อีอีซีโมเดล ปั้นทักษะคนสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” จบแล้วมีงานทำ รายได้สูง

Published on

การผลักดันให้ประเทศไทยมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้เกิดพื้นที่ลงทุนใหม่ของประเทศ เพื่อเร่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก สู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ อันจะนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจและสังคมให้ประชาชนและชุมชน

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) อีอีซี ได้ผลักดันโครงการลงทุนในพื้นที่ ได้รับอนุมัติการลงทุนเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีเงินลงทุนถึง 1.92 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านบาท และเกิดการจ้างงานมากกว่า 200,000 คน

พื้นที่อีอีซี จึงเป็นจุดรวมความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก และจำเป็นต้องมีการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะรองรับใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลไทยเร่งส่งเสริมการลงทุนอยู่ด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี จึงได้ร่วมมือกับ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงแรงงาน พัฒนาทักษะบุคลากร ผลิตคนให้ตรงความต้องการตลาด มาตลอด 4 ปีเต็ม ภายใต้โครงการ EEC Model : Demand Driven Education มีเป้าหมายประมาณ 457,000 คน ขณะนี้ได้ดำเนินการอบรมแล้วกว่า 16,000 คน คาดว่าปี 2566 จะดำเนินการได้เพิ่มอีกกว่า 150,000 คน และจะทำต่อให้แล้วเสร็จอีกประมาณ 324,000 คนตามเป้าหมายที่วางไว้

อีอีซี โมเดล ประกอบด้วย 2 รูปแบบ คือ 1. EEC Model Type A เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับสถานประกอบการ (เอกชนจ่าย 100%) ในการกำหนดหลักสูตรตอบโจทย์การทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และประกันการมีงานทำของผู้เรียน โดยผู้ประกอบการสนับสนุนค่าเล่าเรียนทั้งหมด เรียนจบได้ปริญญา หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 2. EEC Model Type B เป็นการฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อปรับทักษะ เพิ่มทักษะ ในระยะเร่งด่วน ให้กับบริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และต้องการฝึกอบรมพนักงาน โดยภาครัฐอุดหนุนไม่เกินร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือเอกชนเป็นผู้สนับสนุน

นายปัญจพล ภู่จีน พนักงาน บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด บุคคลากรตัวอย่างจากการเข้าร่วมโครงการ อีอีซี โมเดล เปิดเผยว่า “เดิมเลือกเรียนสายช่างยนต์ หลังจากมีโครงการนี้จึงตัดสินใจมาเรียนสาขาเมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ ในปีแรกเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จากนั้นได้ฝึกงานเป็นเวลา 1 ปี พร้อมเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆที่สถาบันไทย-เยอรมัน เปรียบเสมือนเป็นพนักงานคนหนึ่ง โดยขณะที่ฝึกงานได้มีพี่เลี้ยงสอนงานให้ มีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติงานจริง ได้เรียนรู้ชีวิตในการทำงาน และถือเป็นโอกาสที่ดีของชีวิตที่ได้รับทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร และได้รับค่าตอบแทนตอนขณะที่ฝึกงาน รวมทั้งได้รับสวัสดิการ ค่าเช่าบ้าน อาหารกลางวัน จบมามีเงินเดือนที่สูงกว่า ไก้ทั้งทักษะการทำงานและ ทักษะด้านภาษา นับว่าได้เปรียบกว่าคนที่เรียนภาคปกติ”

ด้าน นางสาววรรณวิสา สารกุล วิศวะกร บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้เข้าเรียนหลักสูตร EEC Type A หลังได้รับคำแนะนำให้ศึกษาต่อที่วิทยาลัยสัตหีบ รูปแบบของการเรียนจะแตกต่างจากการเรียนปกติ เพราะได้ฝึกงานที่โรงงานฟอร์ด สลับกับการเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ทำให้เห็นการทำงานและปัญหา พร้อมเรียนรู้การทำงานจากเครื่องมือจริง และระหว่างเรียนยังได้รับเบี้ยเลี้ยง สวัสดิการด้านอาหาร ชุดพนักงาน รถรับส่งนอกเหนือจากการศึกษาที่ได้รับตลอด 2 ปี และเมื่อจบการศึกษายังได้ทำงานในตำแหน่งที่ฝึกงานโดยตรง

