5 เคล็ดลับง่าย ๆ ฉบับ “นักวิทยาศาสตร์ตัวน้อย”

Published on

หากจะบอกว่าวิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเราก็คงไม่ผิดนัก ไม่ว่าจะในบ้าน ธรรมชาติที่ รายล้อม หรือแม้กระทั่งภายในร่างกายเราเอง นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราควรฝึกฝนให้เด็กๆ ‘มีความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์’

วิทยาศาสตร์เป็นมากกว่าแค่วิชาที่สอนในโรงเรียน แต่ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของเด็กในหลายๆ ด้าน ผลการศึกษาของนักวิจัยจากประเทศอินโดนีเซียที่ศึกษาวิจัยนักเรียนชั้นประถมศึกษา 120 คน พบว่า การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็มศึกษา (STEM) ช่วยสร้างทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ในปี 2563 ยังสรุปด้วยว่า การเรียนรู้ด้านสะเต็ม จะช่วยให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับปัญหาความท้าทายของยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้ดีขึ้น แล้วยังช่วยให้เกิดการความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย

จากผลการสำรวจการรับรู้และเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ระดับโลกประจำปี 2564 ของ 3เอ็ม ดัชนีสถานะวิทยาศาสตร์ของ 3เอ็ม (State of Science Index – SOSI) พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านสะเต็มมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกือบทั้งหมด หรือร้อยละ 91 เห็นตรงกันว่า โลกเราต้องการคนที่ทำงานสาขาด้านสะเต็ม มากกว่านี้ ร้อยละ 73 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่า เด็กรุ่นใหม่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด

รู้แบบนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่คงอยากจุดประกายความเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้บุตรหลานขึ้นมาบ้าง วันนี้เราเลยรวบรวม 5 เทคนิคง่ายๆ และเต็มไปด้วยความสนุก ที่จะช่วยให้คุณปลุกความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กๆ อย่างได้ผล จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!

1. ลองฟังคำถามของเด็กๆ แล้วหาคำตอบไปด้วยกัน เมื่อเจ้าตัวน้อยถามคำถาม ลองใช้เวลาอธิบายคำตอบและที่มาที่ไปให้เขาฟัง หากคุณไม่แน่ใจในคำตอบ ให้ใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ค้นหาคำตอบร่วมกับลูกๆ หรือจะชวนกันไปห้องสมุดหรืออ่านบทความออนไลน์ก็ได้ทั้งนั้น
ในยุคอินเทอร์เน็ตที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้อย่างง่ายดาย สิ่งสำคัญคือเราต้องแยกแยะข้อมูลที่ถูกต้องให้ออก ควรอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเสมอและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเว็บไซต์ออนไลน์ เช่น Google’s Fact Check Tools และ FactCheck.org เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้กำลังอ่านข่าวปลอม

ในทางกลับกัน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถถามคำถามเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และช่วยให้ลูกค้นพบเรื่องราวใหม่ๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยงานวิจัยเมื่อปี 2562 ที่ศึกษาเกี่ยวกับการเล่นฟันเฟืองของเด็กอายุ 4-6 ขวบพบว่า ผู้ปกครองที่คอยกระตุ้นให้เด็กอธิบายกลไกของฟันเฟืองจะช่วยให้พวกเขาได้ถกเถียงพูดคุยเกี่ยวกับกลไกนี้ได้ลึกซึ้งขึ้น

แทนที่จะอายหรือหลบเลี่ยงเมื่อลูกถามคำถาม ลองใช้โอกาสนี้เพื่อสำรวจโลกวิทยาศาสตร์ไปด้วยกัน และสอนให้พวกเขาเรียนรู้บทเรียนสำคัญของการวิจัยและการค้นพบสิ่งใหม่

