แอร์บัสประกาศจัดตั้ง Airbus Tech Hub แห่งใหม่ในประเทศเกาหลีใต้ โดยตั้งอยู่ในเมืองแทจอน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของประเทศ ศูนย์แห่งใหม่นี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการวิจัยและนวัตกรรมแบบความร่วมมือโดยเฉพาะ ยิ่งตอกย้ำบทบาทของเกาหลีใต้ในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ของแอร์บัส
Airbus Tech Hub จะมุ่งเน้นงานวิจัยหลัก 3 ด้าน โดยต่อยอดจากจุดแข็งด้านอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต วัสดุคอมโพสิตน้ำหนักเบาขั้นสูง และเทคโนโลยีกลาโหมและอวกาศยุคใหม่
การจัดตั้ง Airbus Tech Hub ในเกาหลีใต้เกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม พลังงาน และทรัพยากรของเกาหลีใต้ (Ministry of Trade, Industry and Resources: MOTIR) รวมถึงรัฐบาลมหานครแทจอน
มาร์ก เบนทอลล์ (Mark Bentall) หัวหน้าโปรแกรมวิจัยและเทคโนโลยี (Head of R&T Programme) ของแอร์บัส กล่าวว่า “หลังจากความร่วมมือทางอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จยาวนานกว่า 50 ปีระหว่างแอร์บัสและเกาหลี การเปิดตัว Airbus Tech Hub ในเมืองแทจอนครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนของความมุ่งมั่นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แอร์บัสจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยของเกาหลีได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานแห่งอนาคต และยกระดับบทบาทของเกาหลีในฐานะพันธมิตรระยะยาวที่เชื่อถือได้
แทจอนเป็นศูนย์รวมสถาบันวิจัยระดับโลกและบุคลากรมืออาชีพด้านวิจัย จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด เมืองนี้มีความลงตัวระหว่างศักยภาพทางวิชาการและความมุ่งมั่นด้านอุตสาหกรรม ทำให้เป็นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน ที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินไปข้างหน้า”
เพื่อผลักดันภารกิจของ Tech Hub ให้เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว แอร์บัสได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) จำนวน 3 ฉบับในพิธีเปิดงานครั้งนี้
MoU ฉบับแรก ซึ่งลงนามร่วมกับ MOTIR จัดตั้งกรอบความร่วมมือที่จะเอื้อให้แอร์บัสสามารถเริ่มต้นโครงการวิจัยและนวัตกรรมภายในระบบนิเวศเทคโนโลยีของเมืองแทจอนได้อย่างรวดเร็ว
MoU ฉบับที่สอง ซึ่งลงนามกับนครแทจอน ระบุถึงความร่วมมือในการสนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินโครงการวิจัยและนวัตกรรมของแอร์บัสทั่วทั้งภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีของเมือง
MoU ฉบับที่สาม กับสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลี (KITA) มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนวัตกรรมแบบเปิดของ KITA เพื่อสรรหาและเชื่อมต่อกับพันธมิตรรายใหม่ที่สอดคล้องกับสาขาเทคโนโลยีที่แอร์บัสให้ความสำคัญ
ในบรรดาโครงการที่เปิดเผยในงานเปิดตัว Airbus Tech Hub นั้น แอร์บัสจะร่วมมือกับ LIG Nex1 ในการพัฒนาเทคโนโลยีเสาอากาศชิปสำหรับการส่งและรับสัญญาณสื่อสาร ขณะเดียวกัน แอร์บัสยังร่วมงานกับ EMCoretech เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการกรองสัญญาณเชิงรุก (active filtering) ที่จำเป็นต่อการใช้งานด้านระบบไฟฟ้า เพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า
ความร่วมมือของแอร์บัสกับเกาหลีใต้เริ่มต้นกว่า 50 ปีก่อน ตั้งแต่ปี 2517 เมื่อ Korean Air สั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้าง A300B4 รุ่นดั้งเดิมของแอร์บัส หลังจากนั้น เกาหลีใต้ได้กลายเป็นทั้งฐานลูกค้าสำคัญและพันธมิตรหลักในธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ กลาโหม อวกาศ และเฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัส
ความร่วมมือระหว่างแอร์บัสกับเกาหลีใต้มีมายาวนานกว่า 50 ปี ย้อนกลับไปในปี 2517 เมื่อโคเรียนแอร์ (Korean Air) สั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่น เอ300บี4 (A300B4) ซึ่งเป็นรุ่นดั้งเดิมของแอร์บัส นับแต่นั้นเป็นต้นมา เกาหลีใต้ได้กลายเป็นฐานลูกค้าสำคัญและพันธมิตรหลักของแอร์บัสในหลากหลายสายผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านเครื่องบินพาณิชย์ อากาศยานป้องกันประเทศ อวกาศ และเฮลิคอปเตอร์
ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของแอร์บัสในเกาหลีใต้มีรากฐานมาจากความสัมพันธ์ระยะยาวกับซัพพลายเออร์ระดับชั้นหนึ่ง เช่น โคเรีย แอโรสเปซ อินดัสทรี (Korea Aerospace Industries: KAI) และ โคเรียน แอร์ แอโรสเปซ ดิวิชัน (Korean Air Aerospace Division: KAL-ASD) ซึ่งรับหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนสำคัญสำหรับโครงการเครื่องบินพาณิชย์ทั่วโลกของแอร์บัส ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างปีก ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน และชิ้นส่วนคอมโพสิตสำหรับเครื่องบินตระกูล เอ320 (A320) เอ330 (A330) และ เอ350 (A350)
นอกจากนี้ ยังมีเอสเอ็มอีของเกาหลีจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทาน แอร์บัสจัดซื้อชิ้นส่วนจากเกาหลีซึ่งช่วยสนับสนุนการจ้างงานด้านทักษะขั้นสูงราว 6,000 ตำแหน่ง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
Tech Hub แห่งใหม่นี้ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายด้านการวิจัยของแอร์บัส โดยสอดคล้องกับการเปิดตัวบริษัทในเครือที่แอร์บัสถือหุ้นทั้งหมด ได้แก่ CTC – Composite Technology Centre ในเมืองปูซาน ซึ่งมีภารกิจร่วมมือกับ Busan Techno Park ในการวิจัยและพัฒนาวัสดุคอมโพสิตและกระบวนการขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
เกาหลีใต้เป็นประเทศลำดับที่ 4 ในเครือข่าย Tech Hub ทั่วโลกของแอร์บัส ร่วมกับศูนย์ที่มีอยู่แล้วในญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ โดยศูนย์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้นำอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และสตาร์ทอัป เพื่อร่วมกันผลักดันขีดความสามารถของเทคโนโลยีการบินและอวกาศให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

