วงเสวนาห่วงปัญหาความรุนแรง-คุกคามทางเพศในไทยหลากหลาย ซับซ้อน ปี 2566

Published on

วงเสวนาห่วงปัญหาความรุนแรง-คุกคามทางเพศในไทยหลากหลาย ซับซ้อน ปี 2566 ยอดรายงานผ่านสื่อพุ่งนับพันเคส มีเหล้า-ยาเสพติด เป็นตัวกระตุ้น จ่อนำ 26,729 รายชื่อยื่นเสนอร่างกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวฉบับประชาชน ย้ำคนทำผิดต้องได้รับโทษ ไม่เน้นไกล่เกลี่ย ซุกปัญหาไว้ใต้พรม

วันที่ 9 กันยายน 68 เครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย ร่วมกับ ชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สมาคมเพศวิถีศึกษา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดเสวนา หัวข้อ กฎหมายจะช่วยยุติความรุนแรงทางเพศและความรุนแรงในครอบครัวได้อย่างไร? ห้องวีนัส ชั้น 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ รองประธานชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทย กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงทางเพศ การล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ มีหลายรูปแบบรวมถึงการคุกคามทางเพศออนไลน์ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิง คนที่มีความหลากหลายทางเพศ และคนข้ามเพศ โดยปัญหาปัจจุบันมีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น และจำนวนไม่น้อยพบว่ามีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยการทำงานหลายมิติและหลายระดับควบคู่กันไป ทั้งเชิงป้องกันและการแก้ไขปัญหา และต้องมีการทำงานทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงานรัฐ เอกชน และในระดับกฎหมายและนโยบาย

นางสาวศศินันท์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนมองว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศและความรุนแรงในครอบครัวที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังมีช่องว่างทั้งในแง่หลักการ ขอบเขต ตัวบทของกฎหมาย และประสิทธิภาพการบังคับใช้ เหยื่อส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพ และกฎหมายยังไม่ได้นำไปสู่การขจัดหรือลดปัญหาความรุนแรงได้ ชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทย ตระหนักถึงความสำคัญและสนับสนุนกระบวนการพัฒนากฎหมายให้มีคุณภาพมากขึ้น และหวังว่าการเสวนาวันนี้จะสามารถสร้างความเข้าใจและเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. …. หรือ ร่างกฎหมายคุกคามทางเพศ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. …. (ฉบับภาคประชาชน) ที่จัดทำโดยเครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการสรุปรายชื่อประชาชนผู้ร่วมเสนอกฎหมายเพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

นางสาวอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากรวบรวมข่าวความรุนแรงในครอบครัวที่เสนอผ่านสื่อในปี 2566 รวม 1,086 ข่าว มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้น 29.1% ยาเสพติด 26.1% โดยแบ่งเป็น 5 ประเภทข่าว ได้แก่ 1.ทำร้ายกัน 39.9% เป็นเรื่องระหว่างสามี-ภรรยามากที่สุดกว่าหนึ่งในสาม 2.ฆ่ากัน 35.7% เกือบครึ่งเกิดในคู่สามี-ภรรยา 3.ฆ่าตัวตาย 19.6% 4.ความรุนแรงทางเพศของคนในครอบครัว 4.2% โดยเกิดระหว่างเครือญาติ พ่อเลี้ยงทำกับลูกเลี้ยง พ่อทำกับลูกแท้ๆ กว่าหนึ่งในสี่ และ 5.ความรุนแรงในครอบครัวอื่นๆ 0.6%

ส่วนข่าวความรุนแรงทางเพศในปี 2566 มี 194 ข่าว แบ่งเป็น ข่มขืน 44.3% อนาจาร 20.1% การคุกคามทางเพศ (การใช้วาจา เช่น พูดจาแทะโลม/ชวนคุยเรื่องเพศ/เรื่องเซ็กซ์ทอย/ชวนมีเพศสัมพันธ์) 11.4% กรณีชายกระทำต่อชาย 7.2% พยายามข่มขืน 6.2% การบังคับค้าประเวณี 4.6% รุมโทรม 4.1% พรากผู้เยาว์ 2.1% ส่วนความสัมพันธ์ของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ เกิดจากคนรู้จัก (ครู คนที่อาศัยอยู่ใกล้กัน อดีตแฟน เพื่อนในวงเหล้า) 47.1% ตามมาด้วยคนในครอบครัว (พ่อเลี้ยงกระทำลูกเลี้ยง พ่อกระทำลูก ลุงกระทำหลาน) 24.3% คนแปลกหน้า 22.8% และคนที่รู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดีย 5.8%

