“ข้าวแช่” สำรับเอกแห่งฤดูร้อน ในดินแดนแห่งทองคำ

Published on

เมื่อเข้าสู่หน้าร้อน คนไทยในสมัยก่อนก็รังสรรค์เมนูอาหารที่เหมาะกับการรับประทานในหน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็นอาหารประจำฤดูกาลอย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วง” “มะยงชิดลอยแก้ว” “ลูกตาลลอยแก้ว”   “ปลาแห้งแตงโม” เมนูชาววังอย่าง “ม้าฮ่อ” รวมไปถึงของว่างคลายร้อนที่หากินได้ทุกฤดูกาลอย่าง “เฉาก๊วย” หรือ “ลอดช่องแตงไทย”

เพราะอาหารการกินเป็นอีกวิถีที่แสดงออกถึงความเป็นไปในแต่ละฤดูกาล เมนูบางอย่าง หากไม่ถึงเวลา ก็จะไม่นิยมทำกินกัน ยกตัวอย่างเช่น “ข้าวแช่” อีกเมนูคลายร้อนที่หากินได้ยาก ด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน และช่วงเวลาที่เหมาะแก่การรับประทาน ทุกวันนี้เราจึงได้กินข้าวแช่ ในช่วงหน้าร้อน หรือประมาณเดือน เมษายน-พฤษภาคม เท่านั้น

“ข้าวแช่” เป็นอาหารชาววังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาวมอญ จึงกล่าวได้ว่า “ข้าวแช่” เป็นอาหารของชาวมอญ ซึ่งในอดีตนิยมทำเพื่อถวายเทพยดาและพระสงฆ์ ในช่วงวันสงกรานต์ “เชฟบังอร มาลาเล็ก”  หัวหน้าครัวไทย โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า ข้าวแช่เป็นอาหารมอญ ที่เริ่มต้นเข้ามาเป็นสำรับในวังในอดีต เนื่องจากมีผู้ไปพบเห็นชาวมอญทำข้าวแช่ในช่วงสงกรานต์ และเป็นอาหารว่างที่รับประทานแล้วชื่นใจ เหมาะกับหน้าร้อนของเมืองไทย จึงได้นำเมนูนี้เข้ามาเป็นหนึ่งในสำรับเพื่อถวายพระมหากษัตริย์ (ราวสมัยรัชกาลที่ 4- รัชกาลที่ 5)

“ข้าวแช่สุวรรณภูมิ” สำรับเอกฤดูร้อนหนึ่งเดียวย่านสุวรรณภูมิ โดยเชฟบังอร มาลาเล็ก หัวหน้าครัวไทย ที่ได้ศึกษาและฝึกฝนการทำข้าวแช่และอาหารไทยตำรับในวังตามแบบฉบับของหม่อมหลวงบัว กิติยากร และเชฟบังอรยังได้รับรางวัลพระราชทานต่างๆ มากมาย  เชฟได้ตั้งใจรังสรรค์เครื่องเคียง 9 ชนิดเพื่อให้สอดคล้องกับเลขมงคลของชาวไทย พร้อมประดับทองคำเปลวบนเครื่องเคียงเพื่อเป็นสิริมงคลและตอกย้ำในความหมายของคำว่าสุวรรณภูมิ “ดินแดนแห่งทองคำ” ข้าวแช่สุวรรณภูมินอกจากจะเป็นเมนูคลายร้อนแล้ว ยังถือเป็นของฝากอันล้ำค่าสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่ผู้ใดได้รับก็ย่อมสุขใจ

สัมผัสความสดชื่นไปด้วยการเริ่มต้นลิ้มรสความหอมสดชื่นจากน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียนที่เชฟบังอรนำข้าวหอมมะลิมาหุงและบรรจงขัดข้าวให้ขึ้นเงาจากนั้นจึงนำมานึ่งอีกครั้งก่อนนำมาแช่กับน้ำอบควันเทียน เชฟบังอรได้ใช้เวลาบรรจงรังสรรค์เครื่องเคียงและผักแนมแกะสลักอย่างละเมียดละไม กะปิชุบไข่ทอดไฮไลท์หลักของข้าวแช่ที่ใช้เวลาผัดให้เข้ากันนานถึง 8 ชั่วโมง เพื่อให้กะปิและเครื่องผัดรวมกันเป็นเนื้อเดียว, ปลาช่อนแห้งผัดหวาน, หัวไชโป๊วผัดหวาน, หัวไชโป๊วผัดไข่, หมูฝอย, เนื้อฝอย, หอมยัดไส้ปลาชุบแป้งทอด, พริกหยวกสอดไส้หมูผสมกุ้ง และไข่แดงเค็มชุบไข่ขาวทอดได้ความหอมมันของไข่แดง

ลูกกะปิ ใช้เวลาผัดให้เข้ากันนานถึง 8 ชั่วโมง
ไข่แดงเค็ม ใช้ไข่เค็มไชยาที่มีความหอมมัน
เนื้อฝอย สูตรอร่อย สามารถสั่งได้ในกรณีที่ท่านรับประทานเนื้อ
นอกจากปลาช่อนแห้งแล้ว ยังมีปลาสลิดทอด ซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัดสมุทรปราการ ถูกนำมารังสรรค์อยู่ในเมนูนี้ด้วย

เพื่อประสบการณ์การรับประทาน “ข้าวแช่สุวรรณภูมิ” ที่ดีที่สุดควรเริ่มจากการทานของคาวที่สุดก่อนอย่างลูกกะปิ เคี้ยวให้ได้ลิ้มรสชาติ แล้วจึงตักข้าวแช่ขึ้นทานตามพร้อมน้ำลอยดอกไม้สักเล็กน้อย รสชาติความเข้มข้นของเครื่องเคียงจะผสมผสานกับความเย็นของข้าวแช่ จากนั้นจึงตามด้วยเครื่องเคียงหวานอย่างปลาช่อนแห้งผัดหวาน และเครื่องคาวอื่นๆ สลับสับเปลี่ยนได้ตามชอบ โดยทานคู่กับผักแนมที่เชฟบังอรได้แกะสลักผักสดไว้สำหรับทานแกล้มอย่างประณีตงดงาม ไม่ว่าจะเป็น มะม่วงแก้วขมิ้น กระชาย ต้นหอม และแตงกวา

ไม่ควรตักเครื่องเคียงมาใส่ในถ้วยข้าวหรือมารวมอยู่ช้อนเดียวกันเพราะจะทำให้ความมันและความคาวจากเครื่องปรุงต่างๆ ปะปนลงไปในถ้วยทำให้น้ำดอกไม้มีกลิ่นคาวหรือไม่หอมกลมกล่อมเท่าที่ควร

เซ็ทตะกร้าสาน สำหรับการสั่งกลับบ้าน

ด้วยความพิถีพิถันในการรังสรรค์และการคัดสรรค์วัตถุดิบ ทำให้ข้าวแช่ของโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีรสชาติอร่อย หอม ชื่นใจ ตัวข้าวไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป ส่วนของน้ำก็หอมเย็นจับใจ ยิ่งปีนี้มีการผสมผสานแผ่นทองคำเปลวลงไป ทำให้เพิ่มความละเมียดละไมให้กับมื้อพิเศษนี้ได้อย่างมาก

สัมผัสความสดชื่นไปกับข้าวแช่สุวรรณภูมิได้ทั้งแบบเลือกรับประทานที่ห้องอาหารศาลาไทย ระหว่างเวลา 11.30 – 14.30น. ราคาชุดละ 780 บาท (กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า) และชุดตะกร้าสานสั่งกลับบ้านราคาชุดละ 990 บาท (สั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง) สามารถเลือกจุดรับได้ที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต หรือโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ สยามสแควร์ สั่งจองข้าวแช่สุวรรณภูมิล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2564 และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 พิเศษสำหรับสมาชิกแอคคอร์พลัส รับส่วนลดค่าอาหารเพิ่ม 10% จากราคาปกติ

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this