แรงบันดาลใจจากฟอร์มูล่า 1 สู่ เบล แอนด์ รอส R.S.19

Published on

แรงบันดาลใจจากฟอร์มูล่า 1 สู่เรือนเวลาสปอร์ตสมรรถนะสูง เบล แอนด์ รอส R.S.19

Bell & Ross (เบล แอนด์ รอส) สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแสดงถึงพลังความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณแห่งการคิดค้น ล่าสุด เบล แอนด์ รอส ได้กลับมาร่วมมือกับทีมแข่งขันรถสูตรหนึ่งระดับโลกอย่าง Renault F1 Team (เรโนลต์ เอฟวัน ทีม) ซึ่งเป็นปีที่ 4 ของทั้งสองค่ายที่พากันก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกด้านความเร็ว โดยล่าสุดได้เผยโฉม สี่เรือนเวลาอัจฉริยะคอลเลคชั่น R.S.19 ที่พร้อมจะโลดแล่นบนสนามในเร็ววัน

การร่วมมือระหว่าง เบล แอนด์ รอส และ เรโนลต์ เอฟวัน ทีม มีเป้าหมายเดียวกันคือการพิชิตสุดยอดกลไกทางวิศวกรรมสมรรถนะสูงเพื่อต้อนรับ 2 นักแข่งรถยอดฝีมืออย่างนิโค ฮัลเคนเบิร์ก (Nico Hulkenberg) ชาวเยอรมัน และ แดเนียล ริคคาร์โด้ (Daniel Ricciardo) ชาวออสเตรเลีย ที่ก้าวเท้าเข้ามาร่วมทีมกับเรโนลต์ เอฟวัน เบล แอนด์ รอส ได้หยิบเอาสีเหลือง ดำ เขียว แดง และส้ม ซึ่งมีต้นแบบมาจากรถแข่งสูตรหนึ่งแห่งเรโนลต์ เอฟวัน ทีม ที่เริ่มใช้ในคอลเลกชั่น R.S.17 เป็นครั้งแรก พร้อมสร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีสมรรถนะแห่งการจับเวลาสูงถือเป็นหัวใจสำคัญสูงสุดในโลกของการแข่งขันด้านความเร็ว เบล แอนด์ รอส ได้ดึงดีไซน์จากรถสูตรหนึ่งมาผสมผสานเข้ากับความล้ำสมัยแห่งเทคโนโลยีและหลอมรวมด้วยนวัตกรรมสูงสุดของวัสดุที่ใช้ในโลกแห่งการแข่งขันด้านความเร็ว พร้อมด้วยรหัสสีสัญลักษณ์ทั้งหมดซึ่งหาชมได้ไม่บ่อยนักในเรือนเวลาระดับไฮเอนด์ และยังได้มอบซึ่งประสิทธิภาพฟังก์ชั่นแห่งการจับเวลา การแสดงผลโครโนกราฟ หรือการแสดงพลังงานสำรองได้อย่างชัดเจนและแม่นยำไว้ในสุดยอดเรือนเวลาทั้ง 4 นี้

BR V3-94 R.S.19 (บีอาร์ วี3-94 อาร์เอส19) และ BR 03-94 R.S.19 (บีอาร์ 03-94 อาร์เอส19) 2 เรือนเวลาสปอร์ตหรูที่ผ่านการขัดเกลาโดย เบล แอนด์ รอส ให้เป็นนาฬิกาเฉพาะทาง มาพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาที่ให้ความละเอียดสูง ติดตั้งด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ BR-CAL.301 ซึ่งสามารถจับเวลาได้ละเอียดถึง 1/8 ของวินาทีและจับเวลาสูงสุดได้นานถึง 30 นาที นอกจากนี้ยังสามารถจับความเร็วของยานพาหนะได้อย่างแม่นยำ แตกต่างกันที่รูปทรงของตัวเรือนเท่านั้น โดย BR V3-94 R.S.19 มีตัวเรือนทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.0 มิลลิเมตร ประกอบเข้ากับสายหนังลูกวัวลาย คาร์บอนไฟเบอร์หรือสายสตีลปัดด้าน

ส่วน BR 03-94 R.S.19 มาพร้อมตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.0 มิลลิเมตร ใช้สายยางสีดำเย็บเข้ากับผ้าสังเคราะห์ที่สร้างความยืดหยุ่นขณะสวมใส่ นอกจากนี้ยังใช้สารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าเคลือบบนตัวเลข หลักนาทีและหลักชั่วโมง เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้ง่ายในขณะใช้งาน ผลงานคอลเลคชั่นนี้แตกต่างจากรุ่นก่อนด้วยหน้าปัดที่ทำจากเส้นใยคาร์บอน วัสดุคุณภาพสูงที่มักปรากฏในวงการรถสูตรหนึ่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงพวงมาลัยรถแข่งของ นิโค และ แดเนียล สำหรับนักแข่งที่ใช้สมาธิขณะควบคุมรถ เรือนเวลาทั้งสองนี้ได้ติดตั้งขอบตัวเรือนที่สามารถหมุนได้สองทิศทางเพื่อนับจับเวลาอย่างฉับไว นอกจากนี้ยังทำขอบเซาะร่องไว้ให้หมุนได้ถนัดแม้ยามสวมใส่ถุงมือ สำหรับ เบล แอนด์ รอส BR V3-94 R.S.19 และ BR 03-94 R.S.19 ผลิตเพียงรุ่นละ 999 เรือนเท่านั้น

