ถึงเวลา Big Data เปลี่ยนประเทศไทย จากยุคเศรษฐกิจดิจิทัลสู่ยุคเศรษฐกิจดาต้า

Published on

ปีนี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในอันดับที่ 57 ขยับขึ้น 16 อันดับจากเดิมได้ลำดับที่ 73 ในปี 2561จากผลการจัดอันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-government Development Index : EGDI ) ปี 2563

สิ่งนี้สะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และยกระดับความสามารถของประเทศให้ทัดเทียมนานาประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญนับจากนี้ของภาครัฐ ที่จะนำอีกเทคโนโลยีชั้นสูง อย่าง บิ๊กดาต้า มาใช้มองอนาคตให้เป็น และดึงนวัตกรรมที่ดีมาพัฒนาประเทศผ่านการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งเป็นทรัพยากรใหม่ที่มีค่าของโลก

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ NIA ระบุว่าบทบาทของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ภาครัฐจำเป็นต้องนำไปปรับใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน การช่วยในการตัดสินใจและตรวจสอบข้อมูล การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การพยากรณ์และคาดการณ์สภาวะต่างๆ รวมถึงการนำนวัตกรรมข้อมูลเพื่อเข้าถึงในสิ่งที่ประชาชนยังขาด และสามารถออกมาตรการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เพิ่มมากขึ้น

ชี้ปัจจุบันแรงขับเคลื่อนทางเทคโนโลยี ทำให้ความคุ้นชินกับคำว่าเศรษฐกิจดิจิทัล กำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้งไปสู่คำว่า “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” ซึ่งสิ่งที่หลายองค์กรต้องตามให้ทันก็คือการพึ่งพาอาศัยฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เศรษฐกิจ และสังคม ส่งผลให้นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีมูลค่ายิ่งกว่าทองคำ สำหรับส่วนของ NIA ได้เตรียมใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดังกล่าวผ่านการมองอนาคต วิเคราะห์ศักยภาพผู้ประกอบการ งานวิจัย และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อฉายภาพอนาคตและส่งเสริมนวัตกรรมที่เหมาะสมกับประเทศไทย

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า บริบทการใช้นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันหลายองค์กรทั้งหน่วยงานกำกับของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเริ่มผลักดันและขับเคลื่อนการทำนวัตกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เช่น ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ที่มีการสร้างแพลตฟอร์มไทยชนะ ให้บริการประชาชนเช็คอินในสถานที่ต่างๆ

พร้อมเก็บข้อมูลความหนาแน่นของคนในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำมาวิเคราะห์โอกาสการเกิดขึ้นซ้ำหรือการระบาดของโรค หรือแม้แต่กระทั่งการนำข้อมูลตัวเลขผู้ติดเชื้อมาพยากรณ์อนาคตการเกิดโรค พร้อมออกแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาว นอกจากนี้ นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลยังจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการดำเนินงานของรัฐ และหลายองค์กรของรัฐต้องนำมาใช้ในการพัฒนางานคือ

• นำไปใช้ในหน่วยงานด้านสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านความมั่นคง ด้านการบริการประชาชน โดยเฉพาะการเก็บสถิติต่าง ๆ เพื่อออกคำเตือน หรือบริการประชาชนให้รวดเร็วขึ้น

• เมื่อรัฐสามารถพัฒนานวัตกรรมข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น จะสามารถทำให้ออกมาตรการเพื่อการเยียวยา หรือพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้ประชาชนมีความพึงพอใจชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม ตลอดจนทำให้สิ่งที่ไม่เคยเข้าถึงหรือเข้าถึงได้ยาก เข้าถึงกลุ่มประชากรในแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น

• เมื่อนวัตกรรมข้อมูลถูกพัฒนา หรือนำมาใช้อย่างแพร่หลาย จะช่วยขจัดอุปสรรคในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่แม้ไม่ได้อยู่ในภาคส่วนเดียวกันทำงานร่วมกันได้มากกว่าที่ผ่านมา

• ภาครัฐจำเป็นต้องมีการลงทุนและนำนวัตกรรมข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจ และการตรวจสอบข้อมูล เพื่อช่วยให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว

• ช่วยพยากรณ์ และคาดการณ์สภาวะต่างๆ เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างรวดเร็ว

