จะรักษาสิทธิทางภาษีอย่างไร เมื่อต้องออกจากกองทุน PVD

Published on

ในช่วงนี้เพื่อนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund: PVD) บางท่านอาจกำลังประสบปัญหาจาก “วิกฤตโควิด” ซึ่งส่งผลให้ต้องออกจากงาน ลาออกจาก PVD หรือนายจ้างยกเลิก PVD ซึ่งหากท่านอายุยังไม่ถึง 55 ปี และลงทุนมาไม่ถึง 5 ปี ก็จะเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปบางส่วนตามเงื่อนไข

สำหรับท่านที่ยังไม่รีบใช้เงินก้อนนี้ และยังต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีไว้ ศิษฏศรี นาคะศิริ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับธุรกิจออกแบบการลงทุนและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก.ล.ต. มีคำแนะนำ ว่า ท่านที่ยังไม่รีบใช้เงินก้อนนี้และยังต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีไว้ ก็สามารถคงเงินไว้ในกองเดิม (กรณีไม่ได้เลิกกอง) เพื่อรอโอนย้ายไป PVD ของนายจ้างใหม่ หรือสามารถย้ายเงินจาก PVD ไปยังกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับเงินโอนจาก PVD โดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า “RMF for PVD”

กองทุน RMF for PVD เป็นตัวช่วยในการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีและมีเงื่อนไขการลงทุนเหมือนกับการลงทุน PVD คือต้องลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปี โดยนับต่อเนื่องจากการเป็นสมาชิก PVD ที่โอนไป และถอนการลงทุนเมื่ออายุ 55 ขึ้นไป ซึ่งเมื่อย้ายไป RMF for PVD แล้วจะไม่สามารถย้ายกลับมา PVD ได้อีก แต่สามารถปรับเปลี่ยนนโยบายและกองทุน รวมถึงย้ายกองทุนไปยังบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แห่งอื่นได้ด้วย

เมื่อเพื่อนสมาชิกได้ทราบข้อดีและสิทธิประโยชน์ของการโอนย้ายเงินจาก PVD ไปยัง RMF แล้ว อาจเริ่มสนใจว่า การลงทุนใน RMF for PVD มีทางเลือกอย่างไรบ้าง จะเลือกลงทุนอย่างไร และมีข้อควรรู้อื่น ๆ อีกหรือไม่

กองทุน RMF for PVD มีนโยบายอะไรให้เลือกลงทุนบ้าง?
ปัจจุบันมีกองทุน RMF for PVD ให้เพื่อนสมาชิกสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งหมด 54 กองทุน จาก บลจ. จำนวน 10 แห่ง โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารทุน (หุ้น) 28 กองทุน ในตราสารหนี้ 10 กองทุน แบบผสม[1] 13 กองทุน และลงในทรัพย์สินทางเลือก เช่น ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ 3 กองทุน

เพื่อนสมาชิกสามารถเลือกกองทุนที่มีนโยบายสอดรับกับแผนการลงทุนของตนเอง โดยพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุและความสามารถในการรับความเสี่ยง เช่น ท่านที่มีอายุ 30 ปี สามารถลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงได้ เช่น กองทุนตราสารทุน และกองทุนแบบผสม เป็นต้น ขณะที่ท่านที่อายุใกล้วัยเกษียณและไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูง อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนที่มีพอร์ตความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ เป็นต้น

นอกจากนี้ เมื่อโอนเงินมายัง RMF for PVD แล้ว ก็ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องเหมือน RMF ปกติ เพราะกองทุน RMF for PVD เปิดรับเฉพาะเงินโอนย้ายจาก PVD เท่านั้น แต่ยังสามารถบริหารสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) ของเงินดังกล่าวได้ เพื่อให้ตอบโจทย์การลงทุนได้มากขึ้น โดยการย้ายหรือสับเปลี่ยนไปยังกอง RMF for PVD กองอื่น เช่น กรณีนายจ้างยกเลิก PVD ในขณะที่มีอายุ 35 ปี ซึ่งยังสามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูงจึงโอนเงิน PVD ทั้งก้อนมายัง RMF for PVD ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน แต่ต่อมามีความกังวลต่อทิศทางตลาดหุ้นในอนาคตจึงแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ด้วย โดยขอสับเปลี่ยนไปยังกองทุน RMF for PVD ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ได้ ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไข และค่าธรรมเนียมในการสับเปลี่ยนจากตัวแทนขาย

