นักวิชาการมหิดล ยืนยัน! นมไทยคุณภาพระดับสากล แนะคนไทยเลือกดื่มนมอย่างรู้เท่าทัน

Published on

ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า นมไทยทุกกล่อง ผ่านกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดในทุกขั้นตอนก่อนถึงมือผู้บริโภค ยืนยันคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล

อยากขอแนะนำให้คนไทยดื่มนมอย่างรู้เท่าทัน โดยอ่านฉลากเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้สารอาหารเหมาะสมกับสุขภาพและช่วงวัย พร้อมโชว์นวัตกรรมโภชนาการจากนมไทย ที่ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ในราคาที่เข้าถึงได้ ภายใต้สัญลักษณ์แบรนด์ Mahidol Collection โดยสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (INT) มหิดล กับบทบาทสำคัญในการผลักดัน ส่งเสริม และเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมาตรฐานสูง สร้างโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงและร่วมมือพัฒนานวัตกรรมคุณภาพจากมหิดลได้อย่างมั่นใจ

กว่าจะเป็น “นมไทยหนึ่งกล่อง”

ผศ.ดร.สุภัทร์ อธิบายว่า กระบวนการผลิตนมในประเทศไทย อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมปศุสัตว์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) โดยโรงงานนมทุกแห่งต้องผ่านมาตรฐาน GMP ซึ่งควบคุมตั้งแต่สุขลักษณะของฟาร์ม วัตถุดิบ การขนส่ง ไปจนถึงกระบวนการบรรจุและการเก็บรักษา

โดยฟาร์มโคนมที่จำหน่ายน้ำนมให้กับโรงงานผลิตต้องผ่านการรับรองคุณภาพวัตถุดิบ และมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำนมดิบทุกล็อตก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต ส่วนโรงงานขนาดใหญ่หรือผู้ผลิตนมรายหลักอื่น ๆ ในประเทศ จะมีการยกระดับมาตรฐานเพิ่มเติม เช่น HACCP, ISO 17025, และบางแห่งยังได้รับมาตรฐาน Codex Alimentarius ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ในระดับโลก

ในกรณีที่นมมีการเสริมคุณค่า เช่น แคลเซียม วิตามินดี หรือโปรตีนสูง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามมาตรฐานการกล่าวอ้างสารอาหาร ของ อย. โดยข้อมูลที่ระบุบนฉลาก เช่น “โปรตีนสูง” หรือ “แคลเซียมสูง” ต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน และมีหลักฐานยืนยันว่ามีสารอาหารตามเกณฑ์ที่กำหนดจริง

“กระบวนการตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า นมที่ออกจากโรงงานในประเทศไทยทุกกล่องปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการตามที่ระบุไว้บนฉลาก เพราะข้อมูลทุกบรรทัดไม่สามารถใส่ได้ตามความเชื่อ แต่ต้องผ่านผลการวิเคราะห์จริงจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองคุณภาพระดับประเทศ” ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล กล่าว

นมสด” หรือ “นมผง” ต้องเลือกอย่างไร?

มีความเชื่อว่านมสดให้คุณค่ามากกว่านมผง ซึ่งไม่ถูกต้องเสมอไป ผศ.ดร.สุภัทร์ อธิบายว่า ทั้งน้ำนมโคสดแท้และนมที่ผลิตจากนมผงคืนรูปสามารถให้สารอาหารใกล้เคียงกันได้หากผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน “ที่จริงแล้วนมผงก็คือนมสดที่ผ่านกระบวนการทำให้เป็นผง โดยถึงแม้ขั้นตอนการผลิตนมผงบางครั้งอาจทำให้โปรตีนหรือวิตามินบางส่วนในน้ำนมหายไปเพียงเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิตก็สามารถตรวจสอบ ควบคุม และเติมสารอาหารเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายหรือ Finishing Goods ของนมผงมีสารอาหารหรือประโยชน์เทียบเท่ากับนมวัวได้ สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกดื่มนมหรืออาหารใดๆ คือผู้บริโภคควรรู้ว่าเรากำลังบริโภคอะไรอยู่และเราต้องการสารอาหารอะไรจากสิ่งนั้น เพราะฉะนั้นการจะบอกว่าอันนี้ดีกว่าอันนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสูตรหรือยี่ห้อ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการอะไรและสารอาหารนั้นเหมาะกับร่างกายเราหรือไม่”

ทั้งนี้อาจารย์แนะนำให้ใช้ข้อมูลบนฉลากโภชนาการ เป็นเครื่องมือสำคัญในการเลือกบริโภคนมและอาหาร เพราะฉลากจะระบุชัดเจนถึงปริมาณ โปรตีน ไขมัน และคอเลสเตอรอลต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งหากเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะสามารถเลือกดื่มนมให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละช่วงวัยได้

แนวทางการดื่มนมในแต่ละวัย

เด็กเล็ก (1–3 ปี): ดื่มวันละ 2 แก้ว เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟัน

วัยรุ่น: ดื่มวันละ 1–2 แก้ว เพื่อเพิ่มแคลเซียมและโปรตีนสำหรับการเจริญเติบโต

วัยทำงาน: ดื่มวันละ 1 แก้ว หรือเลือกสูตรไขมันต่ำ

ผู้สูงอายุ: ดื่มวันละ 2 แก้ว เน้นสูตรแคลเซียมสูง และหากมีอาการท้องอืด ควรเลือกสูตร ปราศจากแลคโตส