“การฝึกงานที่โรงงานได้เห็นว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องเจออะไรบ้าง ได้รับทักษะมากกว่าการที่เรียนในวิทยาลัยที่ได้จับแค่หุ่นยนต์ตัวเล็ก แต่โรงงานจะเป็นหุ่นยนต์ที่เป็นขนาดใหญ่เลย ได้จับโปรแกรมของโรงงานจริงๆว่าควบคุมอย่างไร เมื่อเรียนจบ ทางบริษัทฯก็รับมาในตำแหน่งที่ฝึกงานเลย ทำให้ได้โอกาสมากกว่า” นางสาววรรณวิสา กล่าว

พร้อมกันนี้ การพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ภายใต้ อีอีซี โมเดล ดังกล่าว ยังได้ตอบโจทย์ การศึกษาหัวข้อ ระบบอัตโนมัติในภาคการผลิต : ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ และนัยต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย จากอีอีซี ที่ศึกษาถึงผลของการใช้ระบบอัตโนมัติ และ หุ่นยนต์ต่อผลิตภาพการผลิตและการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งได้ใช้ข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จำนวน 12,792 โรงงาน (ในช่วงปี 2560 -2563) ครอบคลุมใน 22 สาขาอุตสาหกรรม โดยมีข้อสรุปที่สำคัญ พบว่า การลงทุนระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ของไทย มีสัดส่วนการใช้งานและแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่อีอีซี มีสัดส่วนการใช้หุ่นยนต์สูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ จากความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนของภาครัฐ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เหล็ก และการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์

ผลการศึกษา ยังได้ชี้ชัดว่า การใช้งานระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ จะช่วยยกระดับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของไทย ไม่ได้ส่งผลลบต่อการจ้างงาน แต่ทำให้เกิดการจ้างงานรวมปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการแรงงานทักษะสูง ซึ่งจะเป็นทิศทางสำคัญที่อีอีซี ได้ดำเนินการมาโดยตลอด เพื่อเร่งพัฒนาทักษะแรงงาน รองรับความต้องการบุคลากรทักษะสูง ในภาคอุตสาหกรรมให้แข่งขันและเติบโตได้ในอนาคต สร้างตำแหน่งงานที่มั่นคง และรายได้ดีให้คนไทย

ภายใต้หลักสูตรอีอีซี โมเดล จึงเป็นการศึกษายุคใหม่ พัฒนาบุคลากรให้ทักษะสูงตรงตามความต้องการ หรือ Demand driven ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ เพื่อช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่อีอีซี ยังเป็นการสร้างความพร้อมของบุคลากรก่อนลงสู่ตลาดแรงงาน ขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นต้นแบบการศึกษาของไทยที่จะนำไปใช้ทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาส และป้องกันปัญหาเด็กจบใหม่ไม่มีงานทำได้ด้วย

Latest articles

“Lamborghini Fenomeno” เปิดตัว ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น 29 คันทั่วโลก

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ภูมิใจเสนอ “Fenomeno” สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นล่าสุด ที่ผลิตจำกัดเพียง 29 คันทั่วโลก และมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ Monterey Car Week 2025

ผลการศึกษาของ ABB ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว

เอบีบี เผยผลสำรวจดัชนีความพร้อมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2025 พบว่าไทยมีความพร้อมและมีบทบาทเป็นผู้นำอย่างชัดเจน ในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก เห็นได้จากผู้นำด้านการใช้พลังงานที่ตอบแบบสำรวจมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะแผนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของตนยังคงเดินหน้า แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลก เป็นสัญญาณที่แสดงถึงเสถียรภาพของกลยุทธ์ด้านนี้อย่างชัดเจน

BLC นำทัพสมุนไพรนวัตกรรม “ไพลวาน่า” โชว์ศักยภาพในงาน World Expo 2025

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ โชว์ศักยภาพสมุนไพรไทยสู่สากลในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ชูผลิตภัณฑ์เรือธง Thai Inno-Herbal แบรนด์ “ไพลวาน่า” ครีมสมุนไพรที่พัฒนาจากเหง้าไพล ด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์

LULULEMON CREATING A NEW HUB FOR MOVEMENT AND MINDFULNESS IN BANGKOK

lululemon has officially opened the doors to its new store at Megabangna, marking an...

More like this