2. ออกไปใช้เวลาสนุกๆ ท่ามกลางธรรมชาติ อะไรจะดีไปกว่าการค้นหาคำตอบในเรื่องต่างๆ ว่า “มันเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไม” ด้วยการออกไปสำรวจธรรมชาติ ลองพาเด็กๆ ออกไปเที่ยวในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติหรือสวนสัตว์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและธรรมชาติให้มากขึ้น

3. เล่นเกมวิทยาศาสตร์ การเล่นมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด รายงานที่ตีพิมพ์โดย American Academy of Pediatrics แสดงให้เห็นว่าการเล่นช่วยส่งเสริมทักษะทางสังคม อารมณ์ สติปัญญา ภาษา และการดูแลจัดการตนเอง ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานและการพัฒนาสมองที่สำคัญของเด็กๆ

สอนลูกๆ ว่าแรงต้านทานทำงานอย่างไรด้วยการเล่นเกมชักเย่อ หรือหากคุณอยากเล่นเกมวิทยาศาสตร์ออนไลน์มากกว่า ลองใช้ Code ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อส่งเสริมให้คนเข้าถึงวิทยาการคอมพิวเตอร์มากขึ้น สามารถแนะนำและสอนเรื่องวิทยาการคอมพิวเตอร์ให้ลูกของคุณได้ในวิธีที่สนุกและเข้าใจง่าย เช่น บทเรียนเกี่ยวกับ Angry Birds และ Minecraft

4. ทำของเล่น DIY แม้ว่าเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือชั้นยอดสำหรับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ แต่เราเองก็สามารถเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้โดยพักจากจอดิจิทัลเสียบ้าง ชวนลูกๆ มาทำของเล่นของตัวเองด้วยการประดิษฐ์จากสิ่งของรอบตัว
จากแบบสำรวจความคิดเห็นของ Gallup ที่ทำการสอบถามครูกว่า 1,036 คน ผู้ปกครอง 2,673 คน และนักเรียน 853 คน พบว่า การกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในการศึกษาคือหัวใจสำคัญ การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ระหว่างการเรียนรู้จะช่วยเพิ่มทักษะการแก้ปัญหาและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนได้ นอกจากจะสามารถเข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้นแล้ว นักเรียนยังสามารถเชื่อมโยงวิชาต่างๆ ได้ดีขึ้น มีความเข้าใจในวิชาต่างๆ ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสอบได้คะแนนโดยรวมที่ดีขึ้น

5. ลองทำกิจกรรมที่ได้ใช้ “มือทำ” ให้มากขึ้น ใช้ประโยชน์จากความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่รู้จบของลูกๆ และให้พวกเขาได้ใช้มือสร้างสรรค์อะไรสนุกๆ และเลอะเทอะดูบ้าง
หากคุณอยากได้ไอเดียเพิ่มเติม ลองทำการทดลองที่บ้านง่ายๆ จากเว็บไซต์ Science At Home ของ 3เอ็ม ที่จะช่วยให้คุณค้นพบว่าสิ่งของในครัวเรือนทั่วไปสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ทั้งสนุกและให้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างจรวดกระดาษ หรือเรียนรู้วิธีสร้างเอฟเฟกต์ดอกไม้ไฟสุดเจ๋ง!
ไม่น่าเชื่อว่าการส่งเสริมและกระตุ้นให้ลูกของเราได้เรียนรู้และรักวิทยาศาสตร์ จะเป็นเรื่องที่ง่าย สนุกสนาน และคุ้มค่าขนาดนี้ ด้วยเคล็ดลับดี ๆ 5 ข้อนี้ หวังว่าคุณจะได้แรงบันดาลใจในการฝึกฝนนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อยที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของเด็กทุกคน

 

Latest articles

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/ปี เผยเทรนด์กาแฟพร้อมดื่ม Café Hopping กำลังมา

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/คนปี เผยเทรนด์ก Café Hopping กำลังมา นี่คือโจทย์ใหม่ของกาแฟพร้อมดื่ม จากเครื่องดื่มสู่บทใหม่ของวัฒนธรรมการใช้ชีวิต

More like this