รู้จัก ภูมิคุ้มกันบำบัด อีกทางเลือกในการรักษามะเร็ง

Published on

เพียงได้ยินคำว่า “มะเร็ง”  ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด คนรู้จัก หรือกับคนมีชื่อเสียง อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกได้หลากหลาย ทั้งตกใจ หวาดหวั่น หรือวิตกกังวล ทำให้หลายๆ คนต้องหันมาทบทวนแนวทางการดำเนินชีวิตของตนเองที่ผ่านมาว่ามีพฤติกรรมใดที่ก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หรืออีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือแนวทางการรักษาใหม่ ๆ

องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2565 ประมาณร้อยละ 76 ภายใน 25 ปีข้างหน้า สำหรับประเทศไทย ข้อมูลในปี พ.ศ. 2562-2564 จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่าพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เฉลี่ยประมาณ 140,000 ต่อปี

จากรายงานสถิติสาธารณสุขพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิดเฉลี่ยประมาณ 84,000 คน ซึ่งโรคมะเร็งไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งกระทบถึงครอบครัวและสังคมรอบข้าง ทั้งในแง่ของร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ ไปจนถึงส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต

ภูมิคุ้มกันบำบัด” ทางเลือกใหม่ในการต่อสู้กับมะเร็ง

ในโลกของการแพทย์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย การรักษาโรคมะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่นักวิจัยและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ด้วยความตั้งใจที่จะลดอัตราการเสียชีวิต ลดผลข้างเคียง และป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็งหลายชนิดได้ หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเป็นทางเลือกใหม่ คือ “ภูมิคุ้มกันบำบัด” หรือ Immunotherapy ซึ่งได้กลายมาเป็นแนวทางการรักษาที่พลิกโฉมการรักษามะเร็งในยุคปัจจุบัน

มาทำความรู้จักกับ “ระบบภูมิคุ้มกัน” ในร่างกายกันก่อน เพื่อที่จะเข้าใจวิธีการรักษาตามแนวทาง “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ให้ดียิ่งขึ้น ระบบภูมิคุ้มกัน เกิดจากการทำงานร่วมกันของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ รวมถึงต่อมน้ำเหลือง ม้าม ต่อมไทมัส ต่อมทอนซิล ไขกระดูก และเซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อและต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง โดยเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายหรือมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคหรือเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านั้น

ภูมิคุ้มกันบำบัด” ใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสู้กับมะเร็ง

ผศ.ดร.นพ.ลักษมันต์ ธรรมลิขิตกุลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า “ภูมิคุ้มกันบำบัด เป็นหนึ่งในวิธีการรักษามะเร็ง โดยใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมาเป็น “อาวุธ” ในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของเรามีเซลล์เม็ดเลือดขาวทำหน้าที่หลักในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้คือ ทีเซลล์ (T-cells) ซึ่งสามารถตรวจจับและทำลายเซลล์ที่ผิดปกติได้

รวมถึงเซลล์มะเร็งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ แต่เซลล์มะเร็งมีความซับซ้อนและชาญฉลาด เพราะมันสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของระบบภูมิคุ้มกันได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มะเร็งสามารถเติบโตและแพร่กระจายในร่างกาย แต่ด้วยการค้นพบกลไกที่เซลล์มะเร็งใช้เพื่อหลบหลีกภูมิคุ้มกัน นักวิจัยจึงสามารถพัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง”

ภูมิคุ้มกันบำบัดแตกต่างจากการรักษาอื่นอย่างไร

สิ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบำบัดแตกต่างจากการรักษามะเร็งแบบดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัด หรือการฉายรังสี คือ ภูมิคุ้มกันบำบัดไม่ได้มุ่งทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำหน้าที่นั้นแทน หนึ่งในรูปแบบของภูมิคุ้มกันบำบัดที่ได้รับความสนใจในขณะนี้คือ ยายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์ (Immune Checkpoint Inhibitors) ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ช่วยเปิดทางและเพิ่มศักยภาพให้เซลล์เม็ดเลือดขาวสามารถโจมตีเซลล์มะเร็งได้

ไขความลับของอิมมูนเช็คพอยต์ กุญแจสำคัญของการรักษา

โดยปกติ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีอิมมูนเช็คพอยต์ (Immune Checkpoint) เป็นกลไกของร่างกายที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันทำงานเกินความจำเป็น เช็คพอยต์ตัวสำคัญตัวหนึ่งชื่อ PD-1 อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T-cells) ซึ่งสามารถจับกับ PD-L1 ที่อยู่บนเซลล์มะเร็ง เมื่อ PD-1 และ PD-L1 จับกันแล้วจะส่งสัญญาณยับยั้งทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดนี้หยุดกำจัดเซลล์มะเร็ง เปรียบเสมือนการเหยียบเบรกทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหยุดทำงาน

ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงคิดค้นยายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์ ซึ่งทำหน้าที่ขัดขวางไม่ให้ PD-1 และ PD-L1 จับกันได้ ทำให้เป็นการตัดสัญญาณยับยั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็งได้

มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่ายายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์นี้สามารถใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งรูปแบบอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า หรือการฉายรังสี ในการรักษามะเร็งหลากหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา มะเร็งเต้านมที่ไม่มีตัวรับฮอร์โมนและไม่มีตัวรับเฮอร์ทู (ทริปเปิลเนกาทีฟ, triple negative) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งจะเป็นผู้พิจารณาเลือกชนิดและรูปแบบการของการใช้ยาให้เหมาะสมกับชนิดของมะเร็ง ระยะโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

ผลข้างเคียง สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มการรักษา

แม้ว่าภูมิคุ้มกันบำบัดจะเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็ง แต่ยานี้อาจมีผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยควรทราบ ผลข้างเคียงเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นมากจนเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผิวหนังอักเสบทำให้มีผื่น ลำไส้อักเสบทำให้มีอาการท้องเสียหรือปวดท้อง ปอดอักเสบทำให้มีอาการไอหรือเหนื่อย ตับอักเสบทำให้มีค่าเอนไซม์ตับผิดปกติ ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย หรือระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง จนเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือภาวะพร่องฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต เป็นต้น ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มีระดับความรุนแรงได้หลากหลาย ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ในบางราย อาจมีอาการรุนแรงทำให้แพทย์ต้องพิจารณาหยุดการรักษาชั่วคราว และให้การรักษาด้วยยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกันเพื่อบรรเทาอาการ

ภูมิคุ้มกันบำบัด อีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นการรักษามะเร็งรูปแบบหนึ่งที่ใช้การทำงานของร่างกายในการจัดการกับเซลล์มะเร็ง แม้ว่าจะยังไม่สามารถใช้ในการรักษามะเร็งได้ทุกชนิด และยังมีข้อจำกัดบางประการ แต่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในด้านนี้กำลังสร้างทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ท้ายที่สุดแล้ว การรักษาโรคมะเร็งไม่ใช่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลที่เหมาะสมและการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย เพราะทุกคนมีเส้นทางการรักษาที่แตกต่างกัน และการร่วมมือกันระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และทีมแพทย์คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคร้ายนี้

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this