เดลล์ ส่งโซลูชัน คอมเมอร์เชียล ไคลเอนด์ ใหม่

40

เดลล์ ประเทศไทย เปิดตัวโซลูชัน คอมเมอร์เชียล ไคลเอนด์ แล็ปท็อปเซ็ตใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของผู้คนในปัจจุบันได้หลายหลายรูปแบบ และช่วยให้คนเหล่านี้ปรับตัวและเปลี่ยนสู่ยุคอนาคตได้  ทั้งนวัตกรรมและการปรับปรุงภายในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงเรื่องของประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่นการทำงาน และประสบการณ์ของผู้ใช้งานโดยรวม

นายอโณทัย เวทยากร รองประธาน เดลล์ อีเอ็มซี อินโดจีน กล่าวว่า การรีเฟรชสายผลิตภัณฑ์ Latitude พัฒนาโดยคำนึงถึงคนทำงานผ่านโมบาย พร้อมด้วยมุมมองเชิงลึกจากการศึกษางานวิจัยหลากหลายที่เดลล์ได้สนับสนุนการจัดทำขึ้น ผลการวิจัยระดับโลก ชิ้นล่าสุดได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีเกิดใหม่ โดยพบว่า 48 เปอร์เซ็นต์ของผู้นำธุรกิจทั่วโลกที่เข้ารับสำรวจ รวมถึงผู้นำในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เชื่อว่าตนจะมีความพึงพอใจกับงานในอนาคตยิ่งขึ้น หากปลดเปลื้องภาระงานให้เครื่องจักรกลทำได้  ดังนั้น องค์กรธุรกิจรวมถึงคนทำงานในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญมากขึ้นกับอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการทำงานได้ทั้งปัจจุบันและในอนาคต

“เรากำลังเข้าสู่รูปแบบของการทำงานแห่งอนาคตที่ซึ่งวิถีการทำงานของผู้คน และการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตราบเท่าที่เทคโนโลยียังคงเข้ามามีบทบาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการฝากความคาดหวังครั้งสำคัญถึงผลกระทบในเชิงบวกที่จะนำพามาโดยเทคโนโลยีเกิดใหม่เหล่านี้”  นายอโณทัย ได้ให้ความเห็น “การจะบรรลุเรื่องนี้ ลูกค้าของเราต้องมีอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยในการสร้างผลลัพธ์ของงานในปัจจุบัน พร้อมช่วยรองรับต่อเนื่องไปถึงอนาคต ด้วยประสิทธิภาพ โมบิลิตี้ และระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอ้างถึงว่าเป็นฟีเจอร์หลักที่คนทำงานต้องการ”

สายผลิตภัณฑ์ Latitude ที่รีเฟรช นี้ เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ช่องว่างในตลาดสำหรับอุปกรณ์โมบายเพื่อการทำงานที่ทรงพลังยิ่งขึ้น บางขึ้น และเบาขึ้น

ยกระดับประสิทธิภาพ สำหรับสายผลิตภัณฑ์ Dell Latitude

สายผลิตภัณฑ์ Latitude ของเดลล์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนทำงานผ่านโมบาย เป็นคอมเมอร์เชียล โน้ตบุ๊ค ที่ให้ความสามารถด้านการจัดการและให้ความปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้มีการรีเฟรชรุ่น 2-in-1 อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 8th Gen Intel® Core™ vPro™ 15W processors ทั้ง dual-core และ quad-core ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเหนือชั้น ในการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผล แสดงให้เห็นถึงการยกระดับประสิทธิภาพอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้านี้ โดยในส่วนของ cores และ threads ก็สังเกตได้ถึงความแตกต่างเมื่ออยู่บนเครือข่ายของบริษัทในเวลาที่ระบบไอทีทำการรัน encryption สแกนมัลแวร์ และแอพฯ พื้นฐานอื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับพนักงานและรักษาความปลอดภัย  สายผลิตภัณฑ์ Latitude ยังได้รับการอัพเดทนวัตกรรมน่าตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่หลายอย่างด้วยกัน

Latitude 13 7390 และ 7390 2-in-1: ขุมพลังที่น่าประทับใจในดีไซน์ที่พรีเมียม

 

สายผลิตภัณฑ์ Dell Latitude 7390 นั้นมีการรีเฟรชในเรื่องการออกแบบที่ให้ความบางและเบา ให้ประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอด และทางเลือกการประมวลผลอันทรงพลัง  ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสุดยอดของ Latitude รวมถึงความเร็วที่เหนือชั้น และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ช่วยเพิ่มอำนาจในการทำงานให้กับผู้คนอีกทั้งยังช่วยรักษาผลิตผลของงานด้านออฟฟิศ

ทั้งนี้ Latitude 7390 สร้างขึ้นด้วยวัสดุระดับไฮ-เอนด์ เช่น แมกนีเซียม อัลลอยด์ พร้อมผสมผสานการออกแบบที่พรีเมียมที่ให้ความทนทานมากที่สุด Latitude 13 7390 ใหม่ มาพร้อมทางเลือกโปรเซสเซอร์ อินเทล ตั้งแต่ Intel™ 8th Gen และ PCIe SSD เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เดลล์ ยังได้เสนอทางเลือกฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Dell ControlVault™ 2.0 รวมถึงเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดทั้งแบบ contact และ contactless และเครื่องอ่านลายนิ้วมือแบบสัมผัส หรือกล้องอินฟาเรด เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูล

Latitude 14 7490:

Latitude 7490 มาพร้อมเทคโนโลยี Active Steering Antenna เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับเดลล์เพื่อให้ประสิทธิภาพของระยะทางระบบไวไฟที่ดีกว่าเดิม พร้อมความเร็วและความน่าเชื่อถือในการต่อเชื่อมที่ประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมจอแบบ Full HD ที่เป็นแบบ Super Low Power ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานลงถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลต่อการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ออกไปได้อีกหลายชั่วโมง

มาพร้อม Intel 8th Gen เครื่อง Latitude 7490 คือแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้ว สำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจที่มากับวัสดุระดับพรีเมียมเพื่อให้รูปลักษณ์ที่สวยหรูและแข็งแรง พร้อมประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูง

Latitude 12 5290 และ 5290 2-in-1: ความยืดหยุ่นที่นำไปสู่ความสำเร็จ

Latitude 5290 เป็นเครื่องมือขนาด 12.5 นิ้ว ที่ให้โมบิลิตี้สูงสุด สร้างขุมพลังในเรื่องของผลงาน โดยให้ทางเลือกด้านการรักษาความปลอดภัยหลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ให้ฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์เพื่อการพิสูจน์ตัวตนในหลายองค์ประกอบ (multi-factor authentication) เช่นเครื่องอ่านลายนิ้วมือระบบสัมผัส เครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดตามมาตรฐาน FIPS 201 และเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแบบแตะบัตร (contact) และเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดที่ใช้เทคโนโลยี NFC ที่ไม่ต้องแตะบัตร (contactless) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

Latitude 12 5290 หาจุดวางในพื้นที่ทำงานที่แออัดได้ง่าย มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลายในการใช้งานระบบไร้สาย รวมถึง โมบาย บรอดแบนด์ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบ HD และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อึดทั้งวัน จึงช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ในทุกหนทุกแห่ง

Latitude 14 5490: การทำงานที่คล่องตัวในระหว่างการเดินทาง

Latitude 5490 เป็นเครื่องมือขนาด 14 นิ้ว ที่ให้ผลลัพธ์ของงานที่ดีเยี่ยม ออกแบบมาเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ให้ความสามารถด้านการจัดการ และความน่าเชื่อถือที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก ทั้งนี้ แล็ปท็อปมาพร้อม Windows Hello เพื่อรองรับระบบจดจำใบหน้า เพื่อการเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย พร้อมกับทางเลือกด้านการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ รวมถึงโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยในฮาร์ดแวร์ซึ่งเป็นความโดดเด่นของเดลล์โดยเฉพาะ ซึ่งให้ทางเลือกในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น สำหรับการจัดเก็บและดำเนินการด้านพาสเวิร์ด รวมถึง biometric templates และ security codes

Dell ProSupport Plus

โซลูชัน สำหรับลูกค้าคอมเมอร์เชียล ของเดลล์ มาพร้อม ProSupport Plus ซึ่งเป็นโซลูชันที่ให้การสนับสนุนสำหรับลูกค้าระดับองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซในอุตสาหกรรมได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโทรหาฝ่ายเทคนิคที่เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา 24×7 และการให้บริการ ณ ไซต์งานหลังจากวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาได้จากระยะไกล รวมถึงให้การสนับสนุนทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนในแบบอัตโนมัติเชิงรุก ด้วย ProSupport Plus พร้อมกับ SupportAssist ช่วยลดเวลาในการแก้ไขปัญหาได้มากถึง 91 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการสนับสนุนด้านเทคนิค และยังลดขั้นตอนในการสนับสนุนให้น้อยลงถึง 71 เปอร์เซ็นต์

สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจาก ProSupport ได้แก่

  • การติดต่อวิศวกร ProSupport ผู้มีความเชี่ยวชาญลึกซึ้งในเรื่องของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ได้ตลอดเวลาแบบ 24×7
  • การสนับสนุนเพื่อช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์ถึงปัญหาได้ล่วงหน้า ด้วย SupportAssist เทคโนโลยีในการตรวจสอบของเดลล์
  • การบริการจัดการเคสแบบ self-service และการจัดส่งอะไหล่ ผ่านพอร์ทัล TechDirect โมบาย แอปพลิเคชัน หรือ API ของเดลล์
  • บริการครอบคลุมถึงการทำเครื่องตกหล่น และการกระชากของไฟฟ้า เพื่อช่วยปกป้องการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์
  • การดูแลฮาร์ดดิสก์หลังการเปลี่ยน เพื่อให้มั่นใจว่ามีการควบคุมข้อมูลเป็นอย่างดี
  • มีผู้จัดการฝ่ายเทคนิคดูแลแอคเค้าท์โดยเฉพาะ ผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางในการรับและดูแลเรื่องพร้อมออกรายงานเป็นรายเดือนให้แก่ลูกค้าในระบบ ProSupport Plus นับพันหรือเกินกว่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ Dell ProSupport Plus