ฟิลิปส์เผยผลสำรวจ Future Health Index 2020

Published on

รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เผยผลสำรวจดัชนีสุขภาพ Future Health Index: FHI 2020 จากการศึกษาวิจัยใน 15 ประเทศ พบว่า บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเททำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อพัฒนาวงการเฮลท์แคร์ในยุคการระบาดของโควิด-19 พร้อมให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทำงานและความท้าทายในการปฏิรูปวงการเฮลท์แคร์

ผลสำรวจฉบับนี้ได้จัดทำเป็นปีที่ 5 แล้ว แต่ปีนี้เป็นครั้งแรกของโลกกับการสำรวจและเก็บข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี โดย Future Health Index (FHI) 2020 ได้ศึกษาวิจัยในหัวข้อ “The age of opportunity: Empowering the next generation to transform healthcare” เพื่อสะท้อนภาพความเป็นจริงของระบบสาธารณสุขในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 3,000 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก

การสำรวจนี้ให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดทิศทางวงการเฮลท์แคร์ของประเทศพวกเขาในอนาคต ผลการศึกษาเผยให้เห็นถึงทัศนคติและความเชื่อที่ดีต่อการทำงานของพวกเขา รวมถึงช่องว่างระหว่างการฝึกอบรมทางการแพทย์กับการปฏิบัติงานจริง และความคิดแง่บวกต่อดิจิทัล เฮลท์แคร์ ในโลกอนาคต จากการสำรวจติดตาม เป็นเวลาหลายเดือน ยิ่งตอกย้ำต่อมุมมองของพวกเขาให้ชัดเจนขึ้นจากประสบการณ์ในการรับมือกับโควิด-19 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

Future Health Index 2020 รายงานถึง 3 ประเด็นสำคัญที่พบ ดังต่อไปนี้:
1. บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ ทุ่มเทและเชื่อมั่นในเทคโนโลยีมากขึ้น
เมื่อเริ่มมีการระบาดของ โควิด-19 ร้อยละ 82 ของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า พวกเขายังคงพึงพอใจในงานที่ทำถึงแม้จะต้องรักษาผู้ป่วยมากขึ้นต่อสัปดาห์ (เฉลี่ยประมาณ 103 คน) ซึ่งจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากกว่าในสหรัฐอเมริกา (ประมาณ 99 คน) และในประเทศเนเธอร์แลนด์ (ประมาณ 65 คน) ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น ทำให้ร้อยละ 34 ของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด เผชิญภาวะความเครียดในการทำงานและมีความคิดที่จะเปลี่ยนงาน ในขณะที่ร้อยละ 45 ของบุคลากรทางการแพทย์ในซาอุดิอาระเบีย และร้อยละ 46 ในสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่ามีความคิดที่จะออกจากวิชาชีพ

ในช่วงหลายเดือนของการระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อประสบการณ์กาทำงานของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่อย่างน่าแปลกใจ โดยในรายงาน Future Health Index Insight พบว่า ร้อยละ 57 ของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในสิงคโปร์ยังคงมุ่งมั่นและมีความคิดบวกต่อการทำงาน จากประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับในช่วงเวลานี้ ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงจุดหมายในการทำงานมากขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 39 จากการสำรวจใน 5 ประเทศ และบุคลากรทางการแพทย์ได้รับความชื่นชมจากผู้ป่วยเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 64 ในสิงคโปร์ เทียบกับค่าเฉลี่ยร้อยละ 47 จากการสำรวจใน 5 ประเทศ)

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประสบการณ์ทำงานในช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในสิงค์โปร์ ร้อยละ 68 ก็ยังคงยืนยันว่าจะทำงานในวงการแพทย์ต่อไป ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในอเมริกามีเพียง ร้อยละ13 และในเยอรมนี มีเพียงร้อยละ 23 ที่มีแนวคิดเช่นนี้ เนื่องด้วยประเทศในเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญและมีการลงทุนพัฒนาในด้านดิจิทัล เฮลท์แคร์ บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคนี้จึงเชื่อมั่นในศักยภาพทางด้านข้อมูลและเทคโนโลยี ที่สามารถเข้ามาช่วยพัฒนาการทำงานของพวกเขา และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้

บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ยังเล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวงการเฮลท์แคร์ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยประมาณ 9 ใน 10 ของบุคลากรทางการแพทย์ (ร้อยละ87) มีความเห็นตรงกันว่า เทคโนโลยีดิจิทัลด้านสุขภาพที่เหมาะสม มีศักยภาพที่จะช่วยลดภาระงานของพวกเขาได้ ในขณะที่ร้อยละ77 กล่าวว่า เทคโนโลยีเหล่านั้นจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับผู้ป่วย และร้อยละ 76 กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยีสามารถช่วยลดความตึงเครียดในการทำงานได้

