ตลาดยาแนวโน้มรุ่ง “ไบโอฟาร์ม” จ่อคิวผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดโลก

Published on

จากจำนวนประชากรโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงช่องทางการรักษาที่ดีขึ้นภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของประเทศไทยที่มีแนวโน้มขยายตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่ให้สิทธิประโยชน์กับอุตสาหกรรมยาเพื่อช่วยลดภาระต้นทุนของผู้ผลิตยา ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยาในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เหล่านี้คือปัจจัยที่ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่ 45 ในปีหน้า ได้ออกมาประกาศแผนการเติบโตทางธุรกิจ จากการขยายช่องทางการจำหน่าย และการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาและสมุนไพร เพื่อขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

นายวีระพัฒน์ ถกลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังปี 2561 ซึ่งเป็นการนับถอยหลังเพื่อฉลอง  ปีที่ 45 ของไบโอฟาร์มในปี 2562 ว่า ไบโอฟาร์มจะมีการเคลื่อนไหวสำคัญหลายด้าน โดยจะมี การขยายตลาด Modern Trade และ Convenience Store รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตผ่านทาง Biopharmshop.com และ Lazada เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค โดยมียาลดกรดในกระเพาะอาหาร Belcid Forte เป็นตัวชูโรง

ไบโอฟาร์มจะมีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียม Calvin Plus รวมทั้งจะเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ โดยคาดว่าจะมีการนำบรรจุภัณฑ์ใหม่มาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบทุกสินค้าในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 45 ปีของไบโอฟาร์ม

นอกจากนี้  ไบโอฟาร์มจะ ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ยาสมุนไพรในโรงพยาบาลและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายที่เป็นจุดแข็งของไบโอฟาร์มมาตลอดกว่า 40 ปี และไบโอฟาร์มยังได้เตรียม เข้าร่วมงานนิทรรศการแสดงสินค้าและวัตถุดิบทางยาในระดับนานาชาติ (CPhI 2019) ที่จะจัดขึ้นต้นปีหน้าที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะแสดงศักยภาพและมาตรฐานของอุตสาหกรรมยาสู่สายตาชาวโลก

สำหรับตลาดต่างประเทศ มีแผนที่จะขยายไปสู่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อาทิ เมียนมาร์  เวียดนาม และสปป.ลาว ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มาแล้ว นอกจากนี้ ไบโอฟาร์มยังเตรียมขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพิ่มเติมอีก 1-2 ประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของไบโอฟาร์มนั้นมีคุณภาพสูงพอที่จะเข้าไปเปิดตลาดได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

“ผลสำเร็จของการทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรก และแผนงานที่แข็งแกร่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้คาดว่าในปีนี้ ไบโอฟาร์มจะมีการเติบโตพอสมควร อย่างไรก็ตามเราไม่ได้หวังการเติบโตแบบก้าวกระโดดมากนัก แต่สิ่งที่เราจะเน้นในการดำเนินธุรกิจในปีที่ 45 คือ การส่งเสริมให้เกิดการกระจายของยาคุณภาพสูงในสังคมมากขึ้น รวมทั้งการสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และกรอบความคิดเวชศาสตร์ครอบครัว เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงยาคุณภาพสูงทุกชุมชนและครัวเรือน ตลอดจนการผลักดันผลิตภัณฑ์ยาและสมุนไพรไทยสู่ตลาด Mass และตลาดโลก โดยเราจะทำงานภายใต้ 3 แนวทางหลัก นั่นคือ การเพิ่มนวัตกรรม การประยุกต์ใช้ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งทั้ง 3 แนวทางจะถูกขับเคลื่อนอย่างถูกต้องและมีธรรมาภิบาล เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของประเทศไทยเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดสากล” นายวีระพัฒน์ กล่าว

นอกจากการขยายธุรกิจแล้ว ไบโอฟาร์มยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมควบคู่กัน เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาคุณภาพสูงทุกชุมชนและครัวเรือน ผ่านโครงการ 45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน โดยจะมีการมอบตู้ยาและเวชภัณฑ์ให้แก่หน่วยพิทักษ์และรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้านผืนป่าตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการสานต่อความสำเร็จของโครงการตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชนที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายที่จะมอบตู้ยาให้ครบ 450 ตู้ในปี 2562 เพื่อฉลองครบรอบ 45 ปีไบโอฟาร์ม

“สำหรับครึ่งปีหลังของปีนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมยา รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรของไทย น่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีก โดยมีปัจจัยหนุนเช่นเดียวกับครึ่งปีแรก ประกอบกับความชัดเจนในการใช้ประโยชน์สำหรับยาที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยสำหรับการจัดซื้อยาภาครัฐ รวมทั้งการเข้าถึงสื่อทางเลือกและอินเทอร์เน็ตของประชากรสูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ” นายวีระพัฒน์ กล่าวในตอนท้าย

 

 

Latest articles

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

‘ดีพร้อม’ ปิดฉาก มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย ย้ำพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อมประกาศความสำเร็จการจัดงาน ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ปิดฉากอย่างงดงาม พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้านอาหารและแฟชั่น ตอกย้ำศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทยสู่ตลาดโลก

More like this