เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทชั้นนำด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ที่มาพร้อมชุมชนและแพลตฟอร์มระดับโลก ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Association of Official Analytical Collaboration (AOAC INTERNATIONAL) หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์ระดับโลก มอบให้กับวิธีการเฉพาะของเฮอร์บาไลฟ์ในการระบุและวัดปริมาณสารแอนทราควิโนน หรือที่รู้จักในชื่อ อะโลอิน (Aloin) ในว่านหางจระเข้
โดยกลุ่มหน่วยงานที่กำกับดูแลเป็นผู้กำหนดให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้สำหรับบริโภค ต้องตรวจสอบสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น อะโลอิน A, อะโลอิน B และอะโล-อีโมดิน เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางด้านความปลอดภัย ซึ่งการรับรองนี้เป็นการรับรองอย่างเป็นทางการว่าวิธีการของเออร์บาไลฟ์ เป็นวิธีการแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติจาก AOAC สำหรับการตรวจจับอะโลอิน ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพในอุตสาหกรรมพฤกษชาติและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
วิธีการที่ได้รับการรับรองนี้ พัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ของเฮอร์บาไลฟ์ และผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการอิสระทั่วโลก โดยเฮอร์บาไลฟ์ใช้วิธีดังกล่าวในการทดสอบผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้ทุกล็อต เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและยังคงคุณประโยชน์จากธรรมชาติของพืชสมุนไพรชนิดนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งว่านหางจระเข้ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ชั้นนำของเฮอร์บาไลฟ์ที่จำหน่ายกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
แกรี่ สแวนสัน รองประธานอาวุโสฝ่ายคุณภาพระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์และหัวหน้าคณะผู้จัดทำผลการศึกษา กล่าวว่า “การรับรองจาก AOAC ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งเฮอร์บาไลฟ์ในระดับอุตสาหกรรม เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของส่วนผสมจากพืชสมุนไพร ซึ่งเป็นประโยชน์วงกว้างต่อทั้งผลิตภัณฑ์ของเฮอร์บาไลฟ์และลูกค้าของเรา รวมถึงยังช่วยยกระดับมาตรฐานในอุตสาหกรรมได้อีกด้วย”
วิธีการของเฮอร์บาไลฟ์ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องผ่านการศึกษาจากหลายห้องปฏิบัติการทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยห้องปฏิบัติการอิสระ 8 แห่ง โดยทุกแห่งได้ทดสอบอะโลอิน A, อะโลอิน B และอะโล-อีโมดิน ในตัวอย่างว่านหางจระเข้ 6 ตัวอย่าง ทั้งในรูปวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค HPLC (High-Performance Liquid Chromatography) ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าวิธีนี้มีความแม่นยำสูง และผ่านเกณฑ์ด้านประสิทธิภาพ ทั้งในด้านความเที่ยงตรงและความเหมาะสมของระบบ
ดร.คาเทริน่า มาสตอฟสก้า รองผู้อำนวยการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ AOAC INTERNATIONAL กล่าวเพิ่มเติมว่า “การศึกษาตรวจสอบจากหลายห้องปฏิบัติการนี้ช่วยสนับสนุนการรับรองวิธีการวิเคราะห์ที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของเฮอร์บาไลฟ์ให้เป็นวิธีการวิเคราะห์ตามมาตรฐาน AOAC 2016.09 เนื่องจากวิธีการที่ได้รับการรับรองจาก AOAC ต้องผ่านการประเมินทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มข้น และได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของพฤกษศาสตร์ทั่วโลก”
เฮอร์บาไลฟ์มีความมุ่งมั่นมาอย่างยาวนาน ในการวิจัยว่านหางจระเข้และการควบคุมคุณภาพ และความทุ่มเทนี้นำมาซึ่งการจดสิทธิบัตร 5 ฉบับ และเผยแพร่งานวิจัย 3 ฉบับ ที่มุ่งพัฒนาวิธีการสกัดว่านหางจระเข้ที่ปลอดภัยและคงคุณประโยชน์ตามธรรมชาติ
ในขณะที่บริษัทส่วนใหญ่มักพึ่งพาใบรับรองจากซัพพลายเออร์เพียงอย่างเดียว แต่เฮอร์บาไลฟ์เป็นเพียงบริษัทไม่กี่แห่งในโลกที่ลือกใช้วิธีขั้นสูงอย่าง Proton Nuclear Magnetic Resonance (NMR) Spectrometry ซึ่งเป็นเทคนิควิเคราะห์ที่ใช้สนามแม่เหล็กและคลื่นวิทยุเพื่อระบุโครงสร้างโมเลกุลของวัตถุดิบ โดยสามารถยืนยันเอกลักษณ์และความบริสุทธิ์ของว่านหางจระเข้ในระดับโมเลกุลได้อย่างแม่นยำ จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ ความสม่ำเสมอ และตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนของซัพพลายเชนทั่วโลก
ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เฮอร์บาไลฟ์ยึดมั่นในมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า จากเมล็ดพันธุ์สู่การบริโภค (Seed-to-Feed) ครอบคลุมตั้งแต่การปลูกพืชอย่างรับผิดชอบโดยเกษตรกรที่เชี่ยวชาญ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอนในห้องแล็บที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 17025 เพื่อให้แน่ใจว่า ส่วนประกอบต่าง ๆ มีคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัทและหน่วยงานรัฐ
นอกจากนี้เฮอร์บาไลฟ์ยังดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน GMP และ NSF International โดยมีทีมวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพ ทั่วโลกคอยสนับสนุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และยกระดับมาตรฐานของทั้งอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
วิธีการตรวจวัดว่านหางจระเข้ของเฮอร์บาไลฟ์ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of AOAC INTERNATIONAL (เล่มที่ 108, ฉบับที่ 3, หน้า 449–471)