คอลเลคชั่น R.S.19 ยังมีเรือนเวลาสมรรถนะสูงด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ BR-CAL.313 ที่ทำความถี่สูงถึง 28,800 รอบต่อชั่วโมง อย่าง BR-X1 R.S.19 (บีอาร์-เอ็กซ์1 อาร์เอส19) มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมทรงสี่เหลี่ยมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.0 มิลลิเมตร ล้อมด้วยเซรามิกสีดำด้านแบบ Micro-Blasted ห่อหุ้มด้วยยางน้ำหนักเบา ทำหน้าที่เป็นเกราะกันกระแทกขณะสวมใส่ ใช้ปุ่มกดสั่งการจับเวลาแบบกระเดื่องหรือ Rocker Push-Button ทำให้กดใช้งานง่ายแม้ยามสวมถุงมือ และเพิ่มความพิเศษหน้าปัดเปลือยอวดกลไกอันแสนล้ำสมัยของเรือนเวลา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่ด้วยการทำขอบตัวเรือนแบบหมุนสองทิศทางมีสเกลนาทีและเพิ่มคำว่า Time Marker เข้าไป ในเวลาการแข่งขันช่วง Hot Lap นั้น ในจุด Pit stop นักแข่งสามารถหยุดจับเวลาและหมุนขอบตัวเรือนให้หัวศรสีเหลืองอยู่ตำแหน่งเดียวกับเข็มวินาทีกลางโครโนกราฟ สีเหลือง จากนั้นกดปุ่มรีเซ็ตและเริ่มจับเวลารอบที่สอง เมื่อจบการแข่งขันทีมแข่งจะสามารถเทียบเวลาทั้งสองรอบได้ทันที BR-X1 R.S.19 นี้ยังเลือกใช้สีที่สะท้อนถึงกลิ่นอายหน้าปัดรถแข่งของ นิโค และ แดเนียล อีกด้วย สำหรับ เบล แอนด์ รอส BR-X1 R.S.19 ผลิตจำกัดเพียง 250 เรือนเท่านั้น

อีกหนึ่งรุ่นพิเศษจากคอลเลคชั่น R.S.19 ที่ Bell & Ross และ Renault F1 Team ส่งมอบความประทับใจไว้ไม่แพ้รุ่นอื่นคือ เรือนเวลาแห่งความอัจฉริยะด้วยกลไกฟังก์ชั่นอันยอดเยี่ยมอย่าง BR-X1 Tourbillon R.S.19(บีอาร์-เอ็กซ์1ทูร์บิญอง อาร์เอส19) ที่ย่อส่วนเครื่องยนต์ F1มาไว้บนข้อมือได้อย่างไร้ที่ติ โดยใช้ชุดกลไกโครโนกราฟไขลานฟลายอิ้งทูร์บิญอง คาลิเบอร์ BR-CAL.283 ในตำแหน่ง 6 นาฬิกามีชุดจักรกลและเฟืองหนีหมุนรอบ 360 องศาในทุก 1 นาทีเพื่อชดเชยแรงโน้มถ่วงของชิ้นส่วนภายในกรงทูร์บิญอง ทำให้เกิดความบาลานซ์กับชิ้นส่วนภายใน ช่วยเพิ่มความเที่ยงตรงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เสริมด้วยฟังก์ชั่นจับเวลาที่หน้าปัดย่อยตำแหน่ง 1 – 11 ทำหน้าที่จับเวลา 60 วินาทีและจับเวลา 30 นาทีตามลำดับผ่านปุ่มกดแบบเดี่ยวหรือ Mono Pusher ระบบคอลัมน์วีล มีชิ้นส่วนกลไกทั้งหมด 282 ชิ้น ทำงานด้วยความถี่ 21,600 รอบต่อชั่วโมง สำรองพลังงานนานสูงสุด 4 วัน BR-X1 Tourbillon R.S.19 โดดเด่นด้วยตัวเรือนไทเทเนียมประกบเข้ากับเซรามิกสีดำด้านขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.0 มิลลิเมตร หน้าปัดทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีความแข็งสูงสุดระดับ 9 พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อนที่หน้าปัด ตัวเลขและเข็มทั้งหมดถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่า ทำให้ง่ายต่อการอ่านค่าเวลาในทุกสภาวะแสง
ด้วยความลิมิเต็ด BR-X1 Tourbillon R.S.19 ผลิตออกมาเพียง 20 เรือนเท่านั้น

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this