หน้าแรกHealth&Wellnessชาวอาเซียนมีความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์ร้อยละ 10

ชาวอาเซียนมีความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์ร้อยละ 10

Published on

ชาวอาเซียนมีความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์ร้อยละ 10 สาธารณสุขผสานความร่วมมือระดับภูมิภาคยกระดับการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอนห์นสัน (ไทย) จํากัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียน เพื่อพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยจิตเวชแบบองค์รวม” จึงจัดประชุมวิชาการนานาชาติกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในหัวข้อเรื่อง “Working Together, Delivering a Better Future for Mental Health Patients” เพื่อเผยแพร่วิทยาการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลรักษาโรคทางจิตเวช และนําไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น โดยงานประชุมดังกล่าวมี ผู้กำหนดนโยบาย จิตแพทย์ พยาบาลทางด้านจิตเวช รวมถึงกลุ่มผู้ป่วย 70 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมงาน

สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้ผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ประสบปัญหาด้านจิตประสาทและอารมณ์ โดยเฉพาะโรคจิตเภท (schizophrenia) ปัจจุบันประชากรของประเทศในกลุ่มอาเซียนกว่า 1 ล้านคน จาก 650 ล้านคนป่วยเป็นโรคจิตเภท ขณะที่คนไทยอย่างน้อย 400,000 คน ป่วยโรคดังกล่าวเช่นกัน วาระหลักของงานประชุมฯ ปี 2562 ให้ความสำคัญกับโรคจิตเภท และช่องว่างในการรักษาผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นไปในการนำข้อมูลการรักษาที่เกิดจากการใช้จริง (real-world evidence) มาใช้พัฒนาการตัดสินใจด้านสาธารณสุข และมุ่งเน้นไปถึงการพัฒนาประสบการณ์ของผู้ป่วยผ่านการใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต “กรมสุขภาพจิตให้ความสำคัญในการรักษาโรคจิตเภท โดยมีการให้ความรู้ในเชิงลึก ดำเนินงานเชิงรุก ลงพื้นที่ไปสู่ชุมชน เพื่อช่วยแก้ไขข้อความเข้าใจผิดและตราบาปที่เกิดขึ้นกับคนไข้จิตเภท งานประชุมวิชาการนานาชาติกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เชิญจิตแพทย์จากทั่วภูมิภาคเพื่อระดมสมองในการแก้ไขปัญหา สำหรับประเทศไทยสามารถนำผู้ป่วยจิตเภทเข้ามารับการรักษา 83% ปัจจุบันระบบสาธารณสุขได้รับการพัฒนาให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีระบบค้นหา ติดตามการรักษา พัฒนาระบบบริการไม่ให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกแปลกแยก โดยผู้ป่วย สามารถใช้สิทธิ์การรักษาทุกสิทธิ์ในโรงพยาบาลของกรมสุขภาพจิตที่ให้บริการ 20 โรง คนไข้ที่ได้รับการรักษาส่วนใหญ่จะหายและมีอาการดีขึ้น แต่เมื่อกลับไปบ้านหรือชุมชนอาจขาดยาเป็นส่วนใหญ่ และสังคมขาดความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วย การเตรียมชุมชนเพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยนั้นสำคัญมากเพื่อไม่ให้เขากลับมาเป็นซ้ำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

รศ.นพ.ชวนันท์ ชาญศิลป์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าปัจจัยทางชีวภาพการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมองเกี่ยวข้องกับการป่วยโรคจิตเภท จึงจำเป็นต้องรักษาด้วยยาเพื่อให้อาการทุเลาและเพื่อป้องกันอาการกำเริบ ปัจจุบันการรักษาโรคจิตเภทก้าวหน้าไปมาก เรามียาหลายตัวและผู้ป่วยส่วนมากตอบสนองดีกับยา ปัญหาหลักๆคือ ผู้ป่วยไม่รับการรักษาให้ต่อเนื่อง (รวมถึงการกินยาไม่สม่ำเสมอ) และความลำบากในการกลับคืนสู่สังคม

ผู้ป่วยจิตเภทจำเป็นต้องรับการรักษาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับโรคลมชัก หรือความดันโลหิตสูง บางคนเข้าใจว่าอาการดีแล้วไม่จำเป็นต้องกินยา กังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา และรู้สึกอายที่จะเข้ารับการรักษา การไม่รับการรักษาอย่างต่อเนื่องทำให้อาการกำเริบและรักษายากยิ่งขึ้นเนื่องจากการตอบสนองต่อยาอาจไม่ดีเหมือนเดิม ปัจจุบันมียาฉีดที่ช่วยให้มียาอยู่ในร่างกายนานเป็นเดือนคล้ายๆ ยาคุมกำเนิด ก็ช่วยลดปัญหาการกินยาไม่ต่อเนื่องหรือลืมกินยาบางมื้อ

