เวียงสา–ท่าวังผา จังหวัดน่าน ชุมชนต้นแบบ รับมือภัยพิบัติ

Published on

สสส. ร่วมกับเครือข่ายแผนจัดการภัยพิบัติจังหวัดน่าน มุ่งผลักดันให้เป็นจังหวัดต้นแบบลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคมอย่างยั่งยืน จากความพร้อมในหลายพื้นที่ที่มีศักยภาพในการจัดการตนเองเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ ด้วยความเป็นชุมชนเข้มแข็งที่มีกระบวนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอำเภอเวียงสาได้รับการรับรองเป็นชุมชนปลอดภัยระดับนานาชาติจากองค์การอนามัยโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายแผนจัดการภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดน่าน อาทิ มูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) สถาบันพัฒนาประชาสังคม สมาคมองค์กรสาธารณประโยชน์ และมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการเพื่อลดทอนความเสี่ยงภัยพิบัติโดยมีกลไกการทำงานของชุมชนเป็นฐาน ในอำเภอท่าวังผาและอำเภอเวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมซ้ำซากตั้งแต่ พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา

โดย อำเภอท่าวังผา เป็นจุดที่ลำน้ำสาขาถึง 7 สายไหลมารวมกันที่แม่น้ำน่าน ก่อนลงไปยังตอนล่างสู่ อำเภอเวียงสา ที่มีลำน้ำว้ามารวมอีกด้วย โดยในปี 2549 และ 2554 ระดับน้ำท่วมในชุมชนที่ท่าวังผาสูงถึง 5 เมตร ทำให้ชุมชนและพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ครัวเรือน ส่วนที่เวียงสา ปี 2554 ระดับน้ำท่วมสูงถึง 7 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 26,000 คน ใน 38 หมู่บ้าน

ทั้งนี้ เครือข่ายภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดน่านได้สร้างกลไกการทำงานของชุมชนให้เป็นแกนนำในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ ตั้งแต่การสร้างความตระหนักและจิตสำนึกที่ดี การหาแนวทางและกระบวนการจัดการรวมถึงการขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วมอย่างมีขั้นตอน การบูรณาการกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยเวียงสาได้มีการบริหารจัดการเพื่อลดทอนความเสี่ยงภัยตั้งแต่ปี 2556 จนเกิดผลคือ เมื่อเกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปี 2561 มีผู้ได้รับผลกระทบ, ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ, ความเสียหายต่อสาธารณูปโภค ฯลฯ ลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับอุทกภัยปี 2554 มีมูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท ส่งผลให้อำเภอเวียงสาได้รับการรับรองเป็นชุมชนปลอดภัยระดับนานาชาติจากองค์การอนามัยโลก โดยเทศบาลตำบลกลางเวียงและเทศบาลตำบลเวียงสายังได้รับการรับรองด้านชุมชนปลอดภัย ลำดับที่ 404 และ 405 ตามลำดับ

รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า “การทำงานของเครือข่ายที่เวียงสามีความเข้มแข็งด้วยพลังชุมชน ซึ่งร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ สสส. จึงส่งเสริมให้สร้างเครือข่ายทุกระดับเพื่อขยายการทำงาน ตั้งแต่ชุมชน ตำบล และอำเภอ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันผลักดันกลไกชุมชนสู่จังหวัดต้นแบบที่มีการบริหารจัดการภัยพิบัติ รวมถึงการลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ภาครัฐเล็งเห็นความสำคัญและจัดสรรงบประมาณบริหารจัดการให้ทางจังหวัดได้ตรงตามความต้องการของชุมชน โดยรับฟังเสียงของภาคประชาชนเจ้าของพื้นที่และเจ้าของปัญหาอย่างแท้จริง ที่ผ่านมา สสส. ได้หนุนเสริมโมเดลจังหวัดต้นแบบเช่นนี้แล้วที่จังหวัดพังงา ปทุมธานี และสกลนคร”

วิโรจน์ หวั่นท๊อก

นายวิโรจน์ หวั่นท๊อก ประธานศูนย์ภัยพิบัติอำเภอเวียงสา และนายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา กล่าวว่า “เราเน้นย้ำให้ชุมชนตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบของภัยพิบัติ พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนของ อบต. ทั้ง 8 แห่ง คือ กลางเวียง, ไหล่น่าน, ส้าน, ตาลชุม, ขึ่ง, น้ำปั้ว, นาเหลือง, และเวียงสา ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสำรวจจุดเสี่ยง จัดทำแผนชุมชน และปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันทุกปี ศึกษาการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อการเข้าถึงข้อมูล วิเคราะห์ และแจ้งเตือนภัยผ่านระบบการสื่อสารของชุมชนและโซเชียลมีเดีย ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมช่วยเหลือทุกพื้นที่ เช่น เรือ แพ กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำ ฯลฯ โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นเครือข่ายจิตอาสาที่เชื่อมร้อยกับทุกฝ่ายเพื่อจัดระบบสนับสนุนความช่วยเหลือระหว่างกันให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในทุกกระบวนการ ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย”

เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ มีการนำเสนอแนวทางที่น่าสนใจของ 2 ชุมชนในตำบลเวียงสา ได้แก่ ชุมชนบ้านกลางเวียง มีความโดดเด่นในการเป็น “ชุมชนปฏิบัติการลดทอนความเสี่ยงภัย” ด้วยการจัดตั้งกลุ่มจิตอาสาที่มีการจัดแบ่งภาระงานเป็น 13 ฝ่าย เช่น ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายป้องกันและเตรียมความพร้อม ฝ่ายเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ฝ่ายอพยพ ฝ่ายค้นหากู้ภัยและช่วยชีวิต ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ฯลฯ ที่มีการทำงานแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ ด้วยหลักคิด “4 ไม่” คือ 1) ไม่ทำไม่ได้ 2) ไม่ท้อไม่ถอย 3) ไม่นิ่งดูดาย และ 4) ไม่เห็นแก่ตัว
ส่วน ชุมชนบ้านดอนไชย มีจุดเด่นคือการร่วมกันหาแนวทางฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย โดยจัดตั้ง “กองทุนช่วยเหลือภัยพิบัติ” ที่เกิดจากการสมทบเงินของชาวบ้านเอง และเริ่มระดมทุนอย่างต่อเนื่องจากเงินทำบุญในงานต่าง ๆ รวมถึงการนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคเกินความต้องการมาจำหน่ายในราคาถูก พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์รับบริจาคผ่านเฟซบุ๊คด้วย

สง่า อินยา

ด้าน นายสง่า อินยา ผู้แทนเครือข่ายภัยพิบัติ และประธานสภาวัฒนธรรม อำเภอท่าวังผา กล่าวว่า “ที่ท่าวังผามีการจัดการเรื่องน้ำท่วมพร้อมกับพื้นที่เวียงสา แต่บางช่วงก็ขาดความต่อเนื่องเพราะขาดงบประมาณ ขาดแกนนำที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน การเข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ทำให้มั่นใจว่าจะกลับไปขับเคลื่อนแผนชุมชนท่าวังผาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการกระตุ้นพลังของชุมชนให้มีความตระหนักว่าภัยพิบัติเกิดขึ้นกับตัวเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันและช่วยเหลือตัวเอง จึงจะนำไปสู่การบริหารจัดการได้อย่างยั่งยืน โดยอำเภอท่าวังผามีพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา แก้ปัญหาภัยพิบัติ” ด้วยศาสตร์พระราชา ที่ศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติชุมชนต้นน้ำน่าน ซึ่งเรามุ่งหวังว่าแนวคิดนี้จะขยายไปสู่ทุกชุมชนในอำเภอท่าวังผา และทุกอำเภอของจังหวัดน่านต่อไปในอนาคต”

การพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติโดยมีชุมชนเป็นฐานในการขับเคลื่อน เป็นเรื่องสำคัญที่ควรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อการปรับใช้ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และต้องการแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนและชุมชนในการเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และลดผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

Latest articles

วิริยะประกันภัย สนับสนุนเดิน-วิ่ง บ้านโพธิ์มินิมาราธอน ครั้งที่ 1

กิจกรรม “เดิน-วิ่งการกุศล บ้านโพธิ์มินิมาราธอน ครั้งที่ 1” ทางคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วิ่งริมแม่น้ำบางปะกง ชมทุ่ง กินกุ้ง กินปลา”

ฟลูโอคารีล ชวนตรวจสุขภาพฟันฟรี  หลังพบผลสำรวจ 70%  คนไทยฟันผุ-ห่างหมอฟัน

วิกฤติฟันผุ! เกือบ 70% ของคนไข้ในกิจกรรม ‘ฟันผุบ๊ายบาย ใช้ชีวิตสบายๆ กับฟลูโอคารีล’ เผยเคยมีฟันผุ ชี้ทุกช่วงวัยต้องเฝ้าระวัง ป้องกันอย่างเร่งด่วน

Airbus launches Tech Hub in Korea

Airbus has announced the establishment of an Airbus Tech Hub in Korea. Located in Daejeon, the heart of the nation’s R&D ecosystem

สำนักงานสลากฯ ออกรางวัลสัญจร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดกำแพงเพชร

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) พร้อมออกสลากสัญจร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าร่วมรับชมขั้นตอนการออกรางวัล เพื่อแสดงถึงความโปร่งใส

More like this