เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมถึง 3 จังหวัด คือ ตาก กาญจนบุรี และอุทัยธานี
วันนี้เรามุ่งหน้ามาที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อยู่ที่ อ.ลานสัก แต่เป้าหมายในครั้งนี้ อยู่ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมการท่องเที่ยวสัตว์ป่าตำบลระบำ ต.ระบำ อ.ลานสัก เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กับการล่องเรือชมธรรมชาติ ในอ่างเก็บน้ำทับเสลา
กิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ โดยได้นำเรามาถึงจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเป้าหมายของสายกรีน จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่
พื้นที่อ่างเก็บน้ำทับเสลามีความกว้างใหญ่ไพศาล งดงามด้วยฉากทิวเขาสลับซับซ้อน พื้นที่นี้อยู่ติดกับแนวป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เมื่อมาถึงท่าเรือวังทอง จะพบลานกว้างซึ่งเป็นจุดบริการนักท่องเที่ยว มีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ใครที่ไม่ลงเรือ ก็เข้ามานั่งชมบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำกันได้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการล่องเรือส่องป่าห้วยขาแข้ง คือ ช่วงเช้า และช่วงเย็น แต่วันนี้เราเดินทางมาในช่วงสายมากแล้ว แม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะได้พบเห็นสัตว์ป่าเรื่องที่ยากมาก แต่ก็ยังอยากสัมผัสไออุ่นของผืนป่าอันปลอดภัยแห่งนี้
ภาพแรกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ล่องเรืออกไป เราพบกลุ่มนกที่ยืนเรียงรายอยู่ใกล้ชายฝั่ง พวกมันยืนอาบแสงแดดที่เริ่มจ้าอย่างใจเย็น เดินมาอีกฝั่งก็พบกับฝูงแพะที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
เมื่อเรือล่องออกไป เราจะพบกับชาวบ้านที่กำลังหาปลา เป็นยอหลากหลายขนาดกระจายตัวไปทั่ว คาดว่าพวกเขาน่าจะออกมาปักหลักกันตั้งแต่เช้า สายมากแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะถอยกลับ
ตามแนวชายป่ามีพงหญ้าและต้นไม้ขึ้นไปทั่ว ที่เห็นว่าออกมาโชว์ตัวอย่างไม่เหนียมอาย เป็นหมู่นกนาชนิดที่ออกหาอาหาร ระหว่างที่เรือแล่นผ่านโค้งเว้าของฟืนป่าริมชายฝั่ง คนเรือก็บรรยายให้ฟังว่าเขาเคยเห็นช้าง กวาง หรือกระทิง ตรงนั้น ตรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็นยามแสงอ่อน ๆ เท่านั้น
เมื่อไม่ได้คาดหวัง ย่อมไม่มีผิดหวัง การล่องเรือชมธรรมชาติในอ่างเก็บน้ำทับเสลายังมีภาพของวิถีชีวิตให้พักสายตาไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ออกมาหาหอยหาปลา นอกจากนั้นก็พบควายฝูงใหญ่ในฝั่งที่อยู่อาศัยของคน
ขณะที่เรืออีกลำกำลังแวะทักทายชายหนุ่มที่กำลังขมักเขม้นกับการหาหอยขม ความเคลื่อนไหวของแนวป่าใกล้ ๆ ก็เริ่มต้น ละมั่งตัวน้อยผู้กล้าหาญ ออกมาชะเง้อมอง แต่ไม่ถึงห้าวินาที มันก็หลบเข้าพงไปอีกครั้ง
เพียงแวบเดียวเท่านั้น แต่นั่นคือของขวัญของวันนี้
เราใช้เวลาล่องเรือในอ่างเก็บน้ำเกือบชั่วโมงก็ถอยกลับไปยังท่าเรือวังทอง ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่อีกผืนป่าที่ “หุบป่าตาด” อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ผืนป่าอันน่าพิศวงในโถงใหญ่กลางหุบเขา ที่นี่มีต้นตาดขึ้นอยู่มาก จึงเรียกว่า “หุบป่าตาด” พืชชนิดนี้เป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ใบของมันจะแผ่กระจายไปทั่ว
และด้วยสภาพแสงรำไร ทำให้สีสันของผืนป่าแห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง บ้างก็อาจจะเขียวอ่อนเขียวเข้มแบบทั่วไป แต่บางส่วนก็เขียวออกเทา คล้ายกับสีของผาหินที่อยู่ภายในป่าแห่งนี้

นอกจากต้นตาดแล้ว ในหุบป่าตาดยังมีพันธุ์ไม่แปลกตาอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เต่าร้าง เปล้า คัดเค้าเล็ก ขนุนดิน ฯลฯ และที่เป็นขวัญใจชาวหุบไปแล้วคือ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” ที่สำรวจพบเป็นครั้งแรกที่หุบป่าตาด
แต่ใช่ว่ามาถึงที่นี่แล้วจะหาชมได้ง่าย ๆ ด้วยขนาดตัวของมันที่เล็กมากพอ ๆ กับ “ตะเข็บ” อีกทั้งยังมีฤดูกาลของมันในช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวสิงหาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี
แม้จะไม่ได้เจอกับเจ้าบ้านผู้มีความน่าอัศจรรย์ แต่ทุกครั้งที่ได้เดินเล่นในหุบป่าตาดก็ยังรู้สึกสนุกเหมือนอยู่ในดินแดนปริศนา เป็นสวนป่ากลางเขาที่ต้องผ่านถ้ำมืด ๆ ระยะสั้นเข้ามา เดินผ่านป่ามาแล้วก็จะเจอโถงหน้าผาที่คล้ายถ้ำอันแสนงดงาม
สองป่าในลานสัก กับบรรยากาศที่แตกต่าง แต่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือภาพสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ลานสักจึงเป็นเป้าหมายของโลกที่น่ารักและน่ารักษ์ในเวลาเดียวกัน
กิจกรรมนั่งเรือชมธรรมชาติ ดูสัตว์ป่า บริเวณอ่างเก็บน้ำทับเสลา
ค่าบริการเหมาลำ 650 บาทต่อรอบ (เรือ 1 ลำ นั่งได้ 3 ท่าน)
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเช้า เวลา 06.00-09.00 น.
ช่วงเย็น เวลา 15.00-17.30 น.
กิจกรรมนั่งรถชมธรรมชาติดูสัตว์ป่าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เวลา 09.00-16.00 น. (รถ 1 คัน นั่งได้ 6 คน ราคา 1,300 บาท)
กิจกรรมศึกษาสัตว์ป่าบ้านต้นไม้ไพรงาม
เวลา 16.30-07.00 น. โฮมสเตย์หลังละ 1,500 บาท จำนวน 2 ท่าน (พร้อมอาหาร 2 มื้อ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บุญเลิศ เทียนช้าง (ท็อป) 09 2787 5461
ทองคำ 06 4152 7625