ปัจจุบันคงไม่ต้องพูดถึงบทบาทของผู้หญิงยุคใหม่ในสังคมไทย เรามักจะเห็นคนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงเริ่มมีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจและมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ไม่ธรรมดา และผู้หญิงยังเป็นกำลังสำคัญและเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย
ผู้หญิงจำนวนมากได้มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร รวมถึงเป็นผู้นำหน่วยงานและองค์กรใหญ่น้อยต่าง ๆ มากมาย ซึ่งความสำเร็จที่ได้มานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากการทุ่มเททำงานหนักของพวกเธอซึ่งต่างคนต่างก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ในแต่ละช่วงชีวิตแล้ว พวกเธอยังต้องทำหน้าที่อื่นไปพร้อมๆกันอีกด้วย ทั้งหน้าที่ในการเป็นแม่ หน้าที่ของลูก และหน้าที่ของภรรยา เป็นต้น
ถึงกระนั้นในแต่ละช่วงอายุ ผู้หญิงแต่ละคนต่างมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่แตกต่างกันออกไป อย่างสาวโสดประจำออฟฟิศอาจกังวลเรื่องงานและเรื่องสุขภาพ เช่น การมีรูปร่างที่สมส่วน การควบคุมอาหาร หรือกังวลเรื่องการพรีเซ้นท์งานในที่ประชุม ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวอาจมีความกังวลเรื่องการหาบ้านหลังใหม่มาเป็นเรือนหอ ซึ่งแค่การค้นหาบ้านในฝันที่ถูกใจก็ยากพออยู่แล้ว ยังมิวายต้องจัดการเรื่องงานที่บริษัทไปพร้อมๆกันอีกด้วย หรือแม้กระทั่งคุณแม่มือใหม่ที่มีลูกเล็กเอง ธุรกิจการงานก็ต้องดูแลแต่ก็ไม่สามารถละสายตาออกจากลูกน้อยที่ต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างต่อเนื่องได้เลย ซึ่งไลฟ์สไตล์เหล่านี้อาจทำเอาหญิงแกร่งหลายคนถึงกับเขว เพราะเวลาในชีวิตแต่ละวันนอกจากจะทุ่มเทไปกับงานแล้วยังต้องหาเวลามาดูแลตนเองหรือคนรอบข้างอีก จนเกิดเป็นความเครียดสะสมถึงขนาดที่สาว ๆ หลายคนสงสัยว่า งานเยอะขนาดนี้ สุขภาพจะดีได้จริงหรือ?
จากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของ “ซิกน่า” พบว่า ความเครียดในที่ทำงานของผู้หญิงมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตามวัย โดยคุณแม่ที่มีลูกเล็กจะมีความเครียดสูงที่สุด โดยมากถึง 19% ของผู้หญิงกลุ่มนี้มองว่าตัวเองมีงานที่ต้องทำมากเกินไป ตามด้วยผู้หญิงแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก (15%) และ สาวโสด (13%) โดยสาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากความรับผิดชอบที่คุณแม่หลายๆคนต้องดูแลลูกไปด้วยและทำงานไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีลูกเล็กที่ต้องได้รับนมแม่ในทุก ๆ วัน ซึ่งอาจทำให้คุณแม่มีความกังวลมากเพราะต้องบาลานซ์ทั้งเรื่องงานและเรื่องลูก จนทำให้สะสมเป็นความเครียดและความกดดันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ในระยะยาว
ถึงแม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะสิ่งที่ผู้หญิงส่วนมากพบเจออยู่แทบทุกวันแต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่ออฟฟิศส่วนมากมีโปรแกรมดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ของพนักงานหญิงที่ไม่เพียงพอ โดยผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของ “ซิกน่า” ยังพบว่าสาวออฟฟิศมีความต้องการ 5 สิ่งนี้ ได้แก่ เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น (28%) วันลาพิเศษ (23%) สถานที่คลายเครียดในออฟฟิศ (21%) เวลาในการทำงานที่สั้นลง (19%) และ กิจกรรมการออกกำลังกายร่วมกันต่าง ๆ (16%)