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกกระทำส่วนใหญ่อายุระหว่าง 11-15 ปี 39.8% อายุ 6-10 ปี 20.0% อายุ 16-20 ปี 18.5% อายุน้อยสุดที่ถูกกระทำเป็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกครูกระทำอนาจาร และกรณีหลานสาวถูกปู่เมาเหล้าข่มขืน ส่วนผู้ถูกกระทำที่มีอายุมากสุด 69 ปี ถูกลูกชายติดยาเสพติด/ติดเหล้าข่มขืน สำหรับปัจจัยกระตุ้น มาจากการใช้ยาเสพติด 33.9% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 27.0% หึงหวง 10.4% อ้างเกิดอารมณ์ทางเพศ 9.6 % ทั้งนี้หากเทียบเคียงปัจจัยกระตุ้นความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ จะพบว่า ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ตัวแทนเครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายต่อต้านความรุนแรงฯ ซึ่งประกอบด้วย 13 องค์กรภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันจัดทำร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ… เนื่องจากฉบับปี 2550 ที่บังคับใช้อยู่ขณะนี้ยังมีช่องว่างที่สำคัญ คือแทนที่จะเน้นการคุ้มครองคนในครอบครัวที่ถูกกระทำรุนแรง กลับให้น้ำหนักกับการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ครอบครัวที่มีการใช้ความรุนแรงยังต้องอยู่ด้วยกันต่อไป และไม่เน้นการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ทำให้คนที่ใช้ความรุนแรงลอยนวลและมีโอกาสที่จะก่อเหตุซ้ำ และอาจร้ายแรงยิ่งขึ้น

“ร่างกฎหมายความรุนแรงในครอบครัวฉบับภาคประชาชน พยายามอุดช่องว่างหลายประการที่มีอยู่ในกฎหมายปัจจุบัน โดยให้น้ำหนักกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำ การถือเอาความปลอดภัยและความต้องการของผู้ถูกกระทำเป็นสิ่งสำคัญ และเรายังเน้นย้ำด้วยว่ากฎหมายต้องมีกลไกที่จะทำให้ผู้ที่ใช้ความรุนแรงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน โดยกำหนดให้ผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัวต้องได้รับโทษตามฐานความผิดที่ปรากฏอยู่แล้วในประมวลกฎหมายอาญา และการยอมความคดีความรุนแรงในครอบครัวต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายและความประสงค์ของผู้ถูกกระทำ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้รัฐต้องจัดให้มีกลไกการช่วยเหลือผู้ถูกกระทำรุนแรงให้ชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้นด้วย เหล่านี้เป็นจุดแข็งของร่างกฎหมายฉบับนี้ ทำให้มีประชาชนมาร่วมลงชื่อสนับสนุนการเสนอร่างกฎหมายนี้แล้ว 26,729 รายชื่อ และทางเครือข่ายฯ จะยื่นร่างกฎหมายพร้อมรายชื่อต่อสภาผู้แทนฯ ในเร็วๆนี้ และยังหวังว่ารัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะให้ความสำคัญกับกฎหมายฉบับนี้ด้วย” ดร.วราภรณ์ กล่าว

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายคุกคามทางเพศ กล่าวว่า เมื่อมีการข่มขืน คนมักเรียกร้องให้ประหาร ทั้ง ๆ ที่กฎหมายปัจจุบันก็มีโทษประหารอยู่แล้ว แต่ยังไม่ช่วยลดปัญหาลงได้ ดังนั้นต้องพัฒนากฎหมายที่บังคับใช้ได้จริง เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่สร้างภาระให้คนบังคับใช้กฎหมาย ประชาชน หรือมีการเอากฎหมายไปใช้ในทางที่ผิด สำหรับร่างกฎหมายคุกคามทางเพศนั้น มีการศึกษาและเขียนกฎหมายที่ครอบคลุมการกระทำหลายลักษณะ เช่น แก้ไขนิยามการกระทำชำเราให้คุ้มครองกรณีผู้ถูกกระทำเป็นคนข้ามเพศที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศด้วย และมีการเพิ่มความผิดฐานคุกคามทางเพศ ซึ่งครอบคลุมลักษณะความผิดตั้งแต่การการคุกคามด้วยวาจา กิริยาท่าทาง การสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ การแตะเนื้อต้องตัว รวมถึงการเฝ้าติดตามและการคุกคามทางโซเชียลมีเดียด้วย ทั้งนี้กฎหมายอยู่ระหว่างการการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่ากฎหมายดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ได้สุดโต่ง ที่สำคัญคือเป็นประโยชน์กับประชาชน เชื่อว่า สว. จะไม่มีความเห็นที่ขัดแย้งกับร่างที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว และน่าจะมีการบังคับใช้ในอีกไม่นานนี้ แต่นอกจากกฎหมาย สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องมีความตระหนักและร่วมกันสร้างสังคมที่ดี ก็จะช่วยลดความรุนแรงและป้องกันการละเมิดทางเพศได้.

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this