STELLA กางผลประกอบการไตรมาสที่ 3 กวาดยอดขายกว่า 568 ล้าน เติบโต 48% จากปีก่อนหน้า รวมยอดขายสามไตรมาส 1,355 ล้านบาท เติบโต 228% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตอกย้ำแนวทางการบริหารงานและปัจจัยความสำเร็จที่ยั่งยืน เผยไตรมาสที่ 4 เตรียมเปิดตัวบ้านโครงการใหม่อีก 2 โครงการมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท มั่นใจพร้อมส่งมอบสินค้า-บริการคุณภาพตอบโจทย์ Space for Tomorrow
รองฤทธิ์ ธรรมสถิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท สเตลล่า เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ STELLA เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ มียอดขาย (Booking) ถึง 568 ล้านบาท เติบโต 111% ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้สะสมสามไตรมาสอยู่ที่ 508 ล้านบาท เติบโต 98% และมียอดขายรวมจนถึงปัจจุบัน 1,355 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 228% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่มียอดขาย 412 ล้านบาท
“ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์ปัจจุบันยังคงไปได้ดี ตลาดยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการอย่างแท้จริง (Real Demand) และเรายังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากเราวางรากฐานพอร์ตโฟลิโอกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุมหลากหลายตลาด หลากหลายเซ็กเมนท์มาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งบ้านเดี่ยวโนวา ลาดกระบัง-สุวินทวงศ์ รวมถึงมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางภายใต้แบรนด์สตาร์รี่คอนโด รามอินทรา กม. 8 ที่ทยอยสร้างยอดจองและยอดโอนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน” รองฤทธิ์ กล่าว
บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ในไตรมาสที่ 4 อีก 2 โครงการ ภายใต้แบรนด์ แอสตร้า พระราม 2 และโนวา เวสต์เกต มูลค่ารวมกว่า 900 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์และตรงใจลูกค้า มาพร้อมกับความคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย เพิ่มพื้นที่ความสุขสำหรับวันนี้และอนาคตสำหรับทุกคนในครอบครัว
“บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ระหว่างวันที่ 7 – 9 ตุลาคม 2568 และ วันที่ 15-17, 20 ตุลาคม 2568 มูลค่ารวม 350 ล้านบาท (4 ชุด) ให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จาการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการของบริษัทฯ ต่อไป ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอของทุกภาคธุรกิจ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้” รองฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นตามแผนกลยุทธ์วางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคตผ่าน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งเน้นที่อยู่อาศัยและโรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่ 2. ศูนย์สุขภาพระดับสากลที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และ 3. การลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านพันธมิตระดับประเทศ