หน้าแรกBusinessเสียวหมี่ประกาศการเติบโตต่อเนื่อง เผยยอดทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568  

เสียวหมี่ประกาศการเติบโตต่อเนื่อง เผยยอดทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568  

Published on

เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน (“เสียวหมี่ [Xiaomi]” หรือ “กลุ่มธุรกิจ Group]”; Stock Code:1810) บริษัทด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะด้วยการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) ประกาศผลการดำเนินงานไม่สอบทานสำหรับสามเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 (“ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568”) เสียวหมี่นั้นมีรายรับเกิน 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยมีกำไรสุทธิที่ปรับแล้วสูงกว่า 1 หมื่นล้านหยวนเป็นครั้งแรก โดยผลประกอบการนั้นดีเกินความคาดหมายของตลาด

ทั้งนี้รายรับของไตรมาสแรกอยู่ที่ 111.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 47.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) ในขณะที่กำไรสุทธิที่ปรับแล้วอยู่ที่ 10.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 64.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) ซึ่งนับเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปี 2568 ได้อย่างดีเยี่ยม

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนั้นเกิดขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจตลอดไตรมาส โดยรายรับจากสมาร์ทโฟนเติบโต 8.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็น 50.6 พันล้านหยวน ในขณะที่รายรับของ IoT และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์พุ่งสูงขึ้น 58.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็น 32.3 พันล้านหยวน โดยการจัดส่งเครื่องซักผ้าและตู้เย็นทำสถิติสูงสุด

ในขณะที่การจัดส่งเครื่องปรับอากาศก็ทะยานขึ้นกว่า 65.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) รายรับจากรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (“EV”) AI และโครงการริเริ่มใหม่อื่นๆ อยู่ที่ 18.6 พันล้านหยวน ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 Series กว่า 75,869 คัน

กลยุทธ์สินค้าและบริการในกลุ่มพรีเมียม (premiumization) ของเสียวหมี่ได้รับความนิยมในทุกหมวดหมู่ โดยที่ราคาขายเฉลี่ย (“ASP”) ของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 1,211 หยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดขายของ Xiaomi 15 Ultra ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์เติบโตขึ้น 90% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกัน

สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่กลับมาครองอันดับหนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งในรอบ 10 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่่ 18.8%

ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 รายรับจากสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็น 50.6 พันล้านหยวน การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกอยู่ที่ 41.8 ล้านเครื่องซึ่งเติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็นเวลา 7 ไตรมาสติดต่อกัน ตามรายงานของ Canalys (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Omdia) เสียวหมี่ ยังคงสามารถรักษาอันดับหนึ่งในสามของแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วโลกในการจัดส่งสมาร์ทโฟนติดต่อกันได้เป็นไตรมาสที่ 19 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.1% และเติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็นเวลา 7 ไตรมาสติดต่อกันในด้านการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เพิ่มขึ้น 4.7 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) เป็น 18.8% ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันที่มีการเติบโตของส่วนแบ่งการตลาดจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (“YoY”) และกลับมาครองอันดับ 1 ในด้านการจัดส่งได้อีกครั้งในรอบ 10 ปี

เสียวหมี่ยังคงรักษาความแข็งแกร่งในตลาดพรีเมียมต่อไป ตามข้อมูลของบุคคลที่สาม (third-party data) สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ที่มีราคาขายตั้งแต่ 3,000 หยวนขึ้นไปในจีนแผ่นดินใหญ่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 25.0% ของสมาร์ทโฟนทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.3 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่สมาร์ทโฟนที่มีราคาตั้งแต่ 4,000 หยวนขึ้นไป สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่นั้นก็ได้ส่วนแบ่งการตลาดที่ 9.6% เพิ่มขึ้น 2.9 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

รายรับและอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ IoT พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ภายในบ้านเติบโตขึ้นเป็นสองเท่า

กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยรายรับพุ่งสูงขึ้นถึง 58.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 32.3 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น 5.4 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 25.2% สร้างสถิติใหม่ทั้งในด้านรายรับและอัตรากำไรขั้นต้น และถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลสำหรับการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ภายในบ้านของเสียวหมี่กลับเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยยอดการจัดส่งเครื่องปรับอากาศพุ่งเกิน 1.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 65.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในขณะที่ยอดการจัดส่งตู้เย็นพุ่งเกิน 880,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 65.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดการจัดส่งเครื่องซักผ้าพุ่งสูงเกิน 100% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 740,000 เครื่อง ทั้งนี้ยอดการจัดส่งทั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และโรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้านของเสียวหมี่กำลังเตรียมเริ่มดำเนินการในปีนี้

ธุรกิจแท็บเล็ตของเสียวหมี่ก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน จากรายงานของ Canalysระบุว่า การจัดส่งแท็บเล็ตทั่วโลกเติบโตขึ้น 56.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 และติดอันดับสามอันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรก และยังคงสามารถรักษาอันดับสามในจีนแผ่นดินใหญ่เอาไว้ได้ นอกจากนี้การจัดส่งแบนด์สวมใส่ของ เสียวหมี่นั้นเป็นอันดับ 1 ของโลกและอันดับ 2 ในจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่การจัดส่งหูฟัง TWS เป็นอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ในจีนแผ่นดินใหญ่

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อ (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป) บนแพลตฟอร์ม AIoT ของเสียวหมี่เพิ่มขึ้นเป็น 943.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 20.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยจำนวนผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์ 5 เครื่องขึ้นไปที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม AIoT ของเสียวหมี่ (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป) นั้นแตะ 19.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเป็น 26.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ในเดือนมีนาคม 2568 ยอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ของแอป Mi Home เพิ่มขึ้นเป็น 106.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 19.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ของ AI Assistant เพิ่มขึ้นเป็น 146.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 17.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นของบริการอินเทอร์เน็ตพุ่งสูงขึ้นถึง 76.9% โดยฐานผู้ใช้งานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มบริการทางอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายรับที่เพิ่มขึ้น 12.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็น 9.1 พันล้านหยวนในไตรมาส 1 ของปี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.7 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 76.9%

ฐานผู้ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ขยายตัวเพิ่มขึ้นและทำสถิติสูงสุดทั่วโลกและในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งในเดือนมีนาคม 2568 จำนวนผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ทั่วโลกแตะ 718.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 181.1 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของเสียวหมี่เติบโตอย่างมั่นคงและเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ 350,000 คันตลอดทั้งปี

รายรับจากรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ, AI และโครงการริเริ่มใหม่อื่นๆ ของเสียวหมี่ยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยมีรายรับรวมอยู่ที่ 18.6 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ทั้งนี้การส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 Series ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมียอดการส่งมอบรถยนต์ 75,869 คันในไตรมาสนี้ กลุ่มบริษัทจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการส่งมอบรถยนต์ 350,000 คันตลอดทั้งปี 2568

เสียวหมี่ยังคงขยายเครือข่ายการขายและบริการอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 เสียวหมี่ได้เปิดศูนย์การขายรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะไปแล้วกว่า 235 แห่งใน 65 เมืองทั่วจีนแผ่นดินใหญ่

ในช่วงปีที่ผ่านมา Xiaomi SU7 Series ได้ช่วยเสริมสร้างการรับรู้ในการเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมของเสียวหมี่ ซึ่ง Xiaomi SU7 Ultra ที่เปิดตัวไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม โดยเข้าสู่กลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมขั้นสูงด้วยราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 500,000 หยวน ในขณะที่ Xiaomi YU7 “รถ SUV สุดหรูสมรรถนะสูง” ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เตรียมที่จะขยายการรับรู้ของแบรนด์เสียวหมี่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมมากขึ้น

นอกจากนี้ความสามารถในการส่งมอบของรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของเสียวหมี่ก็มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการส่งