เกษตรกรเลี้ยงหมู แบกภาระล้น ต้นทุนพุ่ง

Published on

เกษตรกรเลี้ยงหมู แบกภาระล้น ต้นทุนพุ่ง หวังผู้บริโภคต่อลมหายใจ ชี้ยังมีทางเลือกบริโภคมากมาย

น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรว่า ปัจจุบันเกษตรกรมีปัญหารุมเร้าหลายด้าน โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้นมากถึง 25% เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักมีราคาสูงถึง 10.60 บาทต่อกิโลกรัม และเคยปรับขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 11.45 บาท เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากปริมาณผลผลิตที่ขาดแคลนอย่างหนัก ส่วนกากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าราคาสูงถึง 19.50 บาทต่อกิโลกรัม และปลายข้าวราคาสูงถึงกระสอบละ 1,100 บาท

นอกจากนี้ยังมีการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เพื่อป้องกันโรคในสุกรอย่างเข้มงวด เกิดเป็นต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับอีกกว่า 400-500 บาทต่อตัว ขณะที่ ผลกระทบของโรคในสุกรทั้ง PRRS PED ฯลฯ ทำให้สุกรแม่พันธุ์เสียหายมากถึง 40% จากจำนวน 1.1 ล้านตัว เหลือเพียง 6.6 แสนตัว ส่งผลต่อเนื่องถึงปริมาณผลผลิตสุกรขุนปรับลดลงถึง 30% จากปี 2563 จากที่เคยมีจำนวนสุกรประมาณ 18-19 ล้านตัวต่อปี เหลือเพียง 15 ล้านตัวต่อปีเท่านั้น

“ภาวะต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่พุ่งขึ้นไม่หยุด มาตรการป้องกันโรคที่ถูกยกระดับขึ้นทำให้มีค่าบริหารจัดการเพิ่มอีก รวมถึงความเสียหายที่เกิดกับตัวหมูจากภาวะโรค ความเสียหายจากน้ำท่วมในช่วงก่อนหน้านี้ และยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคการเลี้ยง ทำให้ค่าจ้างแรงงานต้องเพิ่มขึ้น และหลังจากนี้ยังต้องปรุงฟาร์มเพื่อเข้าสู่ระบบฟาร์มมาตรฐาน และ GAP ที่กรมปศุสัตว์กำหนดเป็นมาตรฐานบังคับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้เป็นภาระหนักของคนเลี้ยง และมีผลต่อการตัดสินใจเข้าเลี้ยงหมู ปริมาณหมูที่ลดลงสวนทางกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการของภาครัฐ โรงเรียนเปิดสอนแบบ On-site ทำให้การบริโภคกลับมาดีขึ้นเป็นอย่างมาก กลไกตลาดจึงทำงานตามภาวะที่แท้จริง” น.สพ.วิวัฒน์ กล่าว

น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย

อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกต้องแบกรับภาระขาดทุนมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงปีนี้ มีการประมาณการความเสียหายทั่วประเทศจากการขายสุกรขุนต่ำกว่าทุนอยู่ที่ 8,000-10,000 ล้านบาท กลายเป็นความกดดันที่มีต่อผู้เลี้ยง และมีผลต่อการตัดสินใจเข้าเลี้ยงสุกรรอบใหม่ โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ต้องหยุดเลี้ยงจากปัญหาด้านเงินลงทุน ผู้เลี้ยงรายกลางและรายใหญ่ต้องชะลอการเลี้ยง หรือเลี้ยงไม่เต็มกำลังการผลิต

รวมถึงไม่เข้าผสมแม่สุกร เพื่อลดความเสี่ยงและรอดูสถานการณ์ในอุตสาหกรรมและสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กลายเป็นปัจจัยในการวางแผนการเลี้ยงด้วย คาดว่าอุตสาหกรรมสุกรต้องใช้เวลา 2-3 ปี กว่าที่การเลี้ยงจะกลับมาเต็มกำลัง 100% วันนี้เกษตรกรขอผู้บริโภคเข้าใจกลไกตลาดที่เกิดขึ้น ที่เพียงช่วยต่อลมหายใจภาคผู้เลี้ยงต่อไปเท่านั้น และผู้บริโภคยังคงมีทางเลือกในการซื้อหาอาหารโปรตีนที่หลากหลาย ขณะที่เกษตรกรไม่มีทางเลือก มีเพียงการเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพเดียว

Latest articles

Bangkok International Fashion Week 2025 ชูพลังยังก์ดีไซเนอร์ สร้างสรรค์จากผ้าไทยท้องถิ่น

สยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ เอปสัน ประเทศไทย เปิดเวที Bangkok International Fashion Week 2025 –Visionary Stage at Siam Center สนับสนุนยังก์ดีไซเนอร์ ชูพลังไทยสร้างสรรค์จากผ้าไทยท้องถิ่นทั่วประเทศ

เส้นด้ายแห่งความหวังและความกลมเกลียว “ดุอาอ์” คว้ารางวัล UOB Painting of the Year 2025 (ประเทศไทย)

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มอบรางวัลชนะเลิศการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ประจำปี 2568 แก่คุณยามีล๊ะ หะยี จากผลงานเย็บปักถักร้อยบนผืนผ้าในชื่อ ดุอาอ์ (วิงวอนขอพร) ซึ่งถ่ายทอดภาพของสตรีผู้วิงวอนให้โลกเต็มไปด้วยความหวังและสันติภาพ

สภาทองคำโลกเปิดตัวรายงานแนวโน้มการใช้ทองคำในรูปแบบดิจิทัลในอนาคต

สภาทองคำโลก เปิดตัวรายงานฉบับใหม่ในหัวข้อ 'ยุคทองใหม่: จินตนาการถึงอนาคตของทองคำดิจิทัล' โดยรายงานฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อมองไปข้างหน้า สำรวจแนวทางการใช้งานและโอกาสที่เป็นไปได้ของทองคำดิจิทัลในอนาคต

“มารายห์ แครี่” ถึงไทยแล้ว! เตรียมเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ ฉลอง 20 ปี ‘The Emancipation of Mimi’

การมาเยือนไทยในรอบเกือบ 10 ปีครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ “The Celebration of Mimi” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีอัลบั้มระดับตำนาน The Emancipation of Mimi ที่มียอดขายกว่า 15 ล้านชุดทั่วโลก

More like this