แอลจี ประกาศเดินหน้าในการยกระดับโรงงานแอลจีในจังหวัดระยอง จากการเป็นฐานการผลิตหลักสู่การเป็นศูนย์กลางด้าน R&D ที่สำคัญ ผสานแนวคิด K-Tech (Korean Technology) นำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีขั้นสูงจากเกาหลีมาถ่ายทอดและพัฒนาร่วมกับบุคลากรไทย จนเกิดเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ทีมวิศวกรไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการออกแบบและพัฒนาเครื่องซักผ้าฝาบนกว่าร้อยละ 90 ของรุ่นที่ส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก
การยกระดับสู่ศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดศักยภาพบนฐานความแข็งแกร่งของโรงงานแอลจีในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์แอลจีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน ด้วยกำลังการผลิตกว่า 5.9 ล้านเครื่องในปี 2567 และมีสัดส่วนการส่งออกกว่าร้อยละ 80 ไปยังตลาดสำคัญทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง แคนาดา เม็กซิโก และออสเตรเลีย
ซึ่งบทบาทนี้ตอกย้ำความสำคัญของประเทศไทยในฐานะ 1 ใน 18 ประเทศทั่วโลกที่แอลจีเข้ามาลงทุนครบวงจรทั้งด้านการตลาด การขาย และฐานการผลิต สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมในภูมิภาค
ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาศักยภาพครั้งนี้ว่า “วิสัยทัศน์ของแอลจี คือการยกระดับศักยภาพของโรงงานในประเทศไทยให้เป็นมากกว่าฐานการผลิต แต่เป็นศูนย์กลางที่สร้างสรรค์และต่อยอดนวัตกรรมจากประเทศเกาหลีใต้ ความสำเร็จของทีมวิจัยและพัฒนาของไทยในการเป็นผู้นำการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลนั้น เป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายการลงทุน
ด้านการพัฒนาบุคลากรและการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องระหว่างบริษัทแม่ในสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศไทย ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญให้กับแอลจีในตลาดโลก”
ปัจจุบัน โรงงานแอลจีที่ระยองเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าเป็นสัดส่วนการผลิตหลักที่ร้อยละ 39 ซึ่งครอบคลุมทั้งเครื่องซักผ้าฝาบน ถังคู่ และเครื่องอบผ้า ตามมาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ที่ร้อยละ 45 และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเพรสเซอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นที่ร้อยละ 16
เพื่อรองรับการเติบโตและแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2563 แอลจีได้จัดสรรงบประมาณการลงทุนเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยปีละ 500-800 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มศักยภาพการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการยกระดับระบบความปลอดภัยทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานภายในโรงงาน ซึ่งการลงทุนนี้สอดรับกับการคาดการณ์ยอดการส่งออกที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืน โดยโรงงานของแอลจี จังหวัดระยองมีการจัดหาชิ้นส่วนและวัตถุดิบจากผู้ผลิตภายในประเทศไทย (Local Supplier) ในสัดส่วนที่มากกว่าร้อยละ 70 เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่งและสนับสนุนเศรษฐกิจของคู่ค้าในประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพด้านการจ้างงานในพื้นที่กว่า 1,850 อัตรา
การยกระดับบทบาทของโรงงานในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 28 ปี จากฐานการผลิตสู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและการออกแบบ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ที่มีต่อศักยภาพของบุคลากรและระบบเศรษฐกิจของไทย และเป็นการวางตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและนวัตกรรมของแอลจีในเวทีการแข่งขันระดับสากลต่อไป

