ด้วยคอนเซปต์ “เสิร์ฟตรงความสดจากฟาร์ม” โดยใช้วัตถุดิบเนื้อเกรดพรี่เมี่ยมและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากทั่วประเทศไทย รวมถึงโครงการหลวง “โคคอต ฟาร์ม โรสต์ แอนด์ ไวน์เนอรี่” แม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่กลับเลือกสรรวัตถุดิบเปี่ยมคุณภาพ ในบรรยากาศบิสโทรสไตล์ที่ให้ความสะดวกสบาย และความร่วมสมัยแบบเทมโพรารี่
ทั้งยังได้รับรางวัลจากในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง 2 ปี ด้วยรางวัลจาก ไทยแลนด์ เทธเลอร์ ปี 2559 และ ปี 2560 พร้อมการกล่าวถึงในไกด์บุ๊คดังอย่าง มิชลินไกด์และอีกมากมาย
ร้านอาหารตั้งอยู่ใจกลางย่านพร้อมพงษ์สุดหรู ซึ่งโดดเด่นและดูอบอุ่น ด้วยพื้นที่กว้างขวาง การตกแต่งที่เน้นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ขัดอย่างสวยงาม งานศิลปะจำลองจากย่านดังในฝรั่งเศส อย่างเลอาล (Les Halles) ที่ที่รวมไว้แต่ของที่คัดคุณภาพดีเยี่ยม วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งทั้งหมด ได้แก่ ถ้วยชามเซรามิก กระเบื้องและไม้ ล้วนมาจากแหล่งงานคราฟท์ท้องถิ่น ทั้งนี้ การวางตำแหน่งของครัวแบบเปิด ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของร้านและสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายในทุกพื้นที่
เชฟเจอริโก แวน เดอ วูฟ (Jeriko Van Der Wolf) หัวหน้าเชฟชาวฝรั่งเศส ผู้ซึ่งมากไปด้วยประสบการณ์และการันตีได้ด้วยรางวัลมากมาย และภายใต้การนำของเชฟที่มีชื่อเสียงอย่าง เชฟศรัณย์ ศุภกิตจานุศานต์ ศึกษาจบจากสถาบันกอร์ดองเบอ เมืองปารีส ซึ่งเขาได้ตัดสินใจที่จะมุ่งมั่นในสายงานท่องเที่ยวและงานบริการ โดยเข้าร่วมกับสถาบันด้านอาหารที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เชฟศรัณย์นับเป็นผู้นำหลักของ โคคอต ฟาร์ม โรสต์ แอนด์ ไวน์เนอรี่
ซิกเนเจอร์เมนูที่คิดค้นเพื่อเอาใจชาวมหานคร ได้แก่ เนื้อวากิวโทมาฮ่อกจากออสเตรเลีย ตามด้วย เมนูแนะนำอย่าง ครอเก็ต เอ๊กซ์ โชริโซ ไอเบอริโคะ (Croquetas X Chorizo Iberico), เป็ดย่างกรอบหมักด้วยถั่วเหลืองและน้ำผึ้ง, โคคอตทรัฟเฟิล คาเมมเบอร์ท, หอยทากฝรั่งเศส, ทาทาร์ ออ โคเตอร์, และ โคคอต ฟาร์มเมอร์ บอร์ด และยังมีเมนู-ของหวานตามสไตล์ฝรั่งเศสสุดคลาสสิค ด้วยขนมปังสไตล์ปารีส ทำจากแป้งชูว์ และขนมถั่วที่เคลือบด้วยคาราเมล ครบทุกรสความอร่อย
นอกเหนือไปจากการนำเข้าวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของร้านแล้ว ความใส่ใจในรายละเอียดที่คัดสรรไวน์วินเทจ จากแหล่งผลิตคุณภาพสูงของโลก การสร้างสรรเมนูค็อกเทลทให้เป็นดั่งงานศิลปะชั้นยอด อย่างเมนูดื่มชื่อว่าโคคอต ฟีล และ คิงแอนด์ควีนออฟการ์เด้น (Cocotte’s Fuel and King & Queen of Garden) โคคอตยังนำเสนอชีสจากถิ่นกำเนิดและกาแฟแบรนด์นำเข้าอย่าง Lavazza
ทั้งนี้ ทางร้านยังเสนอเมนูง่ายที่สามารถนำกลับไปทานได้ ด้วยการย่างเนื้อไก่ให้พอดีในเตาอบเฉพาะ อร่อยแบบพอดีคำ วากิวออฟพอร์ค (Wagyu of Pork) รวมถึงเมนูระดับตำนานอย่าง โคคอตเบอร์เกอร์ 2.0 (Cocotte Burger 2.0) ทั้งสามเมนูนี้ถูกปรุงในครัวแบบเปิด ซึ่งมั่นใจได้ว่า ตอบโจทย์ลูกค้าที่เลือกเฉพาะอาหารคุณภาพและรวดเร็ว
“เราเข้าใจในชีวิตคนเมืองที่เน้นความรวดเร็ว นั่นคือเหตุที่เราใช้เวลาของเราเพื่อนำเสนอจานคุณภาพ และปรุงอย่างพิถีพิถัน” กล่าวโดย ผู้ร่วมก่อตั้ง มร. แมกเซนต์ เลอ บาร์ธ
ร้านอาหาร โคคอต ฟาร์ม โรสต์ แอนด์ ไวน์เนอรี่ ตั้งอยู่บริเวณชั้น G บนตึก 39 Boulevard บนถนนสุขุมวิท ซอย 39 สำหรับช่วงกลางวัน เปิด 11:00 – 15:00 น. ช่วงค่ำ เปิดเวลา 18:00 – 24:00 น. บริหารงานโดย Hospitality Management Asia ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริการประเภทร้านอาหารหลากหลายสาขาทั่วประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 092-664-6777 หรือ Facebook: @cocottebkk