ในด้านสังคมแม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการทุเลาแล้ว แต่สังคมยังมีความรู้สึกลบต่อโรคจิตเภททำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งกลับเข้าสู่สังคมได้ยาก ผู้ป่วยจิตเภทที่ป่วยเป็นเวลานานอาจจะมีทักษะทางสังคม และความสามารถในการคิดลดลงได้ ส่งผลต่อการกลับไปใช้ชีวิต แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยความช่วยเหลือจากบุคคลากรทางการแพทย์ ปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการทำความเข้าใจกับสังคมถึงตัวโรคว่าปัจจุบันมีการรักษาที่ดีขึ้นสามารถทำให้ผู้ป่วยอาการดีได้ ในขณะเดียวกันผู้ป่วยและญาติก็ต้องร่วมมือในการรักษา

นอกจากนี้ ขอสังคมเข้าใจว่าปัจจุบัน คนไทย 70 ล้านคน ป่วยเป็นโรคจิตเภทแล้วอย่างน้อย 400,000 คน ซึ่งเราไม่สามารถกันคนเหล่านี้ออกจากสังคม วิธีที่ดีคือความเข้าใจและเห็นใจเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผู้ป่วยเมื่อรับการรักษาต่อเนื่องอาการก็จะดีอยู่ร่วมกันได้ และบางรายก็สามารถทำงานได้ ส่วนคนที่อาการไม่ดีก็ให้ช่วยกันพามารักษาแต่เนิ่นก็จะได้คนที่อาการดีกลับไป เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการรักษาและดูแลผู้ป่วย สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอนห์นสัน (ไทย) จํากัด ได้จัดทำหนังสือให้ความรู้แก่ผู้ป่วย ญาติหรือบุคคลทั่วไป โดยสามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้ฟรี ที่ facebook page ของสมาคมฯ https://th-th.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation

คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ กล่าวว่า “ไม่อยากให้สังคมรังเกียจผู้ป่วย อยากให้มองว่า ผู้ป่วยจิตเวชก็คือคนปกติ เพียงแต่เขาป่วยเหมือนโรคที่วไป เช่น ป่วยโรคหัวใจ ความดัน เพียงแค่เค้าป่วยเป็นอาการทางจิตและควรได้รับการรักษาให้หาย ทุกคนควรเข้าใจไม่แบ่งแยกพวกเขาออกจากสังคม นอกจากนี้ สังคมสามารถมีส่วนช่วยลดอคติหรือตราบาปให้กับผู้ป่วยได้เช่นกัน เช่น การลดตราบาปผ่านสื่อ สามารถทำได้ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เอามาล้อเล่น หรือใฝ่รู้ หาข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อทำความเข้าใจ ไม่ล้อเลียน ให้เกียรติความเป็นมนุษย์ อยากให้กำลังใจผู้ป่วยและญาติในการจับมือกันฟันฝ่าความเจ็บป่วยด้วยกันเพื่อให้สามารถกลับมาอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ”

Latest articles

MSpa International ส่งต่อแรงบันดาลใจเพื่อสุขภาพ ฉลอง Global Wellness Day

เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล (MSpa International) สปาแอนด์เวลเนสชั้นนำในเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง Global Wellness Day หรือ วันแห่งสุขภาพโลก...

SCB หนุนวงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท พัฒนา 17 โครงการบ้าน-คอนโดหรูในเครือ SC Asset

SCB ตอกย้ำบทบาทพันธมิตรทางการเงินเชิงกลยุทธ์ของ SC Asset ด้วยการสนับสนุนวงเงินรวมกว่า 17,600 ล้านบาท ครอบคลุม 17 โครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมของกลุ่มบริษัทในเครือ SC Asset

ค้นหาความหมาย เมื่อดินไม่ใช่แค่วัตถุดิบ “WERDIN: ดินกลาย” โดย “วศินบุรี”

นิทรรศการนี้จะพาคุณเข้าสู่การเดินทางของ “ดิน” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงวัตถุดิบในงานเซรามิก หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการ “การกลายเป็น” หรือ Werden คำในภาษาเยอรมันที่หมายถึง “เป็น, กลายเป็น, หรือจะเป็น”

ห้าดาว เปิดตัว ไก่จ๊อไข่ผำ เกาะเทรนด์สุขภาพ

ห้าดาว เปิดตัว “ไก่จ๊อไข่ผำ”ชูวัตถุดิบอาหารแห่งอนาคต สู่เมนูอร่อยตอบโจทย์สุขภาพ จัดโปรแรงลดราคา 20 บาท หาซื้อได้ ที่ร้าน Five Star ห้าดาว

More like this