เดลล์ เทคโนโลยีส์ เผยผลสำรวจเชิงลึก องค์กรในเอเชียแปซิฟิกใช้ AI เร่งยกระดับการทำงาน

Published on

เดลล์ เทคโนโลยีส์ (NYSE: DELL) และ NVIDIA มอบหมายให้ IDC ทําการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมเกี่ยวกับแนวโน้มการนํา AI ไปใช้ในองค์กรทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก พร้อมให้คําแนะนําเชิงกลยุทธ์สําหรับธุรกิจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนความสําเร็จด้าน AI ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ใน IDC InfoBrief เรื่องการสร้างต้นแบบการใช้งาน AI ของคุณ (Creating your AI Implementation Blueprint) (เอกสาร ##AP242506IB, มกราคม 2025)

ประเด็นสำคัญ:

AI, GenAI และ แมชชีน เลิร์นนิ่ง กําลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วเอเชียแปซิฟิก แต่หลายองค์กรต้องดิ้นรนกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากร ความซับซ้อนในการผสานรวมการทำงาน และการปรับกลยุทธ์ AI ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ IDC InfoBrief “การสร้างต้นแบบการใช้งานAI ของคุณ” ซึ่งได้รับมอบหมายจาก เดลล์ เน้นย้ำว่าพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสามารถช่วยให้ธุรกิจเชื่อมช่องว่างเหล่านี้ได้อย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการนํา AI มาใช้เป็นไปอย่างราบรื่น

ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ AI: ข้อมูลเชิงลึกที่สําคัญจาก “การสร้างต้นแบบการใช้งาน AI ของคุณ”

เมื่อมีการนํา AI มาปรับใช้ขยายตัวเร็วขึ้นทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก หลายองค์กร กำลังเข้าถึงการใช้กลยุทธ์การผสานรวมมากขึ้น โดยให้ความสำคัญไปที่กรณีการใช้ GenAI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงาน เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล

อย่างไรก็ตาม การนํา AI ไปใช้นั้นไม่ได้ปราศจากความท้าทายโดยสิ้นเชิง – องค์กรธุรกิจยังคงต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่พัฒนาแล้วซึ่งมีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทําให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ความสําเร็จของความคิดริเริ่ม AI แล้ว ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งาน คุณภาพ และการกํากับดูแลข้อมูล การจัดการกับปัจจัยเหล่านี้ผ่านการผสมผสาน ระหว่างการลงทุนภายในและความร่วมมือภายนอกเป็นกุญแจสําคัญในการปลดล็อกศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่

IDC InfoBrief ได้สรุปการค้นพบที่สําคัญหลายประการเกี่ยวกับการนํา AI มาใช้ในเอเชียแปซิฟิก:

Source: IDC’s AI, GenAI and Insights Survey, July 2024, APAC data, N=450

(within the IDC InfoBrief, “Creating Your AI Implementation Blueprint”)

  • AI และ GenAI ขับเคลื่อนนวัตกรรมทางธุรกิจ: การนํา AI มาใช้เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดเซิร์ฟเวอร์ที่เน้นการใช้ AI ในเอเชียแปซิฟิก คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 23,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ส่วนการใช้จ่ายในเอเชียแปซิฟิกใน GenAIได้รับแรงผลักดันเช่นกัน โดย 84% ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ตั้งใจจะจัดสรรระหว่าง 1 ถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้สําหรับโครงการริเริ่มของ GenAI ในขณะที่องค์กรทั่วโลกใช้งบประมาณราว 33% กับ GenAI แต่ ในเอเชียแปซิฟิกจัดสรรให้งบประมาณให้กับ GenAI เพียง38% ของงบประมาณที่ใช้กับ AI ทั้งหมด หากเทียบกับการใช้งบประมาณไปกับ AI กลุ่มคาดการณ์และการตีความที่ 61%

แม้ว่าองค์กรธุรกิจต่างๆ จะเห็นศักยภาพมากมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานและการมีส่วนร่วมของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่หลายคนยังคงเผชิญกับความท้าทายในการปรับความคิดริเริ่ม AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และรวม AI เข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ ในขณะที่ 35% ขององค์กรในอาเซียนอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนํา AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งไปใช้ และ 21% ขององค์กรที่ตอบแบบสำรวจนี้ มองว่าความสามารถของพวกเขามีความก้าวหน้าอย่างเป็นระบบแล้ว ด้วยการนำ AI ปรับใช้งานในหลายฟังก์ชั่น

  • กลยุทธ์การปรับใช้ AI ที่กำลังพัฒนาขึ้น: กลยุทธ์การปรับใช้ AI และ GenAI กําลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิก โดยมีคลาวด์สาธารณะ (รวมถึงมัลติคลาวด์) เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับ AI ส่วนตัวและการปรับใช้ในองค์กร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความปลอดภัย ประสิทธิภาพด้านต้นทุน การแบ่งปันข้อมูลและการทํางานร่วมกันที่ได้รับการปรับปรุง และข้อกําหนดเฉพาะของอุตสาหกรรม ธุรกิจกําลังเปลี่ยนจากโมเดล AI ทั่วไปเป็นแบบพิเศษ

โดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับแรก ความสมบูรณ์ของระบบ และตัวเลือกโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับให้เหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่เป็นสาธารณะ ทั้งแบบมัลติคลาวด์ แบบไฮบริดและไพรเวทคลาวด์

  • ความท้าทายและข้อควรพิจารณาที่สําคัญในการขยายขีดความสามารถ AI และ GenAI:องค์กรต้องเผชิญกับข้อกังวลที่สําคัญเมื่อ GenAI มีการขยายขีดความสามารถ ต้นทุนด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ในขณะที่ ต้องบรรลุข้อผูกพันด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วย รวมถึงการขาดแคลนทักษะสามารถทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลล่าช้าลงได้ ทําให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ช้าลง และส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ด้านคุณภาพ – มากกว่า 72% ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกเน้นย้ําถึงความจําเป็นในการใช้ข้อมูลและความรู้ด้าน AI ในการจ้างงานใหม่ๆ เพื่อลดช่องว่างการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI

ทั้งนี้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวยังคงเป็นข้อกังวลหลัก ทีมไอทีต้องเพิ่มความพร้อมสําหรับการนํา GenAI มาใช้ ในขณะที่องค์กรคาดหวังให้ผู้ให้บริการภายนอกรับรองความปลอดภัยของระบบ AI ไม่ว่าจะเป็นความเป็นส่วนตัว ความน่าเชื่อถือ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย และการพัฒนา AI โมเดลแบบกําหนดเอง แม้จะมีความท้าทาย แต่องค์กรธุรกิจยังคงมองว่า GenAI คุ้มค่ากับความพยายาม เนื่องจากเป็นตัวขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดําเนินงาน ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้นและการสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่

  • การวางรากฐานสําหรับความสําเร็จของ AI: องค์กรในเอเชียแปซิฟิกกําลังใช้แนวทางที่แนวทางที่เป็นระบบและแบ่งเป็นขั้นตอนในการนํา AI มาใช้งาน โดยจัดลําดับจากความสําคัญของกรณีการใช้งานที่มีผลกระทบสูงและให้ผลตอบแทนที่วัดผลได้ในขณะเดียวกันก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางรากฐาน AI ที่แข็งแกร่งต้องอาศัยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง บุคลากร, กระบวนการ และเทคโนโลยี โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องให้สำคัญ ได้แก่ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่พร้อมใช้งาน การปลูกฝังทีมที่เน้นให้ความสำคัญกับ AI เป็นหลัก การปรับกลยุทธ์ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ และการใช้การกํากับดูแลข้อมูลที่แข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจและความสําเร็จของ AI ในระยะยาว
  • การพึ่งพาความเชี่ยวชาญด้าน AI เฉพาะทางเพื่อเอาชนะความท้าทาย: ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกตระหนักถึงคุณค่าของการเป็นพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับขนาดได้และลดช่องว่างด้านทักษะ ปัจจุบันองค์กรต่างๆ กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากร ความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและความซับซ้อนในการผสานรวมเป็นอุปสรรคสําคัญต่อความสําเร็จของ AI ธุรกิจจํานวนมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพึ่งพานักพัฒนาแปพลิเคชั่นจากภายนอก (60%)

