นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ชวนเหล่านักเดินทางนักชิมไปดื่มด่ำกับความเขียวขจีของป่าไม้และรสชาติจัดจ้านของอาหารจานเด็ดที่เป็นซิกเนเจอร์ของสำรับชาวใต้ กับเซอร์ไพรซ์อาหารใต้ที่นำเสนอในกลิ่นอายญี่ปุ่นรังสรรค์โดยเชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะนะสุต เสิร์ฟในเบนโตะสุดชิคในทริปพิเศษ Funtast(e)tic
ทริปนี้ นิสสัน พาเราไปล่องใต้ 3 วัน รวมระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรจากชุมพรสู่ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และปิดท้ายที่สงขลา ไม่พลาดจุดเช็คอินยอดนิยม โดยมีนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ รถยนต์ MPV 7 ที่นั่งที่ให้ความสะดวกสบายเหมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ ขับสนุก มั่นใจกับสมรรถนะแบบรถยนต์ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า 100% น่าประทับใจกับรายละเอียดที่สะท้อนความใส่ใจผ่านมาตรฐานการผลิตที่เต็มไปด้วยคุณภาพแบบญี่ปุ่น หรือ Japan Quality
ทริปพิเศษนี้เริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดชุมพร มุ่งหน้าสู่จังหวัดระนอง แวะถ่ายภาพกับน้ำตกปุญญบาลน้ำตกสายเล็กๆ ริมถนนเพชรเกษมที่มีน้ำไหลรินตลอดทั้งปี ก่อนตัดเข้าทางตอนเหนือของจังหวัดพังงา และมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านเขาสกที่ได้ชื่อว่าเป็นช่วงที่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่มีทางโค้งขึ้นและลงเขาตลอดเส้นทาง
ชมวิวสดชื่นไปพร้อมๆ กับชิมอาหารไทยในร่างญี่ปุ่นที่จัดเสิร์ฟมาในเบนโตะขนาดน่าเอ็นดูฝีมือเชฟบุ๊คไปด้วย ให้อารมณ์ผ่อนคลายมากๆ แม้จะเป็นการเดินทางระยะไกลกว่า 500 กิโลเมตรในวันที่ต้องตื่นเช้าก็ตาม ก่อนจะได้พักร่างบนเตียงนุ่มๆ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันแรก
วันที่ 2 ของทริปนี้ ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ล็อตแรกสำหรับคนรักธรรมชาติ และคนชอบขับรถ แม้ว่าโปรแกรมวันนี้จะได้ขับเพียงประมาณ 250 กิโลเมตร แต่เส้นทางสู่นครศรีธรรมราชวันนี้ สวยและท้าทายมากทั้งสำหรับคนขับและคนนั่ง เพราะบางช่วงจะตัดเลียบชายฝั่งมองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าครามไกลๆ
จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงเขาพลายดำที่มีถนนลาดชันขึ้นลงเขาและมีโค้งให้ได้ขับสนุก ท้าทายความสามารถในการขับรถได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเทคโนโลยีอีพาวเวอร์ ใน นิสสัน เซเรน่า ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะตอบสนองทันใจแบบรถไฟฟ้า 100% เร่งแซงได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
ขณะที่คนขับก็สนุก คนนั่งก็สบาย เพราะนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ มีที่นั่งที่ค่อนข้างกว้าง กระชับรับสรีระ นั่งสบาย กระจกที่ใหญ่รอบคันเห็นวิวสองข้างทางกว้าง เห็นป่าเขียวๆ ให้ความผ่อนคลาย เห็นได้ชัดเจนรอบด้านผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยลดความรู้สึกที่เกือบจะเมารถได้ดี และทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลพิเศษในชีวิตเมื่อเดินทางถึงหมู่บ้านคีรีวง เมืองที่ได้ชื่อว่าอากาศสะอาดมีโอโซนมากที่สุดในประเทศไทย และมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
ที่บ้านคีรีวง มีจุดให้ถ่ายภาพและเช็คอินมากมาย ค่อยๆ เดินชมเมือง ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กันสักพักก่อนเดินทางต่อไปยังตัวเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นที่พักในคืนที่สอง
วันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้จะสิ้นสุดที่สงขลา ระยะทางขับรถ 350 กิโลเมตร แต่มีที่ให้แวะถ่ายภาพ แวะพักผ่อน ชมวิวมากมาย เริ่มจากช่วงสายๆ ที่สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หรือ สะพานเอกชัย สะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวถึง 5.5 กิโลเมตรข้ามทะเลน้อย ในเขตจังหวัดพัทลุงมองเห็นทุ่งบัวแดงที่ออกดอกสะพรั่ง นกน้ำนานาชนิด และควายปลัก ถูกใจสายรักธรรมชาติ 
ต่อด้วยตัวเมืองเก่าสงขลาที่ใครมาก็ต้องถ่ายภาพกับสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส โรงสีแดงซึ่งเป็นโรงสีข้าวเก่าทาสีแดงที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองและปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองในฐานะศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้
สำหรับสายช็อปและสายชิม เมืองสงขลาถือได้ว่าเป็นสวรรค์ทั้งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบร้านกาแฟเก๋ๆ สไตล์โมเดิร์นที่แฝงกลิ่นอายวิถีชีวิตชาวใต้ หรือคนที่ชอบงานอาร์ตซึ่งมีสตรีทอาร์ตบนกำแพงอาคารเก่าหลายแห่ง และร้านของกินของฝากที่รวมสารพัดสินค้าให้นักชิมได้ชิมและซื้อกลับบ้านกันเต็มที่
ก่อนจบทริป นิสสัน ยังมีอีกหนึ่งเซอร์ไพรซ์ให้เราได้ร่วมสนุกช็อปตามลิสต์และต้องนำมาจัดเก็บในห้องสัมภาระท้ายรถให้ได้พอดี ซึ่งนอกจากจะให้ทุกคนได้ช็อปและชิมแล้ว ยังต้องงัดทักษะในการจัดพื้นที่เพื่อให้เก็บของที่ซื้อมาได้ครบถ้วน ซึ่งก็ไม่ได้ยาก เพราะนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ มีที่จุของเยอะ และยังปรับที่นั่งได้ถึง 13 แบบ ทั้งสำหรับขนของเยอะ หรือปรับที่นั่งให้ผู้โดยสารทำกิจกรรมที่ชอบระหว่างเดินทางได้สะดวก เรียกว่าได้สัมผัสกับความอเนกประสงค์ของ นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ได้เต็มที่ด้วย

