ททท. ร่วมเป็นสักขีพยานในกิจกรรม “Green Route” เที่ยวบินปฐมฤกษ์การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เส้นทางกรุงเทพฯ – ฟูก๊วก – กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นโดย สายการบิน VietJet Airline ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพื่อร่วมกันส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมการบิน และสนับสนุนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่มุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการเดินทางอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทยสู่แนวทาง “Green Travel” และ “Sustainable Tourism”
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การมุ่งสู่ความยั่งยืน” คือทั้งหัวใจและเป้าหมายสูงสุดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ ททท. ยึดมั่น และอุตสาหกรรมการบินในฐานะหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของภาคการท่องเที่ยวมีบทบาทในการสนับสนุนเส้นทางสู่ความยั่งยืนร่วมกัน ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทยสู่แนวทาง “Green Travel” และ “Sustainable Tourism” อย่างเป็นรูปธรรม
นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ผ่านการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคการบิน ตลอดจนสนับสนุนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่มุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนด้วย
สำหรับกิจกรรม “Green Route” เที่ยวบินปฐมฤกษ์การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เส้นทางกรุงเทพฯ – ฟูก๊วก – กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นโดย สายการบิน VietJet Airline ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี H.E. Mr. Pham Viet Hung เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม พลอากาศเอก มนัท ชวนประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมต้อนรับเที่ยวบินดังกล่าว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ททท. ยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ควบคู่กับการสร้างคุณค่าและยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพ พร้อมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว ผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อม และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
อาทิ โครงการ Thailand Tourism Awards เพื่อยกย่องผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานที่เป็นเลิศ และส่งเสริมความยั่งยืน, โครงการ Carbon Footprint Hotels (CF-Hotels) ที่มุ่งคำนวณและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงแรม, โครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) เพื่อผลักดันผู้ประกอบการให้เข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน รวมถึง โครงการ Krabi Prototype ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบของการท่องเที่ยวสีเขียวที่ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน
นอกจากนั้น ททท. ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวในภูมิภาคเลือกใช้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ส่งเสริมการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามนับเป็นหนึ่งในตลาดระยะใกล้ที่มีศักยภาพและมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย จากการสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเวียดนาม ปี 2567 พบว่า ชาวเวียดนามมีความนิยมและความผูกพันกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเดินทางซ้ำเฉลี่ยปีละ 3–4 ครั้ง
สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพการท่องเที่ยวไทย โดยนิยมเดินทางเพื่อพักผ่อน ทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหาร วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ นวดและสปา และกิจกรรมชายหาด โดยเฉพาะในเมืองหลักอย่าง กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต ที่ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยม
ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวเวียดนามที่พร้อมจะใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ที่คุ้มค่าเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเริ่มมองหาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น กาญจนบุรี อยุธยา เขาใหญ่ พังงา และกระบี่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่าง จึงเป็นโอกาสดีที่จะต่อยอดส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องผ่านการส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสายการบิน และ OTAs และ
การส่งเสริมการขายนักท่องเที่ยวกลุ่ม Incentive ภายใต้โครงการ Thailand Summer Blast เพื่อเร่งจำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามเข้าสู่ประเทศไทย รวมไปถึงการจัดทำเส้นทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการ Krabi Prototype โดยนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจังหวัดกระบี่ จำนวน 4 เส้นทาง เพื่อผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพด้านความยั่งยืน และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
โดยนำเสนอผู้ประกอบการโรงแรม และบริษัทนำเที่ยว ภายใต้โครงการ CF-Hotels และ Thailand Tourism Awards
ทั้งนี้ ททท. คาดว่าในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวเวียดนามเข้าสู่ประเทศไทยมากกว่า 600,000 คน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ท้องถิ่น และเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยในฐานะ “จุดหมายปลายทางแห่งคุณค่า” สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วอาเซียน

