ttb analytics คาดตลาดการเงินโลกมีแนวโน้มผันผวนสูง ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุด

Published on

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะการเงินตึงตัวและวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้สิ้นสุด ในขณะที่ระดับเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวช้าลง จึงมีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด ซึ่งอาจทำให้ตลาดกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off Sentiment) ส่งผลให้ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนสูงได้ในระยะต่อไป

ธนาคารกลางหลักขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเพื่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงยาวนาน นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาโดยตลอดจนแตะระดับ 5.00 – 5.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 25 – 50 Basis Points (bps) ในรอบการประชุมถัดไป เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมาอีก 25 bps ไปอยู่ที่ 4.00% พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 มาอยู่ที่ 2.00% ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วและแรงเช่นนี้ ทำให้ตลาดคาดหวังว่าวัฎจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Hiking Cycle) ของธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุด (Terminal Rate) ได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้

อย่างไรก็ดี แม้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะมีโอกาสแตะ Terminal Rate เร็ว ๆ นี้ แต่คาดว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะยืนสูงต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีเป็นอย่างน้อย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงค่อนข้างช้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ได้แรงส่งจากการฟื้นตัวของภาคบริการที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมสูงถึง 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ขณะที่อัตราว่างงานก็อยู่ระดับต่ำใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิดที่ราว 3.4 – 3.7% เช่นเดียวกับสหภาพยุโรปและอังกฤษที่แม้ว่าธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ด้วยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่สูงถึง 7.1%YoY และ 6.5%YoY ตามลำดับ ทำให้แนวโน้มวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของตลาดหลักจะยังไม่เห็นในปีนี้

ทั้งนี้ วัฏจักรขาขึ้นของดอกเบี้ยทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตลาดพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ระยะสั้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเพื่อขานรับการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เห็นได้ชัดจากบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ รุ่นอายุ 2 ปีที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 0.98% ในเดือนมกราคม 2565 ก่อนที่เฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก สู่ระดับปัจจุบันในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ราว 4.7% สอดคล้องกับผลตอบแทนในตราสารหนี้ทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปีที่ปรับเพิ่มขึ้น 1.94% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี (YTD) หลังจากปีก่อนผลตอบแทนรวมติดลบ 16.2% จากผลของการเร่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในปีก่อน

จับตาเศรษฐกิจโลกและทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป หวั่นตลาดส่งสัญญาณ Risk-Off อีกครั้ง
ที่ผ่านมา นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On Sentiment) หลังราคาสินทรัพย์ปรับฐานลงไปมาก ขณะที่ Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความผันผวนในตลาดก็เริ่มปรับลดลงอย่างมีนัย สอดคล้องกับผลตอบแทนในตลาดหุ้นที่ทยอยปรับดีขึ้นตามลำดับ โดยดัชนีผลตอบแทนหลักทรัพย์ของโลก (Bloomberg World Large, Mid & Small Cap Price Return Index) มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 10.4%YTD เช่นเดียวกับดัชนีผลตอบแทนหลักทรัพย์ยุโรป (Bloomberg Europe Large, Mid & Small Cap Price Return Index) ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 9.6%YTD

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ก็ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังเจอแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด เห็นได้จาก Bloomberg Emerging Markets Equity Index ที่นำโดย จีน ไต้หวัน อินเดีย และเกาหลีใต้ รวมถึงไทย ที่ให้อัตราผลตอบแทนเพียง 3.6%YTD ซึ่งหากไม่รวมจีน ดัชนีหลักทรัพย์ของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าที่ 8.7%YTD ขณะที่ตลาดหุ้นไทย (SET Index) กลับมีอัตราผลตอบแทนลดลง 9.3%YTD ส่วนหนึ่งจากความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างตลาดเกิดใหม่และจีนผ่านการค้าและการลงทุนที่ค่อนข้างสูง

มองไปข้างหน้า ttb analytics ประเมินว่า เศรษฐกิจประเทศหลักจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังขาดแรงส่งจากการบริโภคในประเทศที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอลงแรงกว่าที่คาดจนอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ความเสี่ยงที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดในสภาวะที่สภาพคล่องทั่วโลกถูกดึงกลับอย่างต่อเนื่องยังคงมีอยู่ ซึ่งก็อาจทำให้ตลาดกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off Sentiment) และจะส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงอีกครั้ง ฉะนั้น นักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงของพอร์ตและหันไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ ท่ามกลางความเสี่ยงที่ตลาดการเงินจะผันผวนสูงขึ้นในระยะต่อไป

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this