“ประกันสุขภาพ” เกราะคุ้มครองที่ควรมี! เลือกซื้อยังไงให้คุ้มค่า

Published on

ในปัจจุบันที่ผู้คนทั้งโลก ต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพก่อปัญหาให้เกิดการเจ็บป่วยได้ตลอดเวลา ในขณะที่ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มแพงขึ้นทุกวัน ดังนั้น นอกเหนือจากการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกหนึ่งเกราะป้องกันความเสี่ยงที่ทุกคนควรมีก็คือ “ประกันสุขภาพ” เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือในยามเจ็บป่วยโดยไม่คาดฝัน

“ประกันสุขภาพ” เป็นประกันภัยรูปแบบหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองต่อสุขภาพร่างกาย โดยบริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งประกันสุขภาพสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพหมู่ และประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพรายบุคคล

โดยประกันภัยทั้ง 2 ประเภทแม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการให้ความคุ้มครองหลักที่เหมือนกันใน 7 หมวด ได้แก่ ความคุ้มครองในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล, ค่าใช้จ่ายจากการผ่าตัด, ค่าใช้จ่ายแพทย์, ค่ารักษาในส่วนต่าง ๆ, ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร, ค่าใช้จ่ายในการรักษาฟัน และ การชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการบริการเพิ่มเติม ซึ่งจะเห็นได้ว่าประกันสุขภาพครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่หลากหลายในส่วนการรักษา ซึ่งหากแยกออกมาเป็นแต่ละรายการแล้วค่าบริการในแต่ละหมวดหมู่มีจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาล

ดังนั้นการเลือกซื้อประกันสุขภาพมักจะเจอคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง คือ ต้องซื้อประกันสุขภาพแบบไหน วงเงินเท่าไหร่ ถึงจะตอบโจทย์ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ คือ การเลือกซื้อที่เหมาะสมและครอบคลุมชีวิตทางสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งมีหลายปัจจัยในการพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

• ประเมินความเสี่ยง ตั้งแต่ อายุ, อาชีพ, ประวัติสุขภาพ, เพศ, กรรมพันธุ์, การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน และผลตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คำนวณถึงความคุ้มครองและผลประโยชน์ของกรมธรรม์ได้

• ประมาณการจากความต้องการ เช่น เมื่อเราป่วยค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งหรือค่าห้องต้องจ่ายเท่าไหร่, ค่าประกันเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหรือไม่, สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพที่ซื้อไว้มาหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้

• ตรวจสอบความคุ้มครองที่มีอยู่ เช่น ความคุ้มครองจากประกันสังคม, กองทุนหรือสวัสดิการของบริษัท

• ประเมินความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

หากจะตอบคำถามว่า ซื้อประกันสุขภาพอย่างไรให้คุ้มค่าในวันนี้ สิ่งสำคัญที่จะตอบโจทย์ความคุ้มค่า คือ ประกันสุขภาพจะช่วยแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลในอนาคตโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่อาจสูงเกินกำลังที่จะรับไหว ขณะที่การซื้อประกันสุขภาพในแต่ละครั้ง หรือ แต่ละปีนั้นจะเป็นการซื้อตามเกณฑ์มาตรฐานและความคุ้มครองที่แต่ละบุคคลเลือก

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าประกันสุขภาพจะเป็นเกราะป้องกันช่วยบริหารความเสี่ยงอันดับแรก ๆ ที่ทุกคนควรมี แต่ต้องเลือกซื้อประกันสุขภาพที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่าง “คุ้มค่า” ซึ่งควรปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบประกันให้ตอบโจทย์ตามความต้องการ รวมทั้งศึกษาข้อมูลกรมธรรม์ และความเสี่ยงของตัวเราให้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าจริง ๆ โดยสิ่งสำคัญก่อนทำประกันจะต้องไม่ลืมศึกษาเงื่อนไขข้อมูลกรมธรรม์อย่างละเอียด

Latest articles

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/ปี เผยเทรนด์กาแฟพร้อมดื่ม Café Hopping กำลังมา

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/คนปี เผยเทรนด์ก Café Hopping กำลังมา นี่คือโจทย์ใหม่ของกาแฟพร้อมดื่ม จากเครื่องดื่มสู่บทใหม่ของวัฒนธรรมการใช้ชีวิต

More like this