พระสงฆ์-ฆราวาสเห็นพ้องโครงการ “ฉันดีมีสุข”

Published on

พระสงฆ์-ฆราวาสเห็นพ้องโครงการ “ฉันดีมีสุข”พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ให้ห่างไกล NCDs

อย. มุ่งพัฒนาพฤติกรรมการบริโภคกลุ่มเป้าหมายใหม่ จัดกิจกรรมโครงการ “ฉันดีมีสุข” ถวายความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการบริโภคอย่างเหมาะสมแด่พระสงฆ์ หวังผลให้พระสงฆ์มีสุขภาพดี  ห่างไกลโรค      ไม่ติดต่อเรื้อรัง และส่งต่อความรู้ไปยังฆราวาสและญาติโยม ให้สามารถดูแลตนเองในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัย รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดหวาน มัน เค็ม และรู้จักเลือกสังฆทานที่เหมาะสมถวายแด่พระสงฆ์ เผย ผลการดำเนินกิจกรรม สำเร็จลงด้วยดี โดยจากผลการวิจัยประเมินผลโครงการ พบว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีแนวโน้มที่จะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่ม และบริโภคอาหาร มากถึงร้อยละ 84.8

นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง โดยมักจะบริโภคอาหารรสจัดประเภทหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจนในประเทศไทย และจากรายงานภาระโรคของประชากร พบว่าจำนวนสัดส่วนของผู้เสียชีวิต มีจำนวนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยทุกปี นอกจากนี้ยังพบปัญหาฆราวาสถวายผลิตภัณฑ์อาหารใส่บาตรและสังฆทานที่ไม่มีคุณภาพ หรือหมดอายุ ทำให้พระสงฆ์ได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพจำพวกอาหาร ยา เครื่องสำอาง ( สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ ) ที่ไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัยมาบริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ในโครงการ “ฉันดีมีสุข” ภายใต้ธีม “อย. ห่วงใย พระสงฆ์บริโภคปลอดภัยไกลโรค NCDs” เพื่อให้ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มอย่างเหมาะสม และการใช้ยาให้ถูกต้อง รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพในชุดสังฆทานที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อให้พระสงฆ์ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมมีการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างเหมาะสม และส่งต่อความรู้ไปยังสาธุชนในการเลือกซื้อ เลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย รวมทั้งฆราวาสที่เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากจะสามารถดูแลตนเองได้แล้ว ยังสามารถรู้วิธีเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เหมาะสมใส่บาตรหรือถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์อีกด้วย ซึ่งปีนี้ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ในโครงการฉันดีมีสุข จำนวน 3 ครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2560 ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 จัดที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ และครั้งที่ 3 จัดที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง จังหวัดนนทบุรี กิจกรรมประกอบด้วย การตรวจสุขภาพ       วัดความดันโลหิต ตรวจหาปริมาณน้ำตาลในเลือด การอภิปรายถวายความรู้ แนะนำการอ่านฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์อาหาร การบรรยายเรื่อง “โภชนาการกับโรค NCDs” และ “การถ่ายทอดประสบการณ์การรักษาพระภิกษุที่อาพาธด้วยโรค NCDs” ซึ่งมีพระสงฆ์และฆราวาสเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า โครงการฉันดีมีสุขนี้มีการประเมินผลโครงการด้วย ซึ่งผลจากการประเมิน พบว่า การจัดกิจกรรมโครงการดังกล่าว สามารถสร้างการรับรู้ได้ในระดับที่ดี และเป็นการจุดหรือกระตุ้นให้พระสงฆ์และฆราวาสเห็นความสำคัญในการบริโภคอาหารปลอดภัยมากขึ้น     มีส่วนทำให้พระสงฆ์ เห็นความสำคัญในการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ขณะเดียวกัน พระสงฆ์เอง เห็นว่า ควรมีกิจกรรมแบบนี้ในทุก ๆ พื้นที่ และควรส่งเสริมให้ประชาชนที่ทำบุญตักบาตร รับรู้และมีความเข้าใจในการเลือกอาหารทำบุญได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการฉันดีมีสุข มีแนวโน้มที่จะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่ม และบริโภคอาหารมากถึงร้อยละ 84.80 แสดงให้เห็นว่า เมื่อรู้แล้วว่า การบริโภคอาหาร ที่จะลดหรือหลีกเลี่ยงการเป็นโรค NCDs ได้นั้น จะต้องบริโภคให้ถูกต้องอย่างไร โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความสำคัญกับกับการอ่านฉลากโภชนาการมากขึ้นถึงร้อยละ 80 และเห็นว่าการอ่านฉลากโภชนาการมีประโยชน์ทำให้ทราบข้อมูลและตัดสินใจเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ถูกต้อง และเหมาะสม มากขึ้น

ส่วนพฤติกรรมมีแนวโน้มที่ดีในการที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหาร  เนื่องจาก พระสงฆ์และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม มีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม มีความพยายามที่จะลดอาหารประเภททอด และกะทิ  เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรค NCDs ซึ่งถือว่าเป็นทิศทางที่ดี และสิ่งสำคัญนอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่มีการบอกต่อให้กับบุคคลใกล้ชิด    ซึ่งเป็นการเผยแพร่ ตักเตือน บอกกล่าวให้คนอื่นรู้ ทำให้มีคนรู้เรื่องเกี่ยวกับการบริโภคอาหารปลอดภัยที่ถูกต้องมากกว่าจำนวนของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม และเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยกันตักเตือน ป้องกัน ช่วยเหลือกันเวลาที่จะบริโภคอาหารได้

เลขาธิการ ฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ทาง อย. ก็จะคงมีการดำเนินโครงการเช่นนี้ในปีงบประมาณต่อไป โดยจะขยายการรณรงค์ไปยังพื้นที่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อเป็นการถวายความรู้แด่พระสงฆ์ซึ่งเป็นผู้นำทางความคิดของชุมชน เพื่อให้มีการขยายและส่งต่อความรู้ในการบริโภคที่ถูกต้องไปยังญาติโยมและสาธุชนทั้งหลาย ให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้ห่างไกลจากโรค NCDs ให้มากที่สุดต่อไป

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this