“เปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ผลลัพธ์” โอสถสภา เปิดแผนยั่งยืน 2573 ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

Published on

ผลิตภัณฑ์ของโอสถสภาเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทยมากว่า 130 ปี แต่ความผูกพันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนเท่านั้น โอสถสภาได้บูรณาการการดำเนินธุรกิจเข้ากับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติด้วยแนวคิดว่า ‘ธุรกิจต้องเติบโตไปพร้อมกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม’

จากก้าวแรกในปี 2562 ที่โอสถสภาได้วางกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (ESG) ไว้ 5 ด้าน พร้อมตั้งเป้าหมายและมีกระบวนการติดตามผลที่ชัดเจน ปลูกฝังดีเอ็นเอด้านความยั่งยืนจากผู้บริหารสู่พนักงานทุกคนทั่วองค์กร ทำให้วันนี้โอสถสภาได้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนระยะแรก ‘เปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ผลลัพธ์’ ในการเป็นพลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต

อร่อยและสุขภาพดีไปพร้อมกัน

ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใส่ใจและรักสุขภาพมากขึ้น โอสถสภาได้ตั้งเป้าหมาย การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้บริโภค (Consumer Health and Well-Being) คิดค้นนวัตกรรมปรับสูตรเครื่องดื่มทั้งหมดให้มีปริมาณน้ำตาลลดลง จากเดิมเฉลี่ย 12.5% จนเหลือต่ำกว่า 6% โดยยังคงรสชาติความอร่อย พร้อมเพิ่มคุณประโยชน์เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐในการรณรงค์ให้ประชาชนลดการบริโภคน้ำตาล ยืนยันบทบาทของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

ลดที่เรา เบาที่โลก

โอสถสภาตั้งเป้าหมาย ด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดต้องสามารถนำไปรีไซเคิล หรือนำกลับไปใช้ซ้ำหรือย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในปี 2030 (เป็นเป้าหมายระยะยาว) โดยในปี 2025 บริษัทฯ สามารถยกเลิกการใช้พลาสติก PVC ในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ตลอดจนออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ใช้พลาสติกน้อยลง เช่น เบบี้มายด์ ฟิล์มลูกอมโอเล่ ลดน้ำหนักขวดแก้วเครื่องดื่ม M-150 ลง 15% แต่ยังคงความแข็งแรง ช่วยลดทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและลดก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตและการขนส่ง

เติบโตร่วมกับ “คู่ค้า” ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

โอสถสภาให้ความสำคัญกับคู่ค้าและเกษตรกรรายย่อย จึงได้ตั้งเป้าหมาย ห่วงโซ่อุปทานยั่งยืน (Sustainable Supply Chain) พร้อมสนับสนุนคู่ค้ากว่า 1,000 ราย ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้คู่ค้าปฏิบัติตามหลัก ESG อาทิ การเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการเกษตรรายย่อยผู้ปลูกอ้อย ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรับมือ Climate Change

การบริหารจัดการน้ำ (Water Management) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องดื่มซึ่งเป็นสินค้าหลักของโอสถสภาโดยตั้งเป้าหมายลดการใช้ทรัพยากรน้ำในกระบวนการผลิตให้ได้ 35% ต่อรายได้ ซึ่งปัจจุบันสามารถลดได้ 35.04% ต่อรายได้ เทียบกับปีฐาน 2561

ด้านพลังงานและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Energy and Climate Management) โอสถสภาตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ 2 จากกระบวนการผลิตลง 15% ต่อรายได้ เมื่อเทียบกับปีฐาน 2565 แต่ปัจจุบันสามารถลดได้แล้วถึง 44.33% ต่อรายได้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมาก

จากก้าวแรกของความสำเร็จในการขับเคลื่อนความยั่งยืน ส่งผลให้โอสถสภาคว้ารางวัล Industry Mover จาก S&P Global 2 ปีซ้อน (2566-2567) โดยปี 2567 โอสถสภาเป็นบริษัทเดียวในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลกที่ได้รับรางวัลนี้ “ความสำเร็จก้าวแรกของเรา เกิดจากการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตั้งแต่พนักงาน คู่ค้า ไปจนถึงหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายบนกระดาษ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการทำงานและ DNA ขององค์กร เป็นความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นร่วมกันสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และเป็นแรงผลักดันให้โอสถสภาก้าวสู่เป้าหมายต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน” วรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโอสถสภา กล่าว

ก้าวต่อไปของโอสถสภาคือการขยายกรอบความยั่งยืนให้ครอบคลุมรอบด้านยิ่งขึ้น ซึ่งพิจารณาจากความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย เมกะเทรนด์ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยังคง 5 ประเด็นเดิมไว้ และเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็นใหม่ ได้แก่ ด้าน Human Capital Development and Labor Practices ด้วยการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร A-C-T เพื่อขับเคลื่อนโอสถสภาให้เติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ควบคู่กับการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมในที่ทำงาน เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญ การทำให้พนักงานรู้จักและเข้าใจจะเป็นแรงขับเคลื่อนการนำนโยบายและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ

และ ด้าน Waste Management ด้วยการยกระดับจากการลดการ ฝังกลบไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่ให้กับของเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยเฉพาะขยะขวดแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในระยะยาว การขยายกรอบความยั่งยืนและสานต่อเป้าหมายระยะยาว 2569–2573 ตอกย้ำบทบาทของโอสถสภาในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทย ที่มุ่งยกระดับการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจ พัฒนาสังคม และดูแลสิ่งแวดล้อม

Latest articles

กรังด์ปรีซ์™ ซีซั่น สิงคโปร์ เปิดฉากความสนุกการแข่งขัน

กรังด์ปรีซ์™ ซีซั่น สิงคโปร์ (GPSS) กลับมาอีกครั้งในวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568 จัดเต็มด้วยกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่คัดมาแล้วในธีมแข่งรถทั่วเมือง ตลอด 10 วันแห่งความสนุกนี้จัดขึ้นเพื่อเติมเต็มบรรยากาศการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน หรือสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์™ ที่สนับสนุนโดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมทั้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวและชาวสิงคโปร์มาร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในหลายย่านทั่วสิงคโปร์ ตอบโจทย์ความสนใจของของผู้ชมที่หลากหลาย

อาลีบาบา คลาวด์ เผยแผนกลยุทธ์นวัตกรรม AI ยุคหน้า

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครบวงจรชุดล่าสุด ในงาน Apsara Conference 2025 งานประชุมประจำปี เพื่อโชว์เคสเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด...

ORIGIN VERTICAL โกยยอดขายคอนโดฯต่างชาติครึ่งแรกปี’68 กว่า 2,800 ล้านบาท

ORIGIN VERTICAL ตอกย้ำผู้นำเจ้าตลาดขายคอนโดฯต่างชาติ โชว์ยอดขายต่างชาติ ชื้อคอนโดครึ่งแรกปี 2568 ทะลุกว่า 2,800 ล้านบาท ชี้ “รัสเซีย-จีน-ไต้หวัน” ครองสัดส่วนซื้อคอนโดฯมากสุด

W9 Wellness Center ชี้ “อาหารคลีนก็ทำให้อ้วนได้” กับดักสุขภาพที่รบกวนฮอร์โมนโดยไม่รู้ตัว

กินคลีนแล้วทำไมยังอ้วน? คำถามยอดฮิตที่ยังไม่มีคำตอบสำหรับใครหลายคน ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การหันมากินอาหารคลีนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนกลับตั้งคำถามว่า "ทั้งที่กินคลีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดลง

More like this