ในขณะที่มีเพียง 30% เท่านั้นที่พัฒนาแอปพลิเคชั่น AI ภายในองค์กร และประมาณ 10% ใช้โซลูชัน AI สำเร็จรูปเชิงพาณิชย์ (commercial off-the-shelf : COTS) องค์กรที่ประสบความสําเร็จกําลังมองหาหาพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสําหรับ AI โรดแมป โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น การสนับสนุนการใช้งานจากผู้เชี่ยวชาญและการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อลดช่องว่างด้านความสามารถภายในองค์กรและเร่งการปรับใช้ AI ผู้จำหน่ายเทคโนโลยีที่นําเสนอโซลูชันที่ครอบคลุม สามารถปรับเปลี่ยนได้ และปรับขนาดได้จะอยู่ในตําแหน่งที่ได้เปรียบในการตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจเหล่านี้ที่เปลี่ยนแปลงไป

การค้นพบที่สําคัญของแต่ละอุตสาหกรรม: อุตสาหกรรมธนาคารและบริการทางการเงิน, อุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมพลังงาน, อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์, อุตสาหกรรมค้าปลีก

อุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกําลังถูกเปลี่ยนแปลงโดย AI, GenAI และแมชชีน เลิร์นนิ่ง โดยองค์กรต่างๆ นํา AI มาปรับใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและพัฒนานวัตกรรม ภูมิภาคนี้กําลังนํากรณีตัวอย่างการใช้งาน GenAI มาใช้ในองค์กรอย่างรวดเร็ว

โดย 87.4% ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปรับใช้ GenAI จากกรณีศึกษา มากกว่า 10 กรณีในปี 2024 และ 25.6% กล่าวว่าพวกเขาจะมีกรณีตัวอย่างการใช้งาน GenAI มากกว่า 100 กรณีในปี 2025 กรณีตัวอย่างการใช้งานเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายหน้าที่ทางธุรกิจ รวมถึงการดําเนินงานด้านไอที การตลาด การจัดการซัพพลายเชน ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ โดยผู้นําธุรกิจจะกลายเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจที่สำคัญ

  • อุตสาหกรรมธนาคารและบริการทางการเงิน: กลุ่มนี้เป็นผู้นําด้านการนํา AI และ GenAI มาใช้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย 84% ขององค์กรเหล่านี้ใช้ AI อยู่แล้ว และ 67% กำลังปรับใช้ GenAI ส่วน 72% ของผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมธนาคารและบริการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเชื่อว่า GenAI ดิสรัปกลุ่มนี้ในอีก 18 เดือนข้างหน้า แอปพลิเคชันหลัก ได้แก่ การตรวจจับการฉ้อโกง การต่อต้านการฟอกเงิน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดําเนินงาน

ด้วยการใช้จ่ายของ AI และ GenAI ในบริการทางการเงินที่คาดว่าจะเติบโตที่อัตราแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ 25 – 31% ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2028 องค์กรต่างๆ กําลังปรับขนาดความคิดริเริ่มด้าน AI ในหลายฟังก์ชัน ตั้งแต่การบริการลูกค้าและการสรรหาบุคลากร ไปจนถึงการจัดซื้อจัดจ้างและการปฏิบัติตามกฎหมาย ธนาคารสนับสนุนการเขียนโซลูชั่น AI (47.8%) ซึ่งองค์กรจะนำโมเดล GenAI ที่มีอยู่มาปรับแต่งบนแพลตฟอร์ม AI แบบองค์กร เพื่อสร้างความยืดหยุ่น แต่ยังคงต้องการการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย การจัดการข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐาน

  • อุตสาหกรรมการผลิต: 78% ของผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ AI และ 54% ใช้ GenAI อุตสาหกรรมกําลังขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน การบํารุงรักษาเชิงคาดการณ์ และการควบคุมคุณภาพ การคาดการณ์ความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการตรวจสอบการผลิตแบบเรียลไทม์ช่วยลดเวลาหยุดทํางาน ลดของเสียและเพิ่มความแม่นยําในการปฏิบัติงาน โดย 49% ของผู้ผลิตชอบสร้างโซลูชั่น AI ขึ้นเอง และมองหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในระบบบริหารการผลิต (MES) การรวมซัพพลายเชน และการเพิ่มทักษะของพนักงาน

