หน้าแรกRelease hubหัวเว่ยต่อยอดโครงการดิจิทัลบัส ร่วมยกระดับความเท่าเทียมด้านดิจิทัลในพื้นที่ห่างไกล

หัวเว่ยต่อยอดโครงการดิจิทัลบัส ร่วมยกระดับความเท่าเทียมด้านดิจิทัลในพื้นที่ห่างไกล

Published on

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อโครงการดิจิทัลบัส จัดกิจกรรมแรกของปี 2567 ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนค็อกนิสไทยฯ จังหวัดสกลนคร ตามเป้าหมายด้านการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านดิจิทัลในประเทศไทย ผ่านการฝึกอบรมให้แก่บุคลากรให้ได้อีก 2,000 คน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 6 จังหวัดทั่วประเทศไทยในปีนี้

โครงการดิจิทัลบัสครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือระหว่างหัวเว่ย ประเทศไทย กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนค็อกนิสไทยฯ จังหวัดสกลนคร ซึ่งถือว่าศูนย์การศึกษาในพื้นที่ห่างไกล รองรับนักเรียนจาก 9 พื้นที่เขตหมู่บ้าน ทั้งหมด 262 คน ตั้งแต่ระดับการศึกษาชั้นอนุบาล 1 จนถึงประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 โดยการจัดโครงการดิจิทัลบัสร่วมกับโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ครั้งนี้ได้มีการปรับเนื้อหาหลักสูตรให้มุ่งเน้นเรื่องการน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการนำเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล

หัวเว่ยได้จัดโครงการดิจิทัลบัสผ่านการร่วมมือกับโรงเรียนต่าง ๆ ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 เพื่อนำความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาให้เยาวชนได้ประยุกต์ใช้กับความรู้จากสถาบันการศึกษา ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และวัฒนธรรมในพื้นที่ห่างไกล จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เราพบว่าประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัลยังเป็นปัญหาที่พบได้ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงพื้นที่ห่างไกลในไทยซึ่งมีการพัฒนาและขยายตัวทางเทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ ทำให้เกิดช่องว่างในการเข้าถึงองค์ความรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล

ทั้งนี้ หัวเว่ยตั้งเป้าหมายฝึกอบรมนักเรียนและบุคลากรในประเทศไทยจำนวน 2,000 คน ผ่านโครงการดิจิทัลบัส ในปี 2567 ครอบคลุมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กระบี่ กาญจนบุรี ชัยภูมิ นครนายก และระยอง โดยโครงการในจังหวัดนครนายกและระยองเป็นความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยกับองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO และเป็นการต่อยอดจากโครงการที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2566 โดยในปีนี้ หัวเว่ยยังได้ปรับหลักสูตรดิจิทัลบัสให้เข้ากับโรงเรียนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น เช่น การสร้างความตระหนักรู้เรื่องการนำเทคโนโลยีประยุกต์ใช้ภาคการเกษตร การนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเกษตรกรรมในครัวเรือนให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการมอบความรู้เรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนในการป้องกันภัยที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์

ดร.อภิสิทธิ์ พึ่งพร ผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้กล่าวถึงโครงการดิจิทัลบัสของหัวเว่ยว่า “ผมต้องขอขอบคุณหัวเว่ยที่ให้การสนับสนุนเยาวชนและบุคลากรในประเทศไทยด้วยการส่งมอบองค์ความรู้ดิจิทัลผ่านโครงการดิจิทัลบัสมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้ยังเสริมด้วยกิจกรรมสันทนาการให้แก่เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 การมอบอาหารกลางวัน ร่วมปลูกต้นไม้ ปรับแต่งทัศนียภาพสถานศึกษา เป็นต้น โครงการดิจิทัลบัสถือเป็นโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดี รวมทั้งช่วยสร้างโอกาสและสร้างความฝันให้กับเด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย”

ตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โครงการดิจิทัลบัสของหัวเว่ยได้ให้การฝึกอบรมองค์ความรู้ด้านดิจิทัลให้แก่นักเรียนช่วงชั้นประถมศึกษาตอนปลายถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัด แพทย์อาสา และแรงงานท้องถิ่นรวมแล้วกว่า 4,500 คน ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี สงขลา พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ นครราชสีมา พิจิตร พะเยา กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร นครศรีธรรมราช และนครนายก

นอกจากนี้หัวเว่ยยังมีโครงการให้การสนับสนุนด้านการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ร่วมมือกับโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนโครงการส่วนพระองค์ฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนอุปกรณ์หน้าจออัจฉริยะ Ideahub จำนวน 24 เครื่องให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สุขศาลาพระราชทานทั่วประเทศไทย ตลอดจนโครงการนำร่อง Huawei Smart PV solution สนับสนุนโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์กักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหม่องกั๊วะ จังหวัดตาก เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงไฟฟ้าและการเรียนการสอนผ่านห้องเรียนดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยโครงการดิจิทัลบัสถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ “เติบโตพร้อมกับประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย” ของหัวเว่ย ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมทางดิจิทัลผ่านภารกิจของหัวเว่ยเรื่อง ‘นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง’ (Lead Everyone Forward, Leave No One Behind)

Latest articles

แมคโดนัลด์ เปิดตัวเมนูมื้อเช้าใหม่ แคมเปญ “Bacon Festival”

แมคโดนัลด์ ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า และไม่หยุดที่จะพัฒนาเมนูใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์อาหารเช้าที่ดีและอร่อยสำหรับคนไทย ยกระดับความอร่อยอาหารเช้าที่ทุกคนชื่นชอบ ให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยเมนูอาหารเช้าใหม่ ที่ทุกคนต้องลอง! “Bacon Festival”

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ฉลองครบ 1,000 สาขา มอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์การเรียนให้แก่ 6 องค์กร

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณอานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด พร้อมตัวแทนพนักงาน ปันความดี ฉลองครบ 1,000 สาขา มอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์การเรียน ให้แก่ 6 องค์กร ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย สานต่อเจตนารมณ์แห่งการแบ่งปัน ภายใต้โครงการ MR. D.I.Y. Cares และร่วมเฉลิมฉลองการเปิดสาขาครบ 1,000 สาขาทั่ว 77 จังหวัดในประเทศไทย

โรยัล คานิน ‘Healthy District อนาคตของการดูแลเพื่อนรักสี่ขา

โรยัล คานิน (Royal Canin) ผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมวและน้องหมาระดับโลก เชิญชวนคนรักน้องแมวน้องหมา เข้าร่วมงาน ‘Healthy District แฮปปี้ทุกพันธุ์ เฮลท์ตี้ทุกวัย’ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 22 - 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. พร้อมพบกับกิจกรรมที่จะพาทุกคนก้าวสู่อนาคตของการดูแลสัตว์เลี้ยง ผ่านโซนให้ความรู้และความสนุกรูปแบบใหม่ รวมถึงโซนอินเทอร์แรคทีฟที่เต็มไปด้วยความน่ารักของเพื่อนรักสี่ขา พร้อมทัพสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพน้องแมวน้องหมามากมายภายในงาน

“ยอมตายไม่ยอมแก่” เสียงสะท้อนของผู้หญิงสูงวัยที่ใช้ชีวิตอย่างมีพลัง

แนวคิด “ยอมตายไม่ยอมแก่” ไม่ใช่แค่การแต่งตัว หรือไลฟ์สไตล์สุดจี๊ด แต่มันคือการกล้าประกาศว่า “เรายังมีชีวิต” และเราจะใช้ชีวิตในแบบที่เราเลือก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ นี่คือคำประกาศอิสรภาพของผู้หญิงรุ่นใหญ่ ที่ไม่ได้ต้องการเอาชนะวัย แต่เลือกจะรักตัวเองและโลกใบนี้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่จำเป็นต้องอ่อนเยาว์ตลอดไป "แต่เราเลือกจะสดใสได้ทุกวัน” มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งลุกขึ้นมาท้าทายภาพจำนั้นด้วยคำประกาศอันทรงพลังว่า “ยอมตายไม่ยอมแก่”...

More like this