จากน้ำนมไทยสู่ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์พร้อมการรับรอง Mahidol Collection

หนึ่งในผลงานที่สะท้อนศักยภาพของนมไทยอย่างชัดเจน คือการต่อยอดน้ำนมโคไทยสู่ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ โดยทีมวิจัยของ ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยใช้น้ำนมโคไทยคุณภาพสูงที่ปราศจากแลคโตสผสมกับโปรตีนข้าวกล้องไทยที่ย่อยง่าย เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์นำเข้าราคาแพงจากต่างประเทศ

ที่ผ่านมาอาหารทางการแพทย์ส่วนใหญ่ในไทยต้องนำเข้า ทำให้มีราคาสูงและเข้าถึงยาก แต่ผลิตภัณฑ์นี้สามารถจำหน่ายได้ในราคาประมาณ 49 บาทต่อมื้อ ซึ่งถูกกว่าผลิตภัณฑ์นำเข้าถึงสามเท่า และอยู่ระหว่างการยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็น อาหารทางการแพทย์ในอนาคต

“เราต้องการสร้างสูตรโภชนาการครบถ้วนที่ใช้ได้จริงสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ผลิตภัณฑ์นี้ใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งหมด เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้ และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย” ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล กล่าว

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสูตร Complete Formula ที่จัดสมดุลสารอาหารหลัก ได้แก่โปรตีนจากนมโคคุณภาพสูง ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, คาร์โบไฮเดรตจากข้าวกล้องไทย ซึ่งเป็นพลังงานย่อยช้า อิ่มนาน, และไขมันดีจากกรดไขมันไม่อิ่มตัว Omega 3, 6 และ 9 ที่ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด

โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้มีสัญลักษณ์แบรนด์ Mahidol Collection ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ยืนยันว่าเป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (INT) มหิดล มีบทบาทสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมการใช้แบรนด์ Mahidol Collection เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมาตรฐานสูง สร้างโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงและร่วมมือพัฒนานวัตกรรมคุณภาพจากมหิดลได้อย่างมั่นใจ

โปรตีนทางเลือกจาก “ไข่ขาว” อีกหนึ่งนวัตกรรมสุขภาพจากมหิดล

ถึงแม้นมจะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพที่เข้าถึงง่าย อย่างไรก็ตามหลายท่านอาจมีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถบริโภคนมได้ ดังนั้นโปรตีนจากแหล่งพลังงานอื่นจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดลคือการพัฒนาเครื่องดื่มโปรตีนคุณภาพสูงจากไข่ขาว

โดย อ.ดร.ดลพร แซ่แต้ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่าโปรตีนไข่ขาวเป็นโปรตีนคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน เหมาะกับผู้รักสุขภาพและผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีนอย่างเร่งด่วน เครื่องดื่มดังกล่าวให้โปรตีนเทียบเท่าการบริโภคไข่ขาว 4–5 ฟองต่อขวด ผ่านการทดสอบความพึงพอใจจากผู้บริโภคไทยกว่า 1,000 ราย และมีหลายรสชาติ เช่น โกโก้ กาแฟลาเต้ กรีนทีลาเต้ และชาไทย ดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นคาว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ผลงานเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (INT) มหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะ “ประตูสู่โอกาสทางนวัตกรรม” ที่นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาสร้างผลลัพธ์จริงเพื่อช่วยแก้ปัญหาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย

เกี่ยวกับสถาบัน INT มหิดล : สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (INT) มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งเป็น Innovation Gateway of Mahidol University ขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมที่สร้าง Real World Impact เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั้งในไทยและทั่วโลก

Latest articles

16 ปีแห่งความภาคภูมิใจ GSK สานต่อพันธกิจ “Ahead Together”

บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK ผู้ค้นคว้าวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนนวัตกรรมระดับโลก รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2025 ระดับแพลตินัม จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) ติดต่อกันเป็นปีที่ 16

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ส่งต่ออาหารส่วนเกินให้สัตว์ป่า มุ่งลดปริมาณขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อเนื่องอีกครั้ง เพื่อสานต่อโครงการสนับสนุนอาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้จากแม็คโครและโลตัส มอบให้แก่สัตว์ป่าภายใต้การดูแลของกรมอุทยานฯ ทั่วประเทศ

เครือ รพ.พญาไท-เปาโล ผนึก PROUD REAL ESTATE ให้บริการ Telecare

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เดินหน้าสร้างมาตรฐานการดูแลสุขภาพยุคใหม่ ร่วมกับ PROUD REAL ESTATE สานต่อพันธกิจด้านสุขภาพด้วยการนำบริการ Telecare เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพในโครงการที่อยู่อาศัย

KBank เสริมแกร่ง SC Asset หนุน 2,500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า

กสิกรไทย หนุน SC Asset วงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของทั้งภาคโลจิสติกส์ ภาคการผลิต ตลอดจนอุตสาหกรรมใหม่ๆ ด้วยพื้นที่รวมกว่า 180,000 ตร.ม.

More like this