สถานการณ์โรคคอตีบ เด็กเล็ก-วัยเรียน เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

Published on

โรคคอตีบ เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่รุนแรงจะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ ถ้าเป็นรุนแรงจะทำให้เป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้  ล่าสุด พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ (วันที่ 28 ก.ค. – 3 ส.ค. 62) จากกรมควบคุมโรค ได้รายงานถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโรคคอตีบในประเทศไทย

นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคคอตีบในประเทศไทย ปี 2562 มีการรายงานผู้ป่วยแล้ว 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยใน 9 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร นครราชสีมา อุดรธานี สระแก้ว ตาก เชียงราย ยะลา สตูล และสงขลา นอกจากนี้ ยังพบว่าอัตราป่วยของโรคคอตีบปีนี้สูงขึ้นประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 และค่ามัธยฐาน 5 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มอายุแรกเกิด-9 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาคืออายุ 10-19 ปี

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ คาดว่ามีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคคอตีบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน (แรกเกิด-9 ปี และ 10-19 ปี) ซึ่ง 2 กลุ่มอายุนี้เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียนประจำ ศูนย์เด็กเล็ก รวมถึงบางพื้นที่ของประเทศที่ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนยังไม่เพียงพอ

โรคคอตีบ เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่รุนแรงจะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ ถ้าเป็นรุนแรงจะทำให้เป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้  เชื้อจะพบอยู่ในคนเท่านั้น โดยจะพบอยู่ในจมูกหรือลำคอของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อโดยไม่มีอาการ และสามารถติดต่อกันได้ง่าย โดยการได้รับเชื้อจากการไอ จามรดกัน หรือพูดคุยในระยะใกล้ชิด เชื้อจะเข้าสู่ผู้สัมผัสทางปากหรือทางการหายใจ บางครั้งอาจติดต่อกันได้โดยการใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน หรือการดูดอมของเล่นร่วมกันในเด็ก

หลังจากรับเชื้อผู้ป่วยจะมีอาการไข้ต่ำๆ มีอาการคล้ายหวัดในระยะแรก มีอาการไอเสียงก้อง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ในเด็กโตอาจจะบ่นเจ็บคอคล้ายกับคออักเสบ บางรายอาจจะพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโตด้วย ในรายที่มีอาการรุนแรงจะพบแผ่นเนื้อเยื่อสีขาวหรือสีเทาที่คอหอย ซึ่งอาจอุดกั้นทางหายใจ และอาจพบภาวะแทรกซ้อนเช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เส้นประสาทอักเสบได้

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า ในการป้องกันโรคนี้สามารถทำได้โดยการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ด้วยการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ จึงขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบตามช่วงเวลาที่กำหนด ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวัคซีน dT ครบตามเกณฑ์  นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this