โดย 52% ของผู้ผลิตเชื่อว่า GenAI จะเข้ามาดิสรัปส่วนนี้ภายใน 18 เดือน มีการเร่งการผลิตอัตโนมัติ การให้คะแนนลูกค้าเป้าหมายเชิงคาดการณ์ และดิจิทัล ทวิน โมเดล–ความก้าวหน้าในการผลิตอย่างชาญฉลาดและสายการผลิตที่คล่องตัวและมีความแม่นยําสูง

  • อุตสาหกรรมพลังงาน: อุตสาหกรรมภาคพลังงานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกําลังนํา AI (83%) และ GenAI (73%) มาใช้เพื่อปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพกริดการบํารุงรักษาเชิงคาดการณ์และการกระจายพลังงานปรับปรุงประสิทธิภาพและลดเวลาหยุดทํางาน โดย 42% ของบริษัทพลังงานกําลังปรับแต่งโมเดลอย่างละเอียดซึ่งใช้ข้อมูลขององค์กรเพื่อปรับปรุงสมาร์ทกริดและแพลตฟอร์มพลังงาน บริษัทพลังงานหลายแห่งพึ่งพาผู้จำหน่ายเทคโนโลยีภายนอกเนื่องจากช่องว่างด้านทักษะและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งต้องการการสนับสนุนเฉพาะทางสําหรับการจัดการข้อมูลและการเพิ่มทักษะของพนักงาน ทั้งนี้ 54% เชื่อว่า GenAI จะดิสรัปโมเดลธุรกิจของพวกเขาในอีก 18 เดือนข้างหน้า

กรณีของตัวอย่างการใช้งานยอดนิยม ได้แก่ การเปิดใช้งานการขาย ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการปรับปรุง และดิจิทัล ทวิน โมเดล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และแนวทางปฏิบัติด้าน AI อย่างมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งสําคัญ โดยบริษัทระดับโลกสร้างฮับ AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในการจัดการกริดและเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด

  • กลุ่มอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์: 86% ของบริษัทเฮลท์แคร์ในภูมิภาคนี้กําลังใช้ AI โดย 59% นํา GenAI มาใช้เพื่อปรับปรุงการวินิจฉัย การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และแผนการรักษาเฉพาะบุคคล กรณีตัวอย่างการใช้งานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น การตรวจสอบผู้ป่วยแบบเรียลไทม์และการคาดการณ์ความต้องการ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับเวิร์กโฟลว์ ลดข้อผิดพลาดและปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย โดย 58.2% ขององค์กรกลุ่มเฮลท์แคร์สร้างโซลูชั่นAI ขึ้นเอง โดยปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะทาง เช่น การวินิจฉัย

ในขณะที่ผู้จำหน่ายเทคโลยีช่วยแก้ไขช่องว่างด้านทักษะ AI และความซับซ้อนด้านกฎระเบียบ ซึ่ง 67% ของบริษัทกลุ่มนี้เชื่อว่า GenAI จะดิสรัปรูปแบบธุรกิจภายใน 18 เดือน การลงทุนด้าน AI คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเป็นเลิศทางคลินิก ประสิทธิภาพการดําเนินงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงิน ซึ่งช่วยให้สามารถเปลี่ยนแปลงการดูแลผู้ป่วยในและการวางแผนการรักษาได้

  • อุตสาหกรรมค้าปลีก: ภาคค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกําลังได้รับการปฏิรูป โดย 82% ของบริษัทค้าปลีกใช้ AI และ 63% ใช้ GenAI ควบคู่ไปกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นใน AI และเอเจนต์GenAI ขณะที่ เอเจนต์ AI ในปัจจุบันมีความสําคัญอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจค้าปลีกโดยการขับเคลื่อนคําแนะนําแบบเฉพาะบุคคล ใช้ในการวางแผนสินค้าคงคลังเชิงคาดการณ์และกลยุทธ์การกําหนดราคาแบบไดนามิก โดย 42% ของผู้ค้าปลีกคาดว่า GenAI จะดิสรัปโมเดลธุรกิจภายใน 18 เดือน