“ทั้งนี้ คลื่นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีกำลังขับเคลื่อนโลกไปอย่างรวดเร็ว จากปัจจุบันที่ทุกคนคุ้นชินกับคำว่าเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้งไปสู่แนวคิดคำว่า “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่และหลายองค์กรต้องตามให้ทันก็คือการพึ่งพาอาศัยฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังจะมีมูลค่ายิ่งกว่าทองคำ น้ำมัน และจะกลายเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่สำคัญของโลก อีกทั้งยังเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถนำไปสร้างความมั่นคงและการเติบโตของสิ่งต่างๆ ได้ในระยะยาว” ดร.พันธุ์อาจ กล่าวสรุป

ด้าน ดร.ชัยธร ลิมาภรณ์วณิชย์ ผู้อำนวยการสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (IFI) กล่าวว่า นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Innovation) จะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากในอนาคตสังคมกำลังจะก้าวข้ามยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเข้าไปสู่ยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีข้อมูลเกิดขึ้นมาอย่างมากไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลองค์กร ข้อมูลการใช้งาน ข้อมูลด้านพฤติกรรม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะกลายมาเป็นสิ่งที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสามารถนำไปใช้

เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีภายในองค์กร และการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ขึ้นมารองรับความต้องการหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการมีฐานข้อมูลยังจะทำให้รู้ว่าจะต้องจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร ยกตัวอย่างจากสถานการณ์ที่เกิดการระบาดของไวรัส โควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้แต่หลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็น สาขาระบาดวิทยาศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ และสาขาสังคมหันมาให้ความสนใจในการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในอนาคตสิ่งเดิม ๆ ที่สังคมเคยเผชิญอยู่จะแตกต่างออกไป และเปลี่ยนเข้าสู่บริบทใหม่ของการดำเนินชีวิตหรือที่เรียกว่า “New Normal

สำหรับปัจจุบันการนำนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาใช้ในภาครัฐและเอกชน ในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือระยะแรกการแปลงข้อมูลจากอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิทัล (Digitization) เนื่องจากในบางองค์กรยังไม่ได้มีความพร้อมด้านงบประมาณ หรือความเชี่ยวชาญของบุคลากรที่จะนำไปใช้อย่างจริงจัง ระยะที่สองคือ กระบวนการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นการนำข้อมูลแปลงออกมาใช้ประโยชน์แต่ละบริบทเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าใหม่ เช่น การทำแพลตฟอร์มการจัดการในภาวะวิกฤติ เป็นต้น

โดยในส่วนของ NIA ได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดังกล่าวผ่านการมองอนาคต โดยสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (IFI) นำมาใช้ในการวิเคราะห์ศักยภาพของผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ งานวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน ดึงข้อมูลทิศทางต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงสิ่งที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาศูนย์ข้อมูลสารสนเทศด้านนวัตกรรม เพื่อนำข้อมูลที่รวบรวมได้ไปปรับใช้กับนโยบาย แนวทางปฏิบัติงาน ต่อเนื่องถึงการส่งเสริมนวัตกรรมที่เหมาะสมกับประเทศ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป หน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ เข้าใจคำว่านวัตกรรมข้อมูล และสามารถนำไปช่วยวิเคราะห์สิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต เพื่อรับมือได้ทันท่วงที

#nia ,#datadriveninnovation ,#newnormal ,#เศรษฐกิจดิจทัล

Latest articles

“เชลล์แชมเปียนส์ลีก ชิงแชมป์สามช่างยนต์ระดับประเทศ ปีที่ 2”

“เชลล์แชมเปียนส์ลีก ชิงแชมป์สามช่างยนต์ระดับประเทศ ปีที่ 2” ดันช่างยนต์ไทยสู่เวทีโลก ผนึกกำลังกรมพัฒนาฝีมือแรงงานยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานไทย

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.จัดกิจกรรม “Ultimate Marketing Plan Contest 2025”

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ร่วมกับ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จัดกิจกรรม “Ultimate Marketing Plan Contest 2025” สร้างนักการตลาดรุ่นใหม่ ต่อเนื่องเป็นปีที่...

ยัวซ่าแบตเตอรี่ ฉลอง 2,600 วันแห่งความปลอดภัย ปักหมุดองค์กรต้นแบบ Zero Accident

บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัย (Safety First) จนประสบความสำเร็จในโครงการ Zero Accident 2,600 วัน แห่งวัฒนธรรม “ปลอดภัยอย่างยั่งยืน”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข #1” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในไทย ผ่าน 'PTG Social Innovation' ใช้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิต แก้ปัญหาเลือดขาดแคลนอย่างยั่งยืน

More like this