ท้องไม่พร้อมยังน่าห่วง ประสบการณ์จากผู้พลั้ง ฟังแล้วอย่าพลาด

274
People image created by Bearfotos - Freepik.com

วาเลนไทน์ เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เยาวชนหรือวัยรุ่นเลือกตัดสินใจมอบกายให้คนรัก เพราะความเชื่อว่านั่นคือการพิสูจน์รักแท้ ซึ่งหากไตร่ตรองดูดีๆ จะรู้ว่า รักแท้ต้องไม่เกิดจากการทำลาย แต่หากหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ ก็ต้องรู้จักป้องกัน เพราะหากเกิดปัญหาตามมา ตัวคุณเองเท่านั้น ที่จะต้องแบกรับปัญหานั้น และอีกสารพัดปัญหาที่ตามมา โดยเฉพาะการท้องไม่พร้อมหรือท้องในวัยเรียน ซึ่งยังคงน่ากังวลในสังคมวันนี้

รายงานจากโครงการสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม  ระบุว่า สถิติปี 2560 มีผู้รับบริการโทรเข้ามาที่สายด่วนโทร 1663 จำนวน กว่า 4 หมื่นราย แบ่งเป็น การปรึกษาเรื่องเอดส์ ร้อยละ 58 และปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม ร้อยละ 41.67 หรือประมาณ 18,507 ราย  เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ซึ่งมีสถิติอยู่ที่ 13,465 ราย  โดยส่วนใหญ่คนที่ตั้งท้องมีอายุต่ำกว่า 20 ปี  สาเหตุจากไม่คุมกำเนิด

โดยวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อม มีแนวโน้มปรึกษากับแม่มากที่สุด รองลงมาคือญาติพี่น้อง  และ เพื่อน อันดับสุดท้ายคือ ครู  แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่ากังวลว่า สถานศึกษาจำนวนหนึ่งไม่ส่งสัญญาณเพื่อช่วยเหลือเด็ก แต่กลับมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการเรียน และให้เด็กออกจากสถานศึกษา ย้ายที่เรียน และสั่งพักการเรียน

และความกังวลที่มากกว่านั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องของการท้องโดยไม่พร้อม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในวัยเรียน ประสบการณ์ของ “น้องวัน” (นามสมมุติ) เล่าให้เราฟังว่า เธอและแฟน เป็นเด็กต่างจังหวัด ที่เข้ามาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง โดยเธอได้เช่าห้องอยู่คนเดียว ซึ่งแฟนจะมาหาและพักค้างด้วยเป็นบางครั้ง

เธอรู้ดีว่า การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันนั้น เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดโรค และอาจจะตั้งท้องได้ แต่สุดท้ายเธอเองก็พลาด จนวันหนึ่ง เมื่อประจำเดือนขาดหายไปเดือนหนึ่งและ เริ่มรู้สึกตัวว่าท้วมขึ้น ในทีแรกก็คิดไปเองว่า คงเป็นเพราะเรียนหนัก ทำกิจกรรมเยอะ และกินมื้อดึกบ่อย จึงทำให้เธออ้วนขึ้น

เกือบสองเดือนผ่านไป เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว ต้องมีปัญหาบางอย่างเกิดกับเธอ ทำให้เธอตัดสินใจซื้อเครื่องมือตรวจสอบการตั้งครรภ์ ที่จำหน่ายในร้านขายยา กลับมาตรวจปัสสาวะด้วยตัวเอง

“ตอนนั้นรู้สึกกลัว มั่นใจแล้วว่าจะต้องท้องแน่ๆ เพราะเป็นคนที่มีประจำเดือนตรงทุกเดือน อีกทั้งนี่คือแฟนคนแรก เพราะได้ออกมาอยู่ตามลำพัง พอตรวจฉี่แล้วผลออกมาว่าท้อง ก็กลัวไปหมด  ทำอะไรไม่ถูก จึงไปปรึกษาเพื่อน และคิดกันว่าจะทำอย่างไร”

สิ่งที่เธอรู้สึกในตอนนั้นมีเพียงความกลัว กลัวว่าหากทางบ้านรู้เรื่องเข้า เธอจะไม่ได้เรียนต่ออย่างแน่นอน เพราะพ่อกับแม่จะต้องเอาหลานไว้ และนำตัวเธอกลับไปอยู่บ้าน อนาคตความฝันคงดับวูบ ด้วยความพลั้งพลาดในครั้งนี้ ส่วนการปรึกษาครูนั้น เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเธอคิดว่า เธอเป็นเพียงนักเรียนปี 1 หากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น เรื่องก็ต้องถึงที่บ้านอยู่ดี

