“ทีทีบี” สานต่อเส้นทาง B+ESG ขับเคลื่อนสู่ Sustainable Banking

Published on

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศเดินหน้าสู่การเป็น ธนาคารเพื่อความยั่งยืน มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน และเติบโตไปด้วยกันแบบทั่วถึง (Inclusive Growth) ภายใต้ปรัชญา Make REAL Change ผ่านการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด B+ESG ที่ผสานธุรกิจและความยั่งยืนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เดินหน้าขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มองค์กรรอบด้าน โฟกัสบนลูกค้า 5 กลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมคนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีมุ่งดำเนินธุรกิจตามแนวคิด B+ESG ที่ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยเน้นสร้างการเติบโตแบบทั่วถึง เพื่อให้ทุกคนที่มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) มีโอกาสเติบโตไปด้วยกัน ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจที่ดีกว่าในระยะยาว และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็น “ธนาคารเพื่อความยั่งยืน” (Sustainable Banking) โดยตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของทีทีบีได้สร้างชีวิตทางการเงินและแก้ปัญหาให้กับผู้คนอย่างแท้จริง

ทีทีบีให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีพันธกิจมุ่งยกระดับชีวิตทางการเงินของไทยให้ดีขึ้น ผ่านโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล เช่น บัญชี ttb all free ที่มอบสิทธิประโยชน์ “ประกันอุบัติเหตุ ฟรี” ช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้ลูกค้ากว่า 2.2 ล้านคน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไปกว่า 222 ล้านบาท และยังมีบริการรวบหนี้ (Debt Consolidation) ที่ทำให้ลูกค้าปลดหนี้ได้ไวขึ้น

ซึ่งในปี 2567 ช่วยลูกค้ารวบหนี้ไปแล้วกว่า 37,000 ราย แบ่งเบาภาระดอกเบี้ยจากสินเชื่อรวบหนี้ เป็นมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยลูกค้าธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่โมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนผ่านแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถมือสอง Roddonjai เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าเต็นท์รถอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีรถที่พร้อมขายทั้งหมด 77,000 คัน จากดีลเลอร์และพันธมิตรกว่า 3,000รายทั่วประเทศ และมียอดขายรถมากกว่า 40% ของจำนวนรถที่นำเสนอขายทั้งหมด

ปัจจุบันปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรงขึ้น ทีทีบีมุ่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net-zero Commitment เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ผ่านกลยุทธ์ Climate Strategy ที่ครอบคลุมทั้งการดำเนินงานของธนาคาร พันธมิตร และลูกค้า พร้อมสนับสนุนลูกค้าธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่โมเดลที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยโซลูชันที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Transition Finance)

โดยธนาคารปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนไปแล้วกว่า 54,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อสีเขียวและสีฟ้า วงเงิน 49,000 ล้านบาท และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-linked Loan) วงเงิน 5,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังมีสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์ (Floor Plan Financing) สำหรับดีลเลอร์และผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ EV รวมถึงการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

เรื่องความยั่งยืนด้านสังคม (Social Sustainability) เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทีทีบีให้ความสำคัญ โดยมุ่งเน้นให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐช่วยลดภาระหนี้ของประชาชน อาทิ โครงการคุณสู้เราช่วย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และเอสเอ็มอีกลุ่มเปราะบาง และโปรแกรม “โค้ชปลดหนี้” ของธนาคารที่กำลังขยายไปสู่บริษัทพันธมิตรที่ใช้บัญชีเงินเดือนทีทีบี น

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมและสนับสนุนความรู้ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารให้ความรู้และเคล็ดลับการเงินที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ผ่านบทความ fintips, finbiz มากกว่า 600 บทความบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งได้รับความสนใจและมีการเข้ามาอ่านมากถึง 1.6 ล้านครั้ง รวมถึงมีหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb อีกทั้งสร้างแพลตฟอร์มปันบุญสำหรับมูลนิธิ โรงพยาบาล องค์กรสาธารณะ และผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าถึงการบริจาคได้

ทีทีบีให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการด้วยหลักบรรษัทภิบาลและจริยธรรมทางธุรกิจ (Corporate Governance & Business Ethics) ยึดมั่นในการให้บริการที่เป็นธรรมและมีจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการครองอันดับหนึ่งธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6ในการประเมินนโยบายด้าน ESG ของภาคธนาคารไทย ในการประเมินโดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) พร้อมเสริมสร้างความมั่นคงด้านไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการดิจิทัล ควบคู่กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูล (Data Privacy) ตามมาตรฐานและข้อกำหนดของกฎหมาย

ท่ามกลางความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทีทีบีมุ่งทรานส์ฟอร์มองค์กรแบบรอบด้านเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้ตามเป้าหมาย ยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล โดยโฟกัสสิ่งที่ชำนาญผ่านลูกค้า 5 กลุ่ม บน Ecosystem Playได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน ลูกค้า wealth และลูกค้าเอสเอ็มอี ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ บน ttb touch เช่น My Credit เพื่อช่วยลูกค้าประเมินวงเงินสินเชื่อได้ทันที My Car จัดการเรื่องรถง่ายครบ จบในที่เดียว My Home ผู้ช่วยจัดการเรื่องบ้านแบบครบวงจร My Work ระบบบริหารงานบุคคลตอบโจทย์มืออาชีพ My Tax ช่วยพนักงานเงินเดือนจัดการเรื่องภาษีให้ง่ายขึ้น และธนาคารยังเดินหน้ายกระดับสาขาให้เป็น Digital Branch เพื่อยกระดับความสะดวกในการทำธุรกรรม พร้อมทั้งทำให้พนักงานในสาขาสามารถมีเวลามากขึ้นในการให้คำแนะนำและบริการลูกค้า

จะเห็นได้ว่าการดำเนินธุรกิจตามกรอบ B+ESG ทีทีบีได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกคน ด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่งระดับเงินทุนอยู่ที่ 19.3% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด โดยผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในปี 2567 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.1หมื่นล้านบาท สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น สะท้อนได้จากอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 60% และพนักงานมีโอกาสเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (EJIP) ช่วยสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการของพนักงาน

Latest articles

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

HoReCa Trend Talk ชี้เศรษฐกิจเปราะบาง แต่ธุรกิจอาหารยังเติบโต

“makro HoReCa 2025” เปิดเวที “HoReCa Trend Talk”  “ธนิศร์ เจียรวนนท์” ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่ง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)  ถ่ายทอดมุมมองเชิงลึกธุรกิจอาหารปี 2025 ภายใต้แนวคิด “Food Infinity – ธุรกิจอาหารโตไม่สิ้นสุด”

มูลนิธิเอสซีจี จุดประกาย ‘สระบุรีกินได้’ โมเดลต้นแบบ Learn to Earn Sandbox

มูลนิธิเอสซีจี จับมือจังหวัดสระบุรี สร้าง ‘สระบุรีกินได้’ โมเดลต้นแบบ Learn to Earn Sandbox ขยายผลพัฒนาคนสู่การมีอาชีพยั่งยืน

 Q3 ‘68 ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย กรุงเทพฯ – ปริมณฑล ต่ำกว่าค่ากลาง รอฟื้นอีก 6 เดือน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2568” สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจในภาวะปัจจุบัน

More like this