หนุนธุรกิจความงามไทยขึ้นแท่นฮับเครื่องสำอางในภูมิภาค เม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท

Published on

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบาย ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power) สาขาแฟชั่น ปลุกพลังอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม เพิ่มทักษะ องค์ความรู้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ เชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่น พร้อมดึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย สร้างแบรนด์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเพื่อผลักดันสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท

สุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามถือเป็นหนึ่งในสาขาอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ธุรกิจเครื่องสำอางมีมูลค่าการส่งออกกว่า 9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.58 จากปี 2565 และอยู่อันดับที่ 18 ของโลก (ที่มา : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์) ซึ่งมีปัจจัยมาจากการเติบโตของการท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของตลาดสุขภาพและความงามโดยผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและการดูแลผิวพรรณมากขึ้น

รวมถึงสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องสำอางฯ ยังประสบกับปัญหาบุคลากรขาดทักษะที่สำคัญหลายด้าน อาทิ การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ความสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล ควบคุมคุณภาพ การตลาด รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่น ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้มีขีดความสามารถและศักยภาพในแข่งขันไปสู่ระดับสากล

สอดรับกับการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาลผ่านนโยบายเรือธงสำคัญ “One Family One Soft Power (OFOS)”เพื่อพัฒนาทักษะกำลังคนใน 14 สาขา โดยมี สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญของระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศทั้งด้านมูลค่าและการจ้างงานซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยให้เข้มแข็ง

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องสำอางและความงามไทย จึงเดินหน้าพัฒนาและเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจเครื่องสำอางและความงามเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่อย่างมั่นคง ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ของ “ณัฏฐิญา เนตยสุภา” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งส่งเสริม พัฒนา และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุก ๆ ด้านอย่างตรงจุด

ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การให้ทักษะใหม่ ด้วยการเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน (Reskill) ผ่านกิจกรรม “การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย” ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) โดยมุ่งพัฒนาและเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม อาทิ การบริหารจัดการการวางแผนและเขียนโมเดลธุรกิจ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนสร้างเครือข่ายและสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โอกาสการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

สุรพล กล่าวต่อว่า “บุคลากร” ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ รองรับแนวโน้มตลาดเครื่องสำอางและความงามที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเป็นการต่อยอด Soft Power ไทยผ่านการนำเสนออัตลักษณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และคุณค่าทางวัฒนธรรมสู่อุตสาหกรรมความงามระดับสากล ถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามของไทยให้เป็นอีกหนึ่งตัวแทนความเป็นไทยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ

โดย “ดีพร้อม” เปิดโอกาสให้บุคลากร นักออกแบบ หรือผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย จำนวน 100 คน ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพ เสริมความรู้ และทักษะด้านการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านความคิดสร้างสรรค์ การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณค่าทางการรักษาและความงาม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล เพื่อต่อยอดความสามารถและพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตพร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ

ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรทรงคุณวุฒิที่มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกิจเครื่องสำอางและความงามการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจก่อนนำเสนอโมเดลธุรกิจ และผู้มีความสามารถโดดเด่นทั้ง 5 ราย มีโอกาสได้ศึกษาดูงานในต่างประเทศเพื่อเรียนรู้ระบบการทำงานและวัฒนธรรมในองค์กร อันจะนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจและขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านเครื่องสำอางและความงามของภูมิภาคได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0 2430 6883 กด 2  หรือติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this