แจนด์ อีเวนต์ เตรียมจัดใหญ่ ‘ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์’ ปีที่ 4 ณ ภูเก็ต ยอร์ช เฮเว่น มารีน่า หนึ่งในท่าจอดเรือชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมโชว์เรือยอช์ทแบรนด์ชั้นนำกว่า 70 ลำ แบรนด์ลักชัวรีมากกว่า 100 แบรนด์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ มุ่งหน้าสู่แลนด์มาร์กท่องเที่ยวลักชัวรีแห่งเอเชีย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท
เดวิด เฮย์ส ซีอีโอ แจนด์ อีเวนต์ (JAND Events) เจ้าของและผู้จัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ เปิดเผยว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า ภูเก็ต ยอร์ช เฮเว่น มารีน่า จะเป็นสถานที่จัดงานอย่างเป็นทางการสำหรับงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ 2569 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก และเป็นศูนย์กลางของลักชัวรีไลฟ์สไตล์ของธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลในเอเชีย”
งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ นับว่าเป็นงานที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทางทะเลของไทยในระดับสากล และยังสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาทให้กับธุรกิจเรือยอช์ทในประเทศไทย
“เป้าหมายของเราคือการขยายพื้นที่จัดแสดงงานรองรับเรือยอช์ทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มจำนวนซูเปอร์ยอช์ท รวมถึงเพิ่มการบริการที่หลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์ลักชัวรีไลฟ์สไตล์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเรากำลังสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้างมูลค่าธุรกิจที่ไม่เหมือนใครและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยือนภูเก็ตและสัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวทางทะเลที่ดีที่สุดในประเทศไทย”
จากการเติบโตธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลย่านทะเลแคริบเบียนและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนรักการล่องเรือ และประเทศไทยคือเพชรเม็ดงามของภูมิภาคนี้ ด้วยความโดดเด่นด้านการบริการ ท่าจอดเรือยอช์ทระดับโลก โครงสร้างพื้นฐานทางทะเลที่เพียบพร้อม และการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยเที่ยวบินนานาชาติ ทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทยต่างก็มีทิวทัศน์ทะเลที่สวยงามไม่แพ้กัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาสพร้อมเติบโต
เบนจามิน ตาบูโต รองประธานสมาคมธุรกิจเรือยอร์ชไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการล่องเรือในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายเรือยอช์ท การให้เช่าพื้นที่จอดเรือยอช์ทและซูเปอร์ยอช์ท ดูแลซ่อมบำรุง หรือบริการเช่าเหมาลำ โดยอุตสาหกรรมนี้เติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10% และเมื่อมีผู้คนทั่วโลกรู้จักจุดหมายปลายทางอย่างภูเก็ต กระบี่ สมุย และพัทยามากขึ้น เราเชื่อว่าจะยิ่งสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทะเลของไทยได้อีกมาก”
งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ 2569 จะเป็นมากกว่างานแสดงเรือยอช์ท เพราะเป็นงานที่รวมเอาผู้หลงใหลในไลฟ์สไตล์ทางทะเล นักธุรกิจ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมจากทั่วโลก มารวมตัวกันเพื่อฉลองการล่องเรือและลักชัวรีไลฟ์สไตล์
สำหรับปี 2569 ไฮไลต์ของงานจะประกอบด้วย:
- การแสดงเรือยอช์ทจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 70 ลำ
- โซนแสดงซูเปอร์ยอช์ทที่ใหญ่ขึ้น รองรับกลุ่ม Ultra และ High Net Worth Individuals
- เทคโนโลยีทางทะเลล่าสุด และนวัตกรรมรักษ์โลก
- โซนไลฟ์สไตล์หรู เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และไฟน์ไดนิ่ง
- เน็ตเวิร์คกิ้ง อีเวนต์ และเวทีเสวนาของอุตสาหกรรมล่องเรือยอช์ท
การจัดงานมุ่งเป้าสะท้อนภาพของ “ไลฟ์สไตล์ทางทะเลยุคใหม่” ที่ผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับความลักชัวรีได้อย่างลงตัว และจะเป็นงานที่พลิกโฉมวงการมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยในวันที่ 14 มกราคม 2569 จะมีการจัด Thailand Yachting Conference ซึ่งจะมีผู้นำทั้งทางภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรม รวมถึงผู้สนใจมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ในหัวข้อที่น่าสนใจทั้งในระดับประเทศและสากลตลอดทั้งวัน
“งานนี้ไม่ใช่แค่การจัดแสดงเรือยอช์ทเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการเติบโตและความร่วมมือที่แท้จริงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลทั่วทั้งภูมิภาคซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญในเรื่องนี้” นายเดวิดกล่าวปิดท้าย
งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ มหกรรมการแสดงเรือยอช์ทลักชัวรีและไลฟ์สไตล์จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายท่องเที่ยวลักชัวรีระดับโลก และเป็นแรงผลักดันสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศ และคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมแสดงสินค้าจากทั่วโลก และตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศไทยคือจุดหมายปลายทางด้านการลงทุน และการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
พบกับ ‘ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์’ ปีที่ 4 ณ ภูเก็ต ยอร์ช เฮเว่น มารีน่า ระหว่างวันที่ 15 – 18 มกราคม 2569