ตลาดกาแฟพร้อมดื่มในไทยกำลังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ นี่คือยุคที่แบรนด์ต้องเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคไปพร้อมๆ กับการเข้าใจตลาด
เพราะผู้บริโภควันนี้ไม่ได้ถามแค่ว่า “อร่อยไหม” แต่ถามว่า “ดื่มไปเพื่ออะไร” กาแฟพร้อมดื่มจึงต้องตอบโจทย์ที่ลึกขึ้น ทั้งเรื่องสุขภาพ ความยั่งยืน ความสะดวก รสชาติ ความเป็นตัวเอง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกดีที่ได้ถือไว้ในมือก่อนที่จะดื่ม
“กาแฟ” เครื่องดื่มสีน้ำตาลคู่ใจคนไทย กำลังเป็นอุตสาหกรรมมาแรงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า[1] พบว่าในปี 2568 คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ยวันละ 1 แก้วเกือบทุกวัน หรือ 340 แก้วต่อคนต่อปี ก้าวกระโดดจากไม่กี่ปีก่อนที่ 180 แก้วต่อปี สะท้อนเทรนด์และตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
แต่นอกเหนือจากกาแฟที่เราหาซื้อได้ตามคาเฟ่ หรือชงดื่มเองที่บ้าน ก็ยังมีอีกรูปแบบที่หลายคนคงคุ้นเคยคือ “กาแฟพร้อมดื่ม หรือ Ready-to-drink Coffee” ที่มอบประสบการณ์ที่ดีไม่แพ้การดื่มกาแฟชงสด จากรสชาติที่เชื่อถือได้และความสะดวกสบายที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่
จนเป็นเหตุผลที่ทำให้ “ตลาดกาแฟพร้อมดื่มแบบพรีเมี่ยม” กลายมาเป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่กำลังมองหาโอกาสและช่องทางใหม่ ๆ เพื่อครองใจผู้บริโภคยุคนี้ที่กำลัง “หลงรักกาแฟ” ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะกลุ่ม Z และ Millennial ที่ต้องการผลิตภัณฑ์กาแฟที่เป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่มแก้ง่วงในตอนเช้า และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความเร่งรีบ และความต้องการแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ในการดื่มกาแฟ
เพื่อตอบโจทย์ตลาดกาแฟแบบพรีเมี่ยมที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภคยุคใหม่ ที่กำลังจะกลายมาเป็นฐานผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แบรนด์ต่าง ๆ จึงควรเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในหลายมิติ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่ทั้ง “เข้าใจ” และ “เข้าถึง” ผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างแท้จริง
กาแฟที่ดีต้องมีประโยชน์ที่ดีด้วย
ไม่ใช่แค่ดื่มกาแฟแล้วตื่น แต่ต้องดื่มแล้วรู้สึกดีต่อสุขภาพ ดีต่อใจ เป็นการเลือกสิ่งที่ “เข้ากับเรา” ทั้งในแง่ดูแลตัวเอง และใส่ใจโลกใบนี้
จากเทรนด์ Café Hopping ที่ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับรสชาติกาแฟที่หลากหลายในที่ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้ปัจจุบันการดื่มกาแฟไม่ได้เป็นเพียงเพราะ “ต้องดื่ม” อีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งรสชาติและส่วนผสมที่ตอบโจทย์สุขภาพ
โดยผลสำรวจจาก Mintel[2] ระบุว่า กว่า 53% ของคนรุ่นใหม่อยากลิ้มลองรสชาติและตัวเลือกผลิตภัณฑ์กาแฟที่หลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันเทรนด์สุขภาพก็มาแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกาแฟที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น นมธัญพืช หรือสูตรที่ลดน้ำตาล เพื่อให้การดื่มกาแฟเป็นทั้งความสุขและการดูแลตัวเองในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ ผลสำรวจจาก เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak) ระบุว่า 27% ของผู้บริโภคเจนใหม่ในช่วงอายุตั้งแต่ 18 – 24 ปี ยินดีจ่ายแพงขึ้น หากกาแฟที่ดื่มมอบความสุขและความตื่นเต้น พร้อมความ “สบายใจ” เรื่องผลกระทบต่อโลก
นี่คือจุดที่ “กล่องเครื่องดื่ม” เข้ามาสร้างความแตกต่าง จากการตอบโจทย์ทั้งสุขภาพและความยั่งยืน เพราะช่วยคงคุณค่าและรสชาติของผลิตภัณฑ์ภายในกล่องให้ปลอดภัย และยังปล่อยคาร์บอนต่ำ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจในการแสดงออกถึงการใช้ชีวิตที่ดีต่อทั้งตัวเองและโลก
แบรนด์ต่าง ๆ จึงควรหันมาใส่ใจการพัฒนารสชาติและส่วนผสมที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นด้านรสชาติ เช่น กาแฟ Specialty พร้อมดื่ม กาแฟผสมมัทฉะ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็นทางเลือกสุขภาพได้ เช่น กาแฟลาเต้ผสมนมอัลมอนด์ กาแฟปราศจากคาเฟอีน กาแฟน้ำตาล 0% หรือกาแฟโปรตีนสูง เป็นต้น และยังควรหันมาใส่ใจกับการเลือกบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องเครื่องดื่มยูเอชทีที่สามารถคงคุณภาพกาแฟได้อย่างยาวนาน ผลิตด้วยวัสดุกระดาษเป็นหลัก นำมารีไซเคิลได้ และมีกระบวนการผลิตที่ปล่อยมลภาวะน้อยกว่าบรรจุภัณฑ์ชนิดพลาสติกและกระป๋อง[3]
