สสส.-ม.มหิดล เปิด “รายงานสุขภาพคนไทย ปี 68” พบคนไทย 13.4 ล้านคน เผชิญปัญหาสุขภาพจิต อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี การเข้าถึงบริการสุขภาพจิตยังต่ำมาก อัตราส่วนบุคลากรด้านจิตเวชยังห่างไกลค่าเฉลี่ยโลก เผย 18 จังหวัดขาดจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัว “รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568” นำเสนอสัญญาณเตือนสำคัญของสังคมไทย ผ่าน 10 ตัวชี้วัด เรื่อง สุขภาพจิตคนไทย เปิด 10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ปี 2568 พร้อมเรื่องพิเศษประจำฉบับ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ ต้องปรับและรับมืออย่างไร” มุ่งสะท้อนปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และภาพรวมสุขภาวะคนไทย
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. จัดทำรายงานสุขภาพคนไทยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 ตามแผนพัฒนาระบบ และกลไกสนับสนุนเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อคืนข้อมูลที่สำคัญด้านสุขภาวะต่อสังคมไทย และเปิดพื้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวิชาการจากสถานการณ์สุขภาพในหลากหลายมิติ ไม่จำกัดเพียงแค่สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจของคนไทย แต่สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของระบบสุขภาพที่มีความสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และนโยบายของภาครัฐ
รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568 มี 4 ส่วนหลักสำคัญ 1.หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพจิตคนไทย” นำเสนอข้อมูลสถานการณ์และปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพจิตในไทย พร้อมนำเสนอตัวชี้วัดเรื่องนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต 2.สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ นำประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมไทยในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมสะท้อนข้อเสนอแนวทางพัฒนานโยบายด้านสุขภาพ
3.เรื่องพิเศษประจำฉบับ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ ต้องปรับและรับมืออย่างไร” นำเสนอปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และ 4.ผลงานดีๆ เพื่อสุขภาพคนไทย นำเสนอความสำเร็จทางการแพทย์และสาธารณสุข
รศ.ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ หัวหน้าโครงการจัดทำรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568 กล่าวว่า ตัวชี้วัด ปี 2568 นำเสนอสถิติในประเด็น “สุขภาพจิตคนไทย” ทั้งหมด 10 ตัวชี้วัด ที่สะท้อนสถานการณ์ แนวโน้ม และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคนไทยในมิติต่างๆ ทั้งในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน และสังคม
โดยข้อมูลด้านสุขภาพจิต พบคนไทย 13.4 ล้านคน เคยประสบปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคจิตเวช ขณะเดียวกันอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในไทยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-29 ปี ที่ต้องเผชิญภาวะเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า และมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง มีสาเหตุมาจากการเรียน สื่อสังคมออนไลน์ (Fear of Missing Out : FOMO) ความรุนแรงในครอบครัว และความคาดหวังจากสังคม
ในมิติสุขภาพจิตเชิงบวก พบกลุ่มวัยก่อนสูงอายุ 45–59 ปี มีระดับความสุขต่ำที่สุด สะท้อนถึงความเปราะบางทางอารมณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต ในด้านความรู้ พบคนไทย 1 ใน 3 มีความรอบรู้สุขภาพจิตในระดับสูง แต่ยังมีอคติและความเข้าใจผิด เช่น การมองว่าการฆ่าตัวตายคือความอ่อนแอ

จับตาการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตของคนไทย
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า ในปี 2567 มีผู้ป่วยจิตเวชที่เป็นผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการถึง 4.4 ล้านคน แต่จำนวนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตในความเป็นจริงอาจสูงกว่านี้มาก เนื่องจากการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ บุคลากรด้านสุขภาพจิตยังมีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากลและค่าเฉลี่ยโลก
การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ในปี 2566 เพียงร้อยละ 10.6 ที่เข้าถึงบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมากเป็นการรักษากับผู้ให้การบำบัดทางเลือก ตามด้วยการรักษากับบุคลากรสุขภาพจิต และรักษากับบุคลากรสุขภาพทั่วไป
ปัญหาสำคัญในประเทศไทยคือการขาดแคลนบุคลากรจิตเวช ในปี 2565 ประเทศไทยมีจิตแพทย์เพียง 845 คน หรือเฉลี่ย 1.3 คนต่อแสนประชากร ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกซึ่งกำหนดไว้ที่ 1.7 คนต่อแสนประชากร และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกซึ่งอยู่ที่ 13 คนต่อแสนประชากร
แม้จะมีแผนผลิตบุคลากรเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจิตแพทย์ 537 คน และพยาบาลเฉพาะทางจิตเวช 1,720 คน รวมถึงนักจิตวิทยาคลินิกและนักสังคมสงเคราะห์จิตเวชอย่างละ 320 คน แต่ยังคาดว่าอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ
กลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นอีกกลุ่มที่น่ากังวลเป็นพิเศษ แม้จะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพจิตสูงกว่าคนในกลุ่มวัยอื่น แต่ประเทศไทยมีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นเพียง 295 คน ในจำนวนนั้น 111 คน อยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่ 18 จังหวัดไม่มีจิตแพทย์เด็กประจำการเลย และอีก 15 จังหวัดมีจิตแพทย์เด็กเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญในการให้บริการสุขภาพจิตแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล
สำหรับ 18 จังหวัดที่ไม่มีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ประกอบด้วย ชัยนาท ชัยภูมิ ตราด บึงกาฬ ปัตตานี พังงา เพชรบูรณ์ แพร่ มุกดาหาร ยโสธร ระนอง เลย ศรีษะเกษ สตูล สิงห์บุรี หนองคาย หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ (ข้อมูลปี 2566 โดยชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย)
ดังนั้นการเพิ่มครูแนะแนว นักจิตวิทยาประจำโรงเรียน หรือช่องทางการปรึกษาออนไลน์ เป็นแนวทางที่ตรงกับความต้องการของเด็กและเยาวชน
สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ปี 2568
สำหรับ สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ปี 2568 ที่อยู่ในความสนใจของสังคม มี 10 สถานการณ์ ได้แก่ 1.แก้กฎหมายสุรา : จับตาผลกระทบด้านสังคมและสุขภาพ 2.บุหรี่ไฟฟ้า ภัยคุกคามสุขภาพที่บุกเกมรุก 3.กัญชาทางการแพทย์กับความสับสนทางนโยบาย 4.ประเทศไทยกับวันที่กาสิโนถูกกฎหมาย: อาจได้ไม่คุ้มเสีย 5.ถอดบทเรียน “ดิไอคอน” เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ แชร์ลูกโซ่ 6.อุบัติเหตุรถบัสโดยสาร : หลากหลายคำถามเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย 7.การจัดการน้ำท่วมในภาคเหนือ : ลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ 8.ปลาหมอคางดำ กับการรับมือเอเลียนสปีชีส์ในไทย 9.ความซับซ้อนของมาตรการของรัฐในการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมและขยะอันตราย 10.ชีวิตติดหนี้: ปัญหาใหญ่ครัวเรือนไทย
รศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เรื่องพิเศษฉบับนี้ คือ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ” อัตราการเกิดของคนไทยเดินทางเข้าสู่ภาวะต่ำสุด สาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น บทบาททางสังคมของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไป ค่าครองชีพที่สูงขึ้น การให้คุณค่ากับความสมดุลในชีวิต และความต้องการอิสรภาพของคนรุ่นใหม่ที่มองว่า “ลูก” อาจเป็นภาระที่ไม่สามารถรับผิดชอบได้
ผู้สนใจสามารถอ่านและดาวน์โหลดรายงานฉบับสมบูรณ์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaihealthreport.com