เต็ดตรา แพ้ค ขยายโรงงานใน Binh Duong รองรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Published on

เต็ดตรา แพ้ค บริษัทผู้นำด้านโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวไลน์การผลิตเครื่องที่สองสำหรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบปลอดเชื้อในโรงงานเมืองบิ่ญเยือง (Binh Duong) ประเทศเวียดนาม

การขยายไลน์การผลิตมูลค่า 97 ล้านยูโร ครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเต็ดตรา แพ้ค ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมถึงประเทศไทย เพื่อเสริมศักยภาพในการสนับสนุนผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน ซึ่งออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งสามารถเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น

การขยายไลน์การผลิตในโรงงานเมืองบิ่ญเยืองครั้งนี้ ช่วยยกระดับโรงงานแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบปลอดเชื้อที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค โดยเพิ่มขีดความสามารถของโรงงานมากกว่าสองเท่า พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพในการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้อีกถึง 15 รูปแบบ ส่งผลให้เต็ดตรา แพ้ค สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งในเวียดนามและตลาดสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาค อาทิ ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

อดอลโฟ โอริเว่ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม บริษัท เต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่เรามอบให้แก่ลูกค้าของเราและชุมชนที่เราดำเนินกิจการอยู่ในประเทศเวียดนามและประเทศอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การขยายขีดความสามารถของโรงงานเมืองบิ่ญเยืองครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ล้ำสมัยและยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างงาน พัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น และมีส่วนร่วมในการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้”

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นับได้ว่าเป็นภูมิภาคที่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มมีการแข่งขันดุเดือดมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีมูลค่าตลาดกว่า 667 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2571 ท่ามกลางความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการนำนวัตกรรมออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและขยายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

การขยายไลน์การผลิตของเต็ดตรา แพ้คในเวียดนามครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ล่าสุดในด้านความสะดวกสบาย สุขภาพ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

รัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“สำหรับลูกค้าในประเทศไทย การขยายขีดความสามารถครั้งนี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตอบรับกับการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์จากธัญพืชและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว พร้อมทั้งช่วยให้นำสินค้าออกสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างอย่างแท้จริง คือความสามารถในการทำงานร่วมกับแบรนด์ในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า โดยยังคงมาตรฐานคุณภาพในระดับสูง ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน พร้อมส่งมอบได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น

เราสามารถช่วยให้ลูกค้าโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเร่งการใช้นวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เรายังได้เปิดศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าแห่งใหม่ในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากศูนย์และบริการของเราเพื่อยกระดับกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งหมดได้อย่างครอบคลุม”

นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2562 โรงงานบิ่ญเยืองได้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของเครือข่ายการผลิตของเต็ดตรา แพ้คในภูมิภาคนี้ โดยสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ได้สูงสุดถึง 30,000 ล้านกล่องต่อปี ซึ่งครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตนี้จะถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ และด้วยการขยายตัวในครั้งนี้ จึงถือเป็นโรงงานผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์หลักสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย

โรงงานแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของการผลิตอย่างยั่งยืน โดยได้รับการรับรองระดับ LEED® Version 4 Gold และดำเนินงานตามมาตรฐาน World-Class Manufacturing (WCM) นอกจากนี้ ยังมีการนำระบบควบคุมคุณภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ และดำเนินโครงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้พลังงาน ปริมาณของเสีย และการใช้น้ำ

“การขยายไลน์การผลิตในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของแต็ดตรา แพ้คในภูมิภาคนี้ และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของเราต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน มากไปกว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เต็ดตรา แพ้ค ยังลงทุนในนวัตกรรม ความยั่งยืน คุณภาพ และอนาคตของอาหาร เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคอีกด้วย” รัตนศิริ กล่าว

Latest articles

“Lamborghini Fenomeno” เปิดตัว ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น 29 คันทั่วโลก

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ภูมิใจเสนอ “Fenomeno” สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นล่าสุด ที่ผลิตจำกัดเพียง 29 คันทั่วโลก และมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ Monterey Car Week 2025

ผลการศึกษาของ ABB ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว

เอบีบี เผยผลสำรวจดัชนีความพร้อมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2025 พบว่าไทยมีความพร้อมและมีบทบาทเป็นผู้นำอย่างชัดเจน ในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก เห็นได้จากผู้นำด้านการใช้พลังงานที่ตอบแบบสำรวจมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะแผนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของตนยังคงเดินหน้า แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลก เป็นสัญญาณที่แสดงถึงเสถียรภาพของกลยุทธ์ด้านนี้อย่างชัดเจน

BLC นำทัพสมุนไพรนวัตกรรม “ไพลวาน่า” โชว์ศักยภาพในงาน World Expo 2025

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ โชว์ศักยภาพสมุนไพรไทยสู่สากลในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ชูผลิตภัณฑ์เรือธง Thai Inno-Herbal แบรนด์ “ไพลวาน่า” ครีมสมุนไพรที่พัฒนาจากเหง้าไพล ด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์

LULULEMON CREATING A NEW HUB FOR MOVEMENT AND MINDFULNESS IN BANGKOK

lululemon has officially opened the doors to its new store at Megabangna, marking an...

More like this