หยุดเลินเล่อเสียที! ลืมเด็กในรถครึ่งชั่วโมงก็หมดลม 3 ข้อท่องไว้ไม่ซ้ำรอย

Published on

เมื่อได้ทราบข่าวความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเด็กที่ถูกลืมหรือทิ้งไว้ในรถ ทุกครั้งก็มีการตั้งคำถามว่า เมื่อไหร่เหตุการณ์เหล่านี้  จะหมดสิ้นไปเสียที ทั้งๆ ที่มีกรณีที่สร้างความสลดใจให้กับทุกคนมามากแล้ว แล้วเหตุใดผู้ดูแลหรือคนขับรถจึงยังประมาทเลินเล่อ  ขาดความระมัดระวัง ละเลยในสิ่งที่ควรกระทำ จนเกิดความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า

จากการเฝ้าระวังข่าวจากสื่อ ของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ในช่วง 7 ปี (พ.ศ.2555-2561) พบว่า มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืม/ทิ้งไว้ในรถ จำนวน 26 เหตุการณ์ เด็กเสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และช่วยไว้ได้ทัน 17 ราย ทั้งหมดอายุ 3-7 ปี โดยผู้เสียชีวิตถูกลืม/ทิ้งไว้ในรถรับส่งนักเรียน 7 ราย และรถยนต์ส่วนบุคคล 2 ราย ทั้งหมดถูกลืม/ทิ้งไว้นานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนเด็กที่ช่วยไว้ได้ทันทั้งหมดผู้ปกครองไม่ได้ลืม แต่ตั้งใจทิ้งเด็กไว้ในรถเอง เพราะคิดว่าลงไปทำธุระไม่นาน (โดยติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทิ้งไว้)  นอกจากนี้ ยังพบว่าในจำนวนที่เกิดเหตุทั้งหมด เกิดในภาคกลางมากที่สุดถึง 12 เหตุการณ์ รองลงมาคือภาคใต้ 6 เหตุการณ์ และในขณะเกิดเหตุเด็กอยู่กับผู้ปกครอง 18 เหตุการณ์ คนขับรถ 6 เหตุการณ์ และครู 2 เหตุการณ์

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้โรงเรียนต่างๆ อยู่ระหว่างเปิดภาคเรียน  ซึ่งผู้ปกครองและครูอาจารย์ต้องดูแลสุขภาพของเด็กและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะการลืมเด็กไว้ในรถ ทั้งรถรับส่งเด็กนักเรียน และรถของผู้ปกครองเอง ที่หากเกิดเหตุแล้วอาจเสี่ยงทำให้เด็กเสียชีวิตได้

จากข้อมูลการทดสอบกรณีเด็กติดในรถ (จอดรถกลางแดด) ของศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าเด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาทีอุณหภูมิจะสูงขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้  10 นาทีร่างกายจะยิ่งแย่ และ 30 นาทีเด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวมตามมา จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้

ในโอกาสนี้ ขอแนะนำผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับส่งนักเรียน และครูอาจารย์  ให้เตือนตนเองใน 3 ข้อควรจำเพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ ดังนี้ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” ได้แก่ นับ : นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง  ตรวจตรา : ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ  อย่าประมาท : อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม  ทั้งนี้ หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถเพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็ว   ถ้าไม่พบเจ้าของรถขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Latest articles

เชลล์ครองแชมป์อันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 19

ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นเชลล์ยังครองตำแหน่งแชมป์อันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูประดับโลกเป็นปีที่ 19 ติดต่อกัน จากรายงานฉบับที่ 23 ของ Kline & Company เรื่อง Global Lubricants:...

ภัยเงียบ! ปอดอักเสบติดท็อป 3 คร่าชีวิตคนไทย

เนื่องในวันปอดอักเสบสากล ภายใต้แคมเปญ “เด็กไทยต้องปลอดภัย จากโรคร้ายที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน” พร้อมเดินหน้าผลักดันการใช้วัคซีน PCV ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค อ้างอิงข้อมูลทางวิชาการและประเมินความเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบจากการป่วยหนัก และทุพพลภาพถาวรจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัสในเด็กเล็ก

เปิดฉาก TMOX, OGET และ Powerex Asia 2025 โชว์ศักยภาพเมืองไทยยุคเปลี่ยนผ่านพลังงาน

เปิดฉาก 3 งานใหญ่ด้านพลังงาน–ออฟชอร์–ไฟฟ้า หนุนไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอาเซียน เชื่อมโยงน้ำมันและก๊าซ การเดินเรือและออฟชอร์ และพลังงานไฟฟ้าไว้ภายใต้หลังคาเดียวกัน พร้อมจับกระแสอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านแบบเต็มรูปแบบ

ส่องพื้นที่กิจกรรมกลางกรุง พื้นที่ไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

เพราะปัจจุบันกรุงเทพฯ คือเมืองที่กำลังปรับตัวจาก “พื้นที่ปิด” สู่ “พื้นที่เปิด” ที่ต้องการให้ผู้คนมีพื้นที่พักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ และนี่คือเหตุผลที่พื้นที่กิจกรรมกลางกรุงกำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองยุคใหม่

More like this