เธอยอมรับว่า เธอมองหาวิธีทำแท้งทางอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังไม่กล้า เธอเอาแต่ร้องไห้ และตัดสินใจบอกแฟนหนุ่ม ซึ่งก็พลอยกังวลไปกับเธอ และยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปเช่นกัน

เธอตัดสินใจต่อสายไปยังญาติสนิทคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง เล่าเรื่องราวและผลการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง สิ่งที่ญาติของเธอแนะนำมาเป็นสิ่งแรกคือ ให้ไปโรงพยาบาลหรือคลินิก เพื่อตรวจให้แน่ใจ แล้วลองขอคำปรึกษาไปตรงๆ ว่า เมื่อเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น จะต้องทำอย่างไร

อีกวันหนึ่งเธอตัดสินใจไปคลินิกย่านหอพัก และได้ผลออกมาว่าเธอตั้งท้องได้ประมาณ 2 เดือน ทางคลินิกจึงแนะนำให้ไปโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อมและการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย

เธอเดินทางไปยังโรงพยาบาลนั้นทันที เจ้าหน้าที่ถามเธอว่า เหตุใดจึงไม่ยอมเอาเด็กไว้

“บ้านหนูจนมาก แค่หนูได้เรียนพ่อแม่ก็ยากลำบากแล้ว บ้านแฟนก็เหมือนกัน เรายังอยากเรียนต่อ” เธอพูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้า

จากการพูดคุยถึงข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำต่างๆ แล้ว เธอยังยืนยันที่จะเข้ารับการทำแท้งอย่างปลอดภัยที่โรงพยาบาลแห่งนั้น โดยจะมาตามนัดอีกครั้ง

Background image created by Pressfoto – Freepik.com

โลกที่ทั้งใบที่แบกไว้ในสองเดือนนี้ อาจจะถูกยกออกไป เหลือโลกอีกใบที่ต้องแบกรับต่อไป นั่นคือความรู้สึกถึงบาปกรรม และเธอก็ไม่อยากกล่าวถึงมัน นับเป็นประสบการณ์แห่งความเจ็บช้ำครั้งสำคัญ ที่ทำให้เธอต้องจดจำ และไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก ซึ่งสุดท้ายหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นไปไม่นาน วันกับแฟนหนุ่มก็เลิกกัน ตอกย้ำประสบการณ์สุดช้ำเข้าไปอีกขั้น

นี่คือตัวอย่างหนึ่ง ที่อาจจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงอีกนับร้อยนับแสน ทั้งที่อยู่ในและนอกระบบการตรวจสอบ  การท้องโดยไม่พร้อม เป็นปัญหาที่อยู่ในสังคมมายาวนาน จึงยังต้องอาศัยการรณรงค์กันต่อไป เพราะค่านิยมของการป้องกันการคุมกำเนิดของวัยรุ่นไทย ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก โดยผู้ชายส่วนใหญ่จะคิดเพียงว่า ต้องสวมถุงยางอนามัยหากมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่ขายบริการเท่านั้น

สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา จึงต้องเปิดใจกว้าง ซึ่งทางโครงการสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม  พยายามผลักดันให้สถาบันการศึกษาให้โอกาสกับเด็กที่เกิดปัญหานี้ โดยไม่ไล่ออกหรือย้ายโรงเรียน โดยที่เด็กหรือผู้ปกครองไม่สมัครใจ ทั้งนี้ไม่สนับสนุนการทำแท้งด้วยตัวเอง โดยแนะนำว่า หากมีปัญหาเรื่องท้องไม่พร้อม ให้โทรเข้ามาขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วน 1663 หากต้องการยุติการตั้งครรภ์ 1663 พร้อมส่งต่อไปยังเครือข่ายแพทย์ซึ่งมีการรับรองความปลอดภัย

วาเลนไทน์นี้ ขอให้ความรักยังคงงดงาม และไม่ตามมาด้วยปัญหา ขอให้รักของทุกคนมาจากปัญญา ที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง และคนที่คุณรัก