ราย และต้นปี 2567 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 17 กุมภาพันธ์ 2567 พบผู้ป่วย 63,648 ราย เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งสูงกว่าการระบาดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร ทำให้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตลอดทั้งปี แต่จะระบาดหนักสุดในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ยิ่งไปกว่านั้น โรคไข้หวัดใหญ่ยังก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศจากภาระโรคทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง รวมถึงประชาชนต้องขาดรายได้จากการหยุดงาน สูงถึงปีละ 1,100 – 3,000 ล้านบาท

รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวย้ำเตือนว่า ไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นตัวนำร่องสู่โรคร้ายแรงและอาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่จะสามารถเข้ามาโจมตีระบบทางเดินหายใจ ทำลายเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจหรือเข้าไปกระตุ้นการอักเสบให้มากขึ้น และยังไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้จากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในคอหอยของทุกคน อาทิ ปอดอักเสบ ภาวะหายใจล้มเหลว หัวใจวาย หรือไตวาย โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดในทุกกลุ่มอายุ คือ เด็ก คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

● ในกลุ่มเด็ก อาจจะมีอาการรุนแรงในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 0–4 ปี อายุ ส่วนเด็กอายุ 5–14 ปี จะเป็น Super Spreader ที่มักจะนำเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จากโรงเรียนมาแพร่สู่สมาชิกในครอบครัว

● ในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่อาจจะมีอาการรุนแรงมากซึ่งรวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคมะเร็งหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคไต เป็นต้น

สำหรับคนหนุ่มสาวที่ไม่มีโรคประจำตัว หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่อาการอาจจะไม่ค่อยรุนแรง แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังสมาชิกในครอบครัว ยิ่งหากมีผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวก็อาจส่งผลเสียที่รุนแรงตามมาได้หากเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

ฉะนั้นวิธีการป้องกันโรคด้วย ‘การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่’ ถือว่ามีความปลอดภัยและคุ้มค่าทางการแพทย์มากที่สุด และได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกกว่า 80 ปี จึงมีความมั่นใจในประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง แนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยสามารถเริ่มฉีดวัคซีนได้ทันที ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ วัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย ลดโรคแทรกซ้อนรุนแรง ลดการนอนโรงพยาบาล และลดการสูญเสียชีวิตได้ หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ร่างกายจะใช้เวลากระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยและสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย มีคำแนะนำว่าทุกคนควรจะได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 ประเภท ได้แก่

1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ขนาดมาตรฐาน (standard dose) มีปริมาณแอนติเจน 15 ไมโครกรัมต่อ 1 สายพันธุ์ต่อโดส สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ

2. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ขนาดสูง (high dose) มีปริมาณแอนติเจนมากกว่าขนาดมาตรฐานถึง 4 เท่า จากการศึกษาพบว่าลดการติดเชื้อแบบมีอาการได้มากกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขนาดมาตรฐาน ร้อยละ 24.2 ลดการนอนโรงพยาบาลจากโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบได้สูงกว่าขนาดมาตรฐานร้อยละ 64.4 และลดการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ได้สูงกว่าขนาดมาตรฐานร้อยละ 48.9 นับเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสการติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มอื่น เสี่ยงต่อการรักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มอื่น จึงมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขนาดสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิได้ดีกว่าขนาดมาตรฐาน โดยอาจมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดมากกว่าขนาดมาตรฐานเล็กน้อย

รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่าไข้หวัดใหญ่เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจที่ระบาดทุกปี ตลอดทั้งปี แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งถือเป็นมาตรการป้องกันโรคที่คุ้มค่า คุ้มทุน และปลอดภัยมากที่สุด สามารถป้องกันการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค และลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี เริ่มฉีดได้ทันที ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ก่อนถึงฤดูฝนไปจนถึงตุลาคมของทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวัคซีนที่เหมาะสม

ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ http://www.ift2004.org/ หรือทางเพจของมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this