กาแฟที่ดีคือ พื้นที่พักใจ แบบพกพา
หยิบง่าย สะดวกต่อการดื่ม ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักใจ ได้เบรกจากโลกที่หมุนเร็ว เป็น comfort drink ที่ช่วยให้เราหลุดจากความวุ่นวายได้ทุกเมื่อ
ข้อมูลจาก Numerator[4] พบว่าเวลาการเลือกซื้อสินค้า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial เกือบครึ่งหรือกว่า 44% ให้ความสำคัญกับ “ความสะดวกสบาย” เป็นลำดับต้น ๆ เนื่องมาจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบและแรงกดดันจากสภาพสังคมและที่ทำงาน ที่จำเป็นต้องปรับตัวต่อโลกที่กำลังผันผวนและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
กาแฟพร้อมดื่มจึงตอบโจทย์เทรนด์ชีวิตของผู้คนวัยทำงานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว นอกเหนือจากประโยชน์จากตัวเลือกรสชาติและส่วนผสมที่ต้องลงตัวแล้ว กาแฟพร้อมดื่มควรที่จะมอบความ “คล่องตัว” ให้กับผู้ดื่มได้อย่างเต็มที่ ผ่านบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ เช่น กล่องเครื่องดื่ม ที่สามารถมอบช่วงเวลา “พักใจ” ให้กับผู้ดื่มได้ในทุกที่ ลองนึกถึงบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเปิด-ปิดได้ง่าย สามารถคงรสชาติ กลิ่น และคุณภาพไว้ได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องแช่เย็น ไม่ว่าจะพกติดกระเป๋าไว้ดื่มระหว่างเดินทาง ประชุม หรือพักเบรก ก็พร้อมมอบช่วงเวลาผ่อนคลายเล็ก ๆ ให้กับผู้ดื่มได้เสมอ
กาแฟที่ดี ต้องมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง
ต้องไม่ยึดติดกับรูปแบบ (ทรง) เก่า ๆ อาจจะมาในแบบกล่องดีไซน์เท่ หรือแพ็กเกจที่เล่าเรื่องได้ เพราะกาแฟยุคนี้คือการแสดงตัวตน ไม่ใช่แค่ตามสูตรเดิม
ประเทศไทยอาจยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเห็นกาแฟพร้อมดื่มในรูปแบบที่นอกเหนือจากกระป๋องและขวด แต่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นวัตกรรม “กล่องเครื่องดื่ม” กำลังเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถมอบประสบการณ์ และตอบโจทย์ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
บรรจุภัณฑ์กล่องเครื่องดื่มแบบปลอดเชื้อหรือกล่องยูเอชทีของ เต็ดตรา แพ้ค พร้อมเข้ามาช่วยเปลี่ยนภาพจำของกาแฟพร้อมดื่มในไทย จากเครื่องดื่มทั่วไป ให้กลายเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น พกพาได้ง่าย พร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้กล่องเครื่องดื่มเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ชื่อดังที่ต้องการส่งมอบเมนูกาแฟสุดพิเศษไปสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ ไปจนถึง Chain ร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายไลน์เมนูกาแฟที่ทุกคนคุ้นเคยไปสู่การจัดจำหน่ายบนชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกเหนือจากโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา แพ้ค ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่อยู่เบื้องหลังและตลอดเส้นทางของความสำเร็จของแบรนด์ ต่าง ๆ ผ่านศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า (CIC) และ ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ (PDC) ที่ให้การสนับสนุนแบบครบวงจร ทั้งในด้านการเข้าใจเทรนด์ของตลาด การทดลองผลิตภัณฑ์ การพัฒนาสูตร การทดสอบตลาด ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความสำคัญในการสื่อสารและเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค
เพื่อสร้างคลื่นลูกใหม่ของกาแฟพร้อมดื่มในไทย ที่สามารถยก “คาเฟ่” มาไว้ใน “กล่อง” ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านนวัตกรรม การผสานเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและ เต็ดตรา แพ้ค
[1] อ้างอิงข้อมูลจากรายงาน “จับกระแสกาแฟไทย” – บทวิเคราะห์อุตสาหกรรมกาแฟ ประจำเดือนมิถุนายน 2568, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
[2] อ้างอิงข้อมูลจากผลสำรวจ Mintel
[3] Life Cycle Assessment | Tetra Pak Global – อธิบายการประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) และผลการศึกษาเปรียบเทียบกล่
[4] อ้างอิงข้อมูลจาก Numerator