ทั้งนี้การดูแลตนเอง พร้อมทั้งการรับผิดชอบต่อครอบครัวและงานที่มากล้นในขณะเดียวกันอาจเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คนในการวางแผนเพื่อบริหารและจัดการ โดยเฉพาะการบริหารเวลา จึงทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนเลือกที่จะดูแลภาระหน้าที่ด้านการทำงานและครอบครัวก่อนการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งจริงๆแล้วผู้หญิงเราไม่ควรที่จะละเลยการดูแลตัวเองเลย และเรามีวิธีง่าย ๆ เพื่อช่วยให้ผู้หญิงยุคใหม่จัดการชีวิตของตัวเองให้สมดุลได้
วิธีง่าย ๆ ที่จะสามารถจัดวางตารางชีวิตของตนเองให้เป็นระเบียบ
1. จดบันทึกกิจกรรมในแต่ละวัน – หากไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรก่อน ให้เริ่มจัดการกับปัญหาเหล่านี้ด้วยการจดบันทึกสิ่งที่ตัวเองต้องทำในแต่ละวันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยสามารถเขียนโน้ตลงบนกระดาษหรือในมือถือก็ได้ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สาว ๆ ทุกรู้ว่าควรทำอะไรก่อนและหลัง รวมไปถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย
2. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ – นอกเหนือจากการโน้ตสิ่งที่ตัวเองต้องทำในแต่ละวันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งคือการเข้านอนให้ตรงเวลา และพักผ่อนให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอ โดยการนอนหลับให้เต็มอิ่มนั้นนอกจากจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอนขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายของเรามีเวลาบำรุงซ่อมแซมตัวเองจากอาการเหนื่อยล้าในการทำงาน เพื่อสร้างแรงให้กลับมาพร้อมสู้รบกับเช้าวันใหม่ได้อย่างเต็มที่
3. แบ่งเวลาการทำงานและเวลาส่วนตัว – ถึงแม้ว่าจะมีหน้าที่และการงานที่ค่อนข้างหนักในแต่ละวัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแบ่งเวลาให้เป็นระเบียบ ซึ่งในแต่ละวันสาว ๆ ควรแทรกเวลาพักผ่อนเข้าไปในตารางชีวิตด้วย เช่น เวลาพักสั้น ๆ 10-15 นาที เพื่อลุกขึ้นเดินไปสูดอากาศนอกออฟฟิศ หรือเพื่อเป็นการขยับร่างการและผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง
โดยเพียงทำตามวิธีง่าย ๆ เหล่านี้ ชีวิตที่ดูวุ่นวายนั้นก็จะมีความเป็นระบบระเบียบมากขึ้น และเมื่อเราสามารถจัดวางตารางชีวิตได้แล้ว ความเครียดและความกังวลจากภาระหน้าที่ต่าง ๆ จากทั้งที่บ้านหรือที่ทำงานก็ตามจะค่อยๆลดลง ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้หญิงยุคใหม่ทุกคนดีขึ้น กลายเป็นพลังบวกเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้หญิงยุคใหม่สตรองต่อไปได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า
การสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า (Cigna’s 360° well-being survey) เป็นการศึกษาการรับรู้และทัศนคติของผู้คนเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของตนเอง โดยสะท้อนความรู้สึกของแต่ละคนที่มีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของตนเอง โดยการสำรวจนี้เป็นการสำรวจแบบออนไลน์และได้รับการออกแบบเพื่อศึกษาสุขภาพและความเป็นอยู่ในห้าด้านหลัก ได้แก่ สุขภาพและความเป็นอยู่ด้านร่างกาย ด้านสังคม ด้านครอบครัว ด้านการเงิน และด้านการงาน โดยดัชนีชี้วัด หรือ คะแนนที่ได้จากการสำรวจนั้น วัดจากความคิดเห็นโดยรวมของประชากรที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชีย-แปซิฟิคและสหราชอาณาจักร