พิจารณาเลือกกองทุนอย่างไรดี?
แม้ว่าผลการดำเนินงานของกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของไทยในช่วงนี้จะติดลบเมื่อเทียบย้อนหลัง 6 เดือน หรือ 1 ปี เนื่องจากจากวิกฤตโรคระบาด แต่ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนระยะยาวเพื่อบรรลุเป้าหมายการออมเพื่อใช้ในยามเกษียณอายุ แต่ก็อาจจะสงสัยว่า ควรเลือกกองทุนอย่างไรหากกองทุนที่จะเลือกมีผลการดำเนินงานย้อนหลังติดลบเหมือนกันหมด ดังนั้น เพื่อนสมาชิกควรเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนกับดัชนีชี้วัด (benchmark) ของกองทุนประเภทนั้น ๆ เพื่อดูว่ากองทุนนั้นมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่า benchmark หรือไม่

โดยหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (fund fact sheet) เช่น กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนที่ท่านสนใจ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี -15 % แต่เมื่อเทียบกับ SET TRI[2] ซึ่งเป็น benchmark ที่กำหนดไว้ใน fund fact sheet มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี -19% แสดงว่ากองทุนนั้นมีผลการดำเนินงานดีกว่าดัชนีชี้วัด เพราะมีผลขาดทุนน้อยกว่า

นอกจากนี้ควรพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังในระยะยาว เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี โดยเปรียบเทียบกับ benchmark ประกอบการตัดสินใจ เพราะอย่าลืมว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตสูง ผลตอบแทนสูง จะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสูงเช่นกัน

ศิษฏศรี นาคะศิริ

สำหรับผู้ที่สนใจจะโอนย้ายเงินจาก PVD ไปยัง RMF for PVD สามารถศึกษาและสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้จาก บลจ. 10 แห่ง ที่เสนอผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ได้แก่ บลจ.กรุงไทย บลจ.กรุงศรี บลจ.กสิกรไทย บลจ.ทหารไทย บลจ.ทิสโก้ บลจ.ธนชาต บลจ.พรินซิเพิล บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บลจ.เอ็มเอฟซี

ทั้งนี้ หากต้องการรายละเอียดบริการเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของแต่ละ บลจ. ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รวบรวมข้อมูลติดต่อไว้ตามลิ้งก์นี้

https://www.sec.or.th/th/pages/investors/assetmanagementcompanies-info.aspx

Latest articles

ORIGIN VERTICAL โกยยอดขายคอนโดฯต่างชาติครึ่งแรกปี’68 กว่า 2,800 ล้านบาท

ORIGIN VERTICAL ตอกย้ำผู้นำเจ้าตลาดขายคอนโดฯต่างชาติ โชว์ยอดขายต่างชาติ ชื้อคอนโดครึ่งแรกปี 2568 ทะลุกว่า 2,800 ล้านบาท ชี้ “รัสเซีย-จีน-ไต้หวัน” ครองสัดส่วนซื้อคอนโดฯมากสุด

W9 Wellness Center ชี้ “อาหารคลีนก็ทำให้อ้วนได้” กับดักสุขภาพที่รบกวนฮอร์โมนโดยไม่รู้ตัว

กินคลีนแล้วทำไมยังอ้วน? คำถามยอดฮิตที่ยังไม่มีคำตอบสำหรับใครหลายคน ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การหันมากินอาหารคลีนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนกลับตั้งคำถามว่า "ทั้งที่กินคลีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดลง

สาวก Nokia เฮ HMD Global ต่อสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์แบรนด์ Nokia

HMD ประเทศไทย เดินเกมรุกตลาดต่อเนื่องทันทีที่ได้ต่อสิทธิ์ ใช้ชื่อ Nokia ในการผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนในแบรนด์โนเกียทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ต่อไปอีกประมาณ 2–3 ปี หลังจากไลเซนส์ครบสัญญาในปี 2568 นี้

“เปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ผลลัพธ์” โอสถสภา เปิดแผนยั่งยืน 2573 ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

“เปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ผลลัพธ์” โอสถสภาประกาศความสำเร็จ ESG ระยะแรก เปิดแผนยั่งยืน 2573 ขยายสู่การ ‘พัฒนาคน’ และ ‘ลดของเสีย’ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

More like this