โดยมีกรณีการใช้งานที่สําคัญอื่นๆ รวมถึงดิจิทัลคอมเมิร์ซ และการวิเคราะห์การฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น ผู้ค้าปลีกกําลังสร้างโซลูชัน AI เพื่อใช้เองมากขึ้น (43.3%) แต่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านความพร้อมของข้อมูลและความพร้อมของผู้มีทักษะ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ผู้ค้าปลีกกําลังมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสามารถด้าน AI ภายในเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและประสิทธิภาพการดําเนินงาน ในขณะเดียวกันก็พึ่งพาผู้จำหน่ายเทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านทักษะ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับงานต่างๆ เช่น ความปลอดภัยของข้อมูลและการรวมระบบ

มุมมองผู้เชี่ยวชาญ:

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีศักยภาพมหาศาลในการเป็นผู้นําของการนํา AI มาใช้และนวัตกรรม ถึงเวลาแล้วที่องค์กรต่างๆ จะก้าวข้ามการพิสูจน์แนวคิด (POC) และมุ่งเน้นไปที่การบรรลุผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่วัดผลได้” คริส เคลลี่ รองประธานอาวุโส กลุ่มโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน ฝ่ายขายเฉพาะทาง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว

“การเดินทางสู่ ROI ที่สม่ําเสมอนั้นซับซ้อนและต้องการการสนับสนุนที่ครอบคลุมในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ การพัฒนากรณีการใช้งาน การเตรียมข้อมูล การกํากับดูแล การเพิ่มประสิทธิภาพ และการปรับขนาดการใช้งาน AI ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านเทคโนโลยี องค์กรต่างๆ สามารถเอาชนะความท้าทายในการนําไปใช้และเร่งเส้นทางสู่ผลลัพธ์ AI ที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์ที่สร้างผลกระทบ”

วิธีการวิจัย:

ผลการวิจัยใน IDC InfoBrief ซึ่งสนับสนุนโดย เดลล์ เทคโนโลยีส์ และ NVIDIA “การสร้างต้นแบบการใช้งาน AI ของคุณ (Creating Your AI Implementation Blueprint)” (IDC #AP242506IB) มกราคม 2025 อ้างอิงจากแหล่งข้อมูล IDC หลายแหล่งและการสํารวจที่ดําเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 ถึงสิงหาคม 2024 ซึ่งครอบคลุมผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 919 คนในอุตสาหกรรมในเอเชียแปซิฟิก การวิจัยประเมินแนวโน้มการนํา AIGenAI และ ML มาใช้ ความท้าทาย และแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการนําไปใช้

Latest articles

เปิดตัว “TED Fellow Awards 2025” ผนึกยูโอบี-กรุงศรี เสริมเขี้ยวเล็บสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีโลก

TED Fund เดินหน้าสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมครบวงจร ขยายเครือข่ายพี่เลี้ยง TED Fellow เพิ่ม 4 หน่วยงาน พร้อมเปิดตัว “TED Fellow Awards 2025”...

“The M.O.V.E. by Honda” Immersive Experience Center แห่งแรกในไทย

“The M.O.V.E. by Honda” ศูนย์สร้างประสบการณ์เสมือนจริงแห่งแรกของแบรนด์ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ โดยจะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2569

แมวฟินแน่! ที่ลับเล็บแผ่นกระดาษลูกฟูก VETRESKA Chroma Cat Scratcher

VETRESKA แบรนด์ของใช้สำหรับน้องหมาน้องแมว ขอแนะนำ VETRESKA Chroma Cat Scratcher ที่ลับเล็บแมวดีไซน์สุดล้ำที่ผสมผสานความสวยงามและความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว

ไมเร็กซ์ เผยเหตุผลของคนชอบทำอาหาร ส่ง ‘EASY COOKING BY MEYER’ หนุนยอดเพิ่ม 15%

ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องครัวชั้นนำของโลก เปิดเผย 6 เหตุผลของคนชอบทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน พร้อมเสิร์ฟไอเดีย ‘EASY COOKING BY MEYER’ รับกระแส Home Cooking ที่ยังคงแรงต่อเนื่อง

More like this