รัฐบาลเร่งรัดกำจัดโรคหัดตามพันธะสัญญานานาชาติ  

Published on

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบให้เร่งรัดกำจัดโรคหัดตามพันธะสัญญานานาชาติ  ตั้งเป้าการกำจัดโรคหัดให้สำเร็จภายในปี 2563  เน้นรณรงค์ให้วัคซีนกลุ่มเสี่ยงในปี 2562  โดยใช้ 5 มาตรการสำคัญ  พร้อมเผยรัฐบาลไทย หนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการกำจัดโรคหัด เพื่อให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ 

วันนี้ (3 สิงหาคม 2561) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อวานนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลได้มีการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยมีพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งในที่ประชุมได้มีการเห็นชอบให้เร่งรัดการกำจัดโรคหัดตามพันธะสัญญานานาชาติ ตั้งเป้าการกำจัดโรคหัดให้สำเร็จภายในปี 2563 เน้นรณรงค์ให้วัคซีนกลุ่มเสี่ยงในปี 2562

จากการประชุมสมัชชาอนามัยโลก เมื่อปี 2553  นานาประเทศได้มีข้อตกลงร่วมกันในการกำจัดโรคหัด มุ่งเป้าลดผู้ป่วยโรคหัดให้ไม่เกิน 1 ต่อประชากรล้านคน และไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศ ภายในปี 2563 ประเทศไทย ได้ดำเนินการเพื่อมุ่งเน้นการรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนหัด จัดตั้งเครือข่ายห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจยืนยันโรค เร่งรัดการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพ และรณรงค์ให้วัคซีนหัดในกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา  จากนั้นพบผู้ป่วยโรคหัดค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง  แต่ยังคงพบผู้ป่วยโรคหัดในประเทศไทยมากขึ้นในปี 2559-2560 จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทย สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการกำจัดโรคหัด เพื่อทัดเทียมกับนานาประเทศ  กระทรวงสาธารณสุข จึงเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทย โดยใช้ 5 มาตรการหลัก คือ 1) เพิ่มและรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีน  2) เร่งรัดการเฝ้าระวังโรคและการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ  3) เสริมสร้างความเข้มแข็งของการสอบสวนและควบคุมโรค  4) ตอบโต้การระบาดอย่างเต็มที่  และ 5) รณรงค์ให้วัคซีนโรคหัดในกลุ่มเสี่ยง และในปี 2562-2563 มุ่งหมายรณรงค์ให้วัคซีนโรคหัดในเด็กอายุ 1-12 ปี ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) ไม่ครบตามเกณฑ์ และให้วัคซีนแก่ผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงซึ่งอยู่รวมกันเป็นหมู่มาก ได้แก่ เรือนจำ ค่ายทหาร โรงงาน  สถานประกอบการท่องเที่ยว แรงงานต่างชาติ และบุคลากรทางการแพทย์

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการออกระเบียบให้นักเรียนได้รับวัคซีนก่อนเข้าเรียน ผลักดันการใช้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพคนต่างด้าวเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กต่างด้าว ซึ่งจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ ผลักดันให้แรงงานต่างด้าวได้รับวัคซีนหัดก่อนขึ้นทะเบียนแรงงาน รวมถึงให้บุคลากรสาธารณสุขได้รับวัคซีนหัดก่อนเข้าทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนชาวไทยปลอดภัยจากโรคหัดในอนาคตอันใกล้นี้  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this