ส่อง 5 นวัตกรรมเอไอ ฝีมือเด็กวิศวะ มธ.

Published on

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ถูกพูดถึงมากขึ้นในยุคดิจิทัลนี้ แต่สำหรับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา และได้กลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ TSE จำนวน 5 ผลงาน ดังนี้

• “หนูขออ่าน” ตัวช่วยสถานพยาบาล ยกระดับการให้บริการสาธารณสุข
ความรวดเร็วและความแม่นยำในการตรวจคัดกรองทางการแพทย์ คือ หัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ รองศาสตราจารย์ ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิต อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาชุดตรวจคัดกรองผู้มีความบกพร่องในการเรียนรู้ (Learning Disabilities: LD) ด้วยเอไอบนแทปเลตหรือสมาร์ทโฟน เรียกว่า “หนูขออ่าน”

อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถคัดกรองเด็กที่มีความบกพร่องได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยใช้เวลาตรวจคัดกรองเพียง 30 นาที และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำถึงร้อยละ 95 นวัตกรรมนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างมาก ในการช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในสถานพยาบาลให้มีความคล่องตัว และช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยได้เข้าถึงการดูแลที่เหมาะสม อีกทั้งยังส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กไทยให้มีพัฒนาการที่สมวัยอีกด้วย

• “ก๊อปเกรดเอสะเทือน” แอปพลิเคชันตรวจกระเป๋าแอร์เมส เอไอที่แม่นยำกว่าสายตาของมนุษย์
ถึงแม้หลายประเทศจะมีกฎหมายเอาผิดกับผู้ผลิตสินค้าที่เลียนแบบเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง แต่กระบวนการผลิตที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ และใช้เวลานานกว่าจะรู้ผล จึงเป็นที่มาของการพัฒนาตัวช่วยในการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพที่แม่นยำ พัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิตเช่นกัน

ก๊อปเกรดเอสะเทือน ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจดจำและวิเคราห์ความแตกต่างได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชั่น โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก (Deep Neural Network) ในการตรวจจับรูปแบบและริ้วรอยบนโลโก้ของกระเป๋า รวมถึงวัสดุที่ใช้ด้วยวิธีง่ายๆ ใน 2 ขั้นตอน คือ “ถ่ายภาพโลโก้กระเป๋าต้องการตรวจ” แล้ว “กดประมวลผล” ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที โดยผลงานดังกล่าวได้รับรางวัลเหรียญทองแดง ด้านซอฟแวร์คอมพิวเตอร์จากงาน International Exhibition of Inventions of Geneva ครั้งที่ 44 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

• แพลตฟอร์มเอไอรางวัลระดับโลก ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
จากการที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้หลายหน่วยงานเร่งหามาตรการควบคุม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิศาล แก้วประภา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเอไอ “เอสซิท” (SCIT) ที่สามารถใช้งานได้กับรถยนต์ทุกรุ่น

แพลตฟอร์มดังกล่าวมีระบบแจ้งเตือนพฤติกรรมผู้ขับขี่เมื่อง่วงนอน คุยโทรศัพท์ ขับส่ายไปมา ไม่อยู่บนเส้นทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และยังสามารถตรวจจับแรงกระแทกจากการชน ซึ่งจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออัตโนมัติทันทีผ่านเทคโนโลยีไอโอที (IoT) เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ทำให้เอสซิทได้รับรางวัลเหรียญทอง ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดจากการประกวดนวัตกรรมนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

• โบราณสถานเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสำคัญของไทย ให้เอไอช่วยดูแล
ปัจจุบันเทคโนโลยีโดรนกลายเป็นทางเลือกสำหรับการถ่ายมุมสูง ที่สามารถทำลายอุปสรรคของการถ่ายภาพ เช่น ความสูง ความลาดชัน พื้นที่เสี่ยงอันตราย ผศ.ดร.กฤษฎา ไชยสาร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ได้นำประสิทธิภาพของโดรนมาต่อยอดในงานวิศวกรรม

โดยนำโดรนมาช่วยสำรวจโครงสร้างของโบราณสถาน ที่ประยุกต์กับความรู้ทางด้านวิศวกรรรมโยธา เพื่อตรวจสอบความแข็งแรง รอยร้าว การเอียง และการทรุด ซึ่งนำภาพที่ได้จากโดรน ไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Visual Inspection) เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาช่วยตรวจจับความผิดปกติของโครงสร้าง และสร้างแผนที่ความเสียหายได้อัตโนมัติ งานวิจัยดังกล่าว ได้รับรางวัลงานวิจัยดีเด่นจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ปี 2561 อีกด้วย

• แบบจำลองเอไอคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน ช่วยบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รากฐานของเศรษฐกิจและสังคมไทย ส่วนใหญ่มาจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งต้องพึ่งพาระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำ จึงมีความสำคัญต่อการวางแผนการเพาะปลูก อีกทั้งการขยายตัวของชุมชนเมืองและภาคอุตสาหกรรม ล้วนส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำ

รองศาสตราจารย์ ดร.อุรุยา วีสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา และคณะ ได้ออกแบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างแบบจำลองการพยากรณ์ฝน ที่สามารถคาดการณ์ปริมาณฝนในแต่ละพื้นที่ได้แบบรายปี ซึ่งนำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออก รองรับการเติบโตของอีอีซี ผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัล Special Prize จากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในการประกวดนวัตกรรมนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

ปีนี้ TSEเตรียมจะจัดงานใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ภายใต้แนวคิด “30 ปีแห่งความภูมิใจ TSE เป็นมากกว่าวิศวกร” เพื่อนำเสนอสุดยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมรางวัลระดับโลกรวมถึงการประกาศจุดยืนการผลิตวิศวกรรุ่นใหม่ ที่จะร่วมผลักดันโรดแมปวิศวกรรมเพื่อประชาชน ในวันที่ 19 สิงหาคม 2562

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th และ Facebook fanpage ของ TSE ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this