MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ เปิด 5 กลยุทธ์ ก้าวสู่แบรนด์ชั้นนำระดับภูมิภาค ขยายการเติบโตแบรนด์ของตัวเอง ส่งนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ เจาะ 4 กลุ่มประเทศหลัก ตั้งเป้าปี 2569 – 2571 เติบโตเฉลี่ย 10-15% ชี้ตลาดน้ำมะพร้าวมาแรง จ่อคิวส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบรับ MEGA TREND
เอกรินทร์ พินิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า กว่า 47 ปีที่ มาลี กรุ๊ป ยืนหยัดในฐานะแบรนด์ที่เชื่อในพลังจากธรรมชาติจากพืชและนม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสุขภาพที่ดีและความสุขในทุก ๆ วัน ส่งผลให้ Malee เป็นแบรนด์ครองความเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในกลุ่มน้ำผลไม้พรีเมียมพร้อมดื่ม มีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และในประเทศเวียดนาม อีกทั้งยังมีฟาร์มโคนมอีก 1 แห่ง โดยโรงงานทั้ง 3 แห่งสามารถดำเนินการผลิตเครื่องดื่มอย่างครบวงจร อาทิ น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ผลไม้กระป๋อง น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม ชา กาแฟ นมและนมทางเลือก ฯลฯ รวมกำลังการผลิต 749 ล้านลิตรต่อปี โดยทำการผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง 35% รับจ้างผลิต 65%
ล่าสุด MALEE ได้ประกาศวิสัยทัศน์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า (2569 – 2571) ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ เพื่อก้าวสู่ “Global Wellbeing Company” มุ่งสร้างการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 10-15% โดยปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะไต่สู่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับ กลยุทธ์หลักในการปั้นแบรนด์สู่ Global Wellbeing Company ประกอบด้วย
1.ธุรกิจตราสินค้า (Brand Business) มุ่งสร้างการเติบโตจากแบรนด์ของตัวเอง ด้วยนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็น MEGA TREND ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง พร้อมทั้งการปักธงในตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มประเทศหลัก คือ จีน เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง และอินโดนีเซีย ทั้งนี้คาดว่าภายในปี 2571 กลุ่มตราสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทฯ จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 35% เป็น 55%
2.ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และรับจ้างผลิต (Contrack Manufacturing: CMG) ยังคงรักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่องด้วยการรักษาพันธมิตรเดิมและการมองหาพันธมิตรใหม่ พร้อมทั้งการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับลูกค้าในกลุ่มนี้
3.การบริหารจัดการภายใน เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยอาศัยการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และปรับปรุงระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมุ่งยกระดับการผลิตอย่างยั่งยืน ลดการใช้ทรัพยากร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4.การวิจัยและพัฒนา ผ่านบริษัท MAS (Malee Applied Science) ในเครือมาลี กรุ๊ป ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง อาหารเสริม ฯลฯ
5.การยกระดับวัฒนธรรมองค์กร เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรให้พร้อมรับการแข่งขันในปัจจุบัน

เรืองรัตน์ ว่องสุวรรณเลิศ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานการตลาด บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่สำคัญในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำผักผลไม้ และน้ำมะพร้าว จาก Insight ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและเชิงป้องกันมากขึ้น มีส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น
บริษัทฯ จะพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Malee Power Plants ที่มีความโดดเด่นของนวัตกรรม INNOGUTZ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงด้วยพรีไบโอติกส์และโพสไบโอติกส์ พร้อมต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในปี 2569
นอกจากนี้จะปรับภาพลักษณ์แบรนด์ Malee และ Malee COCO ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมการตลาดที่หลากหลาย เช่น การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ การจัดอีเวนต์ และการสื่อสารเชิงนวัตกรรม และขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งกลุ่ม Food Service และ Online
บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตจากการขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยธุรกิจตราสินค้า (Brand Business) จะยกระดับแบรนด์ “Malee” สู่การเป็น “Wellness Lifestyle Brand” ระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยใช้นวัตกรรมเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละประเทศ
สำหรับภาพรวมตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตประมาณ 2%โดยแบ่งเป็นกลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มระดับพรีเมียม 4,000 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มาแรงคือ น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม โดยคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากสอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพ อีกทั้ง ปัจจุบันมีแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น
โดยเมื่อเดือนมิ.ย. 2568 แบรนด์น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม MALEE COCO ได้ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของตลาดน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มในประเทศไทย ที่สัดส่วนราว 30% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ อาทิ จีนและเกาหลีใต้ มีการตอบรับที่ดีต่อ MALEE COCO และคาดว่ายังมีโอกาสเติบโตที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีความใส่ใจต่อสุขภาพ ดังนั้นในอนาคตบริษัทฯ มีแผนการแนะนำสินค้าใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง

