อพท. ร่วมกับ 7 องค์กรขับเคลื่อนโครงการคาร์บอนบาลานซ์

Published on

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงานลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่การท่องเที่ยวที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์หรือการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral Tourism) ภายใต้โครงการคาร์บอนบาลานซ์ (Carbon Balance Scheme)

งานลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือโครงการคาร์บอนบาลานซ์ เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 8 องค์กรพันธมิตร ประกอบด้วย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการจัดงานอีเว้นท์และจัดการท่องเที่ยวที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์หรือการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral Tourism) ให้กับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ชุมชนท่องเที่ยว นักเดินทาง นักท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อบรรเทาผลกระทบทางลบต่อโลกจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และช่วยลดโลกร้อน

บทบาทที่ทั้ง 8 หน่วยงานจะร่วมกันดำเนินงานแบบบูรณาการเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ภายใต้โครงการ คาร์บอนบาลานซ์ ได้แก่ (1) ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่เหมาะสมกับบริบทของภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทย (2) สนับสนุนให้เกิดการจัดการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ผลักดันให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยว กิจกรรม บริการ และนวัตกรรม ที่จัดการด้วยแนวคิดนี้อย่างเป็นรูปธรรมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการจัดงานไทย (3) ส่งเสริมเครือข่ายผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวไทยและการจัดงานไมซ์ให้มีการนำแนวทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ไปใช้ในการจัดการและเข้าถึงแนวทางการออกแบบและสามารถชดเชยคาร์บอนได้โดยสะดวก (4) ร่วมดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ สร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด BCG Model คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลักดันให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเกิดการพัฒนา และปรับตัวเข้ากับกระแสท่องเที่ยวใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำนวัตกรรม เครื่องมือ และองค์ความรู้ที่ทันสมัยมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการท่องเที่ยว รวมถึงรณรงค์ให้เกิดกระแสของการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำในหมู่นักท่องเที่ยวและประชาชน นำไปสู่การท่องเที่ยวในรูปแบบคาร์บอนต่ำ หรือปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการดำเนินการเรื่องดังกล่าวต้องเกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ดังนั้นภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้กับ 8 หน่วยงาน จึงนับเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ ช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวสีขาว คือสะดวก สะอาด ปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี กล่าวว่า อพท. จะนำประสบการณ์และองค์ความรู้จากที่เคยดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบการปลดปล่อยคาร์บอนต่ำจนมีพื้นที่ต้นแบบที่เกาะหมาก จังหวัดตราด จนได้รับรางวัล PATA Gold Awards สาขาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ – สิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมการขับเคลื่อนโครงการฯ ในครั้งนี้ เพื่อร่วมยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษของ อพท. ให้เป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นระบบ เพราะจากการทำงานของ อพท. ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เรามีองค์ความรู้ด้านการคำนวณ การลด การชดเชย และ การเชื่อมโยงสู่ภาคการตลาดต่อไป และ อพท. ยังมีแผนที่จะยกระดับกิจกรรมของชุมชนให้สามารถขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตได้เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสามารถเลือกชดเชยคาร์บอนในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการดำเนินงานร่วมกันของ 8 หน่วยงาน ที่จะร่วมกันผลักดันให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ในไทย ให้มีการดำเนินธุรกิจที่สอดรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ อันจะช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยในตลาดสากล นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

Latest articles

ECONMASS จัดอบรม “PERSONA CONFIDENCE By WACOAL X COVERMARK” ให้สมาชิกฯ

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) และ คัฟเวอร์มาร์ค (COVERMARK) จัดกิจกรรมอบรม “PERSONA CONFIDENCE By WACOAL X COVERMARK” ให้แก่สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ

“Lamborghini Fenomeno” เปิดตัว ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น 29 คันทั่วโลก

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ภูมิใจเสนอ “Fenomeno” สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นล่าสุด ที่ผลิตจำกัดเพียง 29 คันทั่วโลก และมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ Monterey Car Week 2025

ผลการศึกษาของ ABB ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว

เอบีบี เผยผลสำรวจดัชนีความพร้อมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2025 พบว่าไทยมีความพร้อมและมีบทบาทเป็นผู้นำอย่างชัดเจน ในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก เห็นได้จากผู้นำด้านการใช้พลังงานที่ตอบแบบสำรวจมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะแผนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของตนยังคงเดินหน้า แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลก เป็นสัญญาณที่แสดงถึงเสถียรภาพของกลยุทธ์ด้านนี้อย่างชัดเจน

BLC นำทัพสมุนไพรนวัตกรรม “ไพลวาน่า” โชว์ศักยภาพในงาน World Expo 2025

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ โชว์ศักยภาพสมุนไพรไทยสู่สากลในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ชูผลิตภัณฑ์เรือธง Thai Inno-Herbal แบรนด์ “ไพลวาน่า” ครีมสมุนไพรที่พัฒนาจากเหง้าไพล ด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์

More like this