2. ช่องว่างที่มีอยู่เกี่ยวกับความคาดหวังและประสบการณ์ในการทำงานของแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทุ่มเทให้กับการดูแลรักษาผู้ป่วยและมีความเชื่อมั่นในงานที่ทำ แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พวกเขา (ร้อยละ 42) ยังมีความกังวลเกี่ยวกับช่องว่างทางทักษะที่พวกเขาต้องเจอในการทำงานจริง เมื่อเทียบกับความคาดหวังในขณะที่พวกเขาศึกษาด้านการแพทย์ อีกทั้งความเครียดในการทำงาน ยังส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคนี้ถึงร้อยละ 73 รู้สึกเหนื่อยล้า เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์

นอกเหนือจากการพัฒนาของ ดิจิทัล เฮลแคร์ แล้วบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังรู้สึกไม่พร้อมเมื่อต้องรับมือกับข้อมูลจำนวนมาก ประมาณครึ่งหนึ่ง(ร้อยละ 47) กล่าวว่า หลักสูตรการศึกษาด้านการแพทย์ที่พวกเขาเรียนมาเตรียมความพร้อมให้พวกเขาได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น และไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับงานด้านข้อมูล เช่น การวิเคราะห์และการตีความข้อมูล เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 51 ยังกล่าวว่า พวกเขาได้รับการฝึกอบรมในด้านนี้ขณะที่ทำงานหรือฝึกงานในโรงพยาบาล จึงพอจะช่วยลดช่องว่างด้านทักษะที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลได้

อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ56) ของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เชื่อว่าพวกเขาสามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินงานและการจัดการในโรงพยาบาลที่พวกเขาทำงานอยู่ ในขณะที่อีกกลุ่มกลับรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ถึงร้อยละ 48 รู้สึกว่าข้อเสนอและความคิดเห็นของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนอง รับฟังหรือยอมรับ นอกจากนี้การตัดสินใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ ยังส่งผลด้านลบต่อบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคนี้ถึงร้อยละ 30 และส่งผลต่อความพึงพอใจในการทำงานของพวกเขาด้วย

นอกจากนี้ บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่หลายคนยังกังวลว่าจะไม่สามารถรับมือกับความต้องการของระบบการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป และภาระงานด้านการจัดการที่มีมากขึ้น เช่น การทำเอกสารเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ และการเพิ่มขึ้นของการดำเนินคดี/ การเปิดเผยทางกฎหมาย เป็นสองประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความพึงพอใจของบุคลากรทางการแพทย์ในภูมิภาคนี้ (ร้อย38 และร้อยละ48 ตามลำดับ)

3. เสริมศักยภาพให้บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในเอเชียแปซิฟิก
แม้จะเผชิญกับความท้าทาย แต่การศึกษาของ FHI ยังระบุถึงความต้องการที่ชัดเจนของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ที่ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความร่วมมือกันและมีความยืดหยุ่น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงาน และการเปิดรับเอาเทคโนโลยีมาแบ่งเบาภาระในการทำงาน รวมถึงการผลักดันด้านการมีส่วนร่วม จากการสำรวจปัจจัยสำคัญในการเลือกสถานที่ทำงานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ มีการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย (ร้อยละ69) มีอำนาจในการตัดสินใจ (ร้อยละ65) มีวัฒนธรรมการทำงานร่วมกัน (ร้อยละ65) และมีความสมดุลระหว่างชีวิตงานและชีวิตส่วนตัว หรือ work-life balance (ร้อยละ71)

แคโรไลน์ คลาร์ค ประธานกลุ่มธุรกิจ ฟิลิปส์ อาเซียน แปซิฟิก กล่าวว่า “ปัจจุบัน บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงวงการเฮลท์แคร์ในอนาคต แต่พวกเขาหลายคนยังรู้สึกว่าความคิดเห็นของพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับ พวกเขาต้องพบกับอุปสรรคในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางคลีนิกในเชิงปฏิบัติ และต้องเผชิญความเครียดจากการอุทิศตนเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย การระบาดของโควิด-19 ทำให้เห็นถึงช่องว่างและโอกาสในการเปลี่ยนแปลงวงการเฮลท์แคร์ ที่สำคัญ คือ การสร้างและจัดเตรียมแพลตฟอร์ม และการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำงานอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ในปัจจุบัน เพื่ออนาคตของวงการเฮลท์แคร์ที่ดีขึ้น”

แคโรไลน์ คลาร์ค

นับตั้งแต่ปี 2559 ฟิลิปส์จัดทำการสำรวจ เพื่อระบุถึงความพร้อมของประเทศต่างๆ ในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพระดับโลก และช่วยสร้างระบบเฮลท์แคร์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัย Future Health Index methodology และการเข้าถึงรายงาน Future Health Index 2020 ฉบับเต็ม ซึ่งจะเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัย โควิด-19 และบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ Future Health Index

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this