เต็ดตรา แพ้ค หนุนผู้ประกอบการเครื่องดื่มในประเทศไทย คว้าโอกาสในตลาดกาแฟพร้อมดื่มแบบพรีเมียม หรือ Premium Ready-to-Drink Coffee ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมจัดกิจกรรม “Tetra Pak Coffee Express: Explore the World of RTD Coffee” ณ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า กรุงเทพฯ (Customer Innovation Centre – CIC Bangkok) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ทดลองและต่อยอดผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่ตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมกาแฟพร้อมดื่มและโซลููชันแบบครบวงจร
ตลาดกาแฟพร้อมดื่มในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีแนวโน้มเติบโตแตะมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 6 แสนห้าหมื่นล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2573 ด้วยอัตราขยายตัวเฉลี่ยถึง 5.26 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ขณะที่ในประเทศไทย กระแสการเติบโตเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนด้วยพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่กำลังมองหากาแฟพร้อมดื่มรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีความแตกต่างทั้งด้านรสชาติ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการมอบคุณประโยชน์เสริมด้านสุขภาพ
ซึ่งตรงกับงานวิจัยจาก Mintel ที่ระบุว่า 52% ของผู้บริโภครุ่นใหม่ในประเทศไทยต้องการทดลองผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีหลากหลายรสชาติและรูปแบบที่แตกต่าง และรายงานจาก First Insight ที่ระบุว่าผู้บริโภค Gen Z มากกว่า 60% ต้องการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม[1]
กระแสดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมกาแฟพร้อมดื่มในมิติใหม่ ๆ ทั้งในด้านรสชาติ คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ และการใช้บรรจุภัณฑ์ที่พกพาสะดวกและใส่ใจเรื่องความยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จในตลาดกาแฟพร้อมดื่มในปัจจุบันไม่ได้อาศัยเพียงการขยายช่องทางจำหน่ายอย่างเดียว หากแต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีที่แบรนด์สามารถผสมผสานจุดเด่นด้านคุณประโยชน์ รสชาติ และเรื่องราวของแบรนด์เข้าด้วยกัน เพื่อเชื่อมโยงถึงไลฟ์สไตล์และค่านิยมของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างตรงจุด
“กาแฟพร้อมดื่มในวันนี้ไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายอีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นเครื่องดื่มที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้คน และสามารถส่งมอบคุณประโยชน์ต่าง ๆ เช่น พลังงาน สมาธิ และสุขภาวะที่ดีให้แก่ผู้ดื่มได้ในทุกจิบ” สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“ผู้บริโภคในปัจจุบันกำลังมองหากาแฟพร้อมดื่มที่เข้ากับวิถีชีวิตที่เร่งรีบและค่านิยมส่วนตัว ตั้งแต่เรื่องความยั่งยืน คุณประโยชน์ด้านสุขภาพ ไปจนถึงประสบการณ์ระดับพรีเมียม กระแสความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์ไทยที่จะแสดงศักยภาพในการเป็นผู้นำนวัตกรรมในตลาดกาแฟพร้อมดื่ม”
“สำหรับ เต็ดตรา แพ้ค หน้าที่ของเราเป็นมากกว่าผู้ให้บริการโซลูชัน เรามุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่พร้อมเดินหน้าไปพร้อมกับผู้ประกอบการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการตลาด วัตถุดิบ ไปจนถึงการนำเสนอโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ไอเดียสู่การผลิตจริงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราเชื่อว่าความร่วมมือที่แข็งแกร่งนี้จะช่วยเปลี่ยนความต้องการของผู้บริโภคให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จได้จริง” สุภนัฐ กล่าวเสริม
ในส่วนของกิจกรรม “Tetra Pak Coffee Express: Explore the World of RTD Coffee” ที่จัดขึ้นที่ CIC Bangkok เต็ดตรา แพ้ค ได้เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าและพันธมิตรมาร่วมเดินทางสู่โลกของกาแฟพร้อมดื่มผ่านการสัมผัสประสบการณ์ที่ผสมผสานทั้งข้อมูลเชิงลึก ไอเดียเพื่อต่อยอดนวัตกรรม และสาธิตกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วม หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมคือเวิร์กช็อปสุดพิเศษจากคุณแทน แทนพงศ์ ทรงพานิช บาริสต้าและโค้ชด้านกาแฟเจ้าของรางวัลระดับโลก และผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Fika & Co. Café และ Niko Neko Matcha Thailand
แทนพงศ์ ผู้ชนะเลิศจากเวที FHA Singapore Barista Challenge 2024 และโค้ชมืออาชีพที่อยู่เบื้องหลังแชมป์บาริสต้าหลายคนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ได้พาผู้เข้าร่วมงานสัมผัสประสบการณ์กาแฟพร้อมดื่มสุดพิเศษ ผ่านกิจกรรม Omakase Coffee Experience และ Coffee Mixology Session ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ลิ้มลองกาแฟพร้อมดื่มสูตรต้นแบบ และร่วมสร้างสรรค์สูตรกาแฟในแบบของตนเอง
นอกจากนี้ ยังได้แบ่งปันเทคนิคการชงกาแฟ การปรับสมดุลของรสชาติ และแนวทางพัฒนารสชาติใหม่ ๆ พร้อมจุดประกายไอเดียให้ผู้ประกอบการมองเห็นความเป็นไปได้ในการต่อยอดกาแฟคุณภาพระดับบาริสต้า ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่พร้อมออกสู่ตลาดอย่างแท้จริง
“ตลาดกาแฟพร้อมดื่มของไทยยังเต็มไปด้วยโอกาส หน้าที่ของเราคือการช่วยให้ลูกค้าปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ เพื่อคว้าโอกาสและก้าวหน้าสู่ความสำเร็จ” สุทธินันท์ เตชะทยานนท์ ผู้จัดการ ฝ่าย Customer Experience บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าที่กรุงเทพฯ และศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดตัวในจังหวัดระยอง จะทำหน้าที่เป็นศูนย์พัฒนานวัตกรรมแบบครบวงจรที่เหมาะสำหรับการทดลอง การพัฒนาสูตร และการทดลองตลาดในช่วงเริ่มต้นสำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟผสมนมธัญพืช กาแฟสูตรน้ำตาลต่ำ หรือกาแฟที่มอบคุณประโยชน์ต่อสุขภาพเฉพาะด้าน เต็ดตรา แพ้ค พร้อมเดินเคียงข้างผู้ประกอบการไทย ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทดลองสูตร ไปจนถึงวันที่ผลิตภัณฑ์ประสบความสำเร็จ”
นอกจากการสนับสนุนนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์แล้ว เต็ดตรา แพ้ค ยังมีโซลูชันบรรจุภัณฑ์และการแปรรูปสำหรับกาแฟพร้อมดื่มที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตในทุกระดับ โดยมีตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกโอกาส เช่น
Tetra Prisma® Aseptic Edge บรรจุภัณฑ์สำหรับกาแฟพร้อมดื่มแบบพกพา (grab-and-go) ที่สะดวกต่อการถือดื่มระหว่างวัน
Tetra Classic® Aseptic Base Plus บรรจุภัณฑ์สำหรับกาแฟเข้มข้นแบบช็อต เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่าในปริมาณที่พอดี
Tetra Rex® และ Tetra Brik® Aseptic Edge บรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับครอบครัว ที่มอบประสบการณ์การดื่มกาแฟคุณภาพระดับคาเฟ่ ในรูปแบบที่สะดวกยิ่งขึ้น
ในส่วนของกระบวนการผลิต เต็ดตรา แพ้ค ได้พัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปที่ล้ำสมัย ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถมั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบยูเอชที (Ultra-high Temperature – UHT) ที่ใช้สำหรับการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิสูง ระบบสกัดเมล็ดกาแฟ (Coffee Extraction Unit) เพื่อคงรสชาติและกลิ่นกาแฟไว้ครบถ้วน และระบบผสมแบบต่อเนื่อง (Continuous Blending Unit) ที่ช่วยให้กระบวนการผสมส่วนประกอบเป็นไปอย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ จนได้ผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่มีคุณภาพคงที่ มีความปลอดภัย และสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็นและไม่ต้องใช้วัตถุกันเสีย
[1] Mintel: คาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคทั่

