เสริมสร้างสุขภาพ ด้วย 3 น้ำมันทรงคุณค่าจากธรรมชาติ

Published on

การใส่ใจดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทั้งสุขภาพของผิวพรรณและร่างกายแข็งแรงย่อมเป็นการป้องกันที่ดีกว่า ซึ่งในแวดวงความงามและสุขภาพ

ในต่างประเทศรู้จักการนำน้ำมันชนิดต่างๆ อาทิ การนำน้ำมันมะกอก มาผสมในเครื่องสำอาง หรือนำมารับประทานเป็นอาหารเสริม เพื่อดูแลผิวพรรณ และสุขภาพมาอย่างยาวนาน แม้กระทั่งประเทศไทยซึ่งมีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นก็มีความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างการใช้ น้ำมันมะพร้าว เพื่อดูแลสุขภาพและผิวพรรณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า “การใช้ประโยชน์ของน้ำมันจากแหล่งธรรมชาติเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ และดูแลบำรุงผิวพรรณ ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของมนุษย์เรามาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่ร่างกายต้องการความอบอุ่น และผิวก็ต้องการความชุ่มชื้น ซึ่งน้ำมันจากธรรมชาติมีคุณประโยชน์ที่สามารถนำไปสกัดเพื่อรับประทานเป็นอาหารเสริม หรือนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่างๆ

ซึ่งน้ำมันจากธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์อย่างสูง มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นที่นิยมในการนำมาสกัด เพื่อใช้สำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว เพราะเป็นน้ำมันที่อุดมด้วยกรดไขมันอิ่มตัวชนิดสายยาวปานกลาง (Medium Chain Triglyceride) ได้แก่ กรดไขมันลอริก (Lauric acid) ซึ่งมีคุณสมบัติ ต้านเชื้อโรค ต้านอักเสบ จึงลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ

นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย นิยมนำมาสกัดเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง จากน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก ที่มีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็น เพื่อคงคุณค่าของสารสำคัญ ต่อมาคือ น้ำมันมะกอก ที่มีสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ ไฮดรอกซีไทโรซอล ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและลดการออกซิเดชัน ทำให้มีสุขภาพผิว ที่ดีและอ่อนเยาว์ ช่วยลดปัจจัยในการเกิดริ้วรอย และยังลดสาเหตุของการเกิดสิว และยังอุดมไปด้วยสารโอลีโอแคนธัล ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ

รวมไปถึงมีส่วนช่วยในการการกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกรดไขมัน โอเมก้า 9 จำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่ม HDL ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูล และโรคหัวใจ ซึ่งนิยมนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมจากน้ำมันมะกอกธรรมชาติบริสุทธิ์ และมีการเติมสารไฮดรอกซีไทโรดอลซอล ที่ได้จากผลมะกอกเพิ่ม เพื่อช่วยให้มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างร่างกายมากยิ่งขึ้น

และสุดท้าย น้ำมันปลา ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3 fatty acids) ได้แก่ กรดอิโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid (EPA) หรือ อีพีเอ และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid (DHA) หรือ ดีเอชเอ มีคุณสมบัติเป็นส่วนช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ลดระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการตาแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็น DHA ชนิดพิเศษ ที่มีโครงสร้างเหมือนในน้ำนมแม่ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายกว่า

พญ.นลินี ไพบูลย์

“ทั้งนี้การเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงด้วยน้ำมันจากธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด ดังที่กล่าวมานั้นจะยิ่งมีประสิทธิภาพหากควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีอาหารเสริมที่สกัดจากน้ำมันจากธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด เพื่อเป็นตัวช่วยและสะดวกในการเพิ่มเติมสารอาหารให้กับร่างกาย ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน ได้รับการตรวจสอบคุณภาพจากสํานักรับรองระบบคุณภาพ” พญ.นลินี กล่าว

ร่วมเปิดประสบการณ์การเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยสารสกัดจาก น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก และ น้ำมันปลา จาก กิฟฟารีน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ หรือโทรกิฟฟารีน 1101 กิฟฟารีน เดลิเวอรี่ โทร. 02-619-5222 และสั่งซื้อออนไลน์ ได้ที่ Facebook: giffarineofficial Line@giffarinethailand www.giffarine.com Shopee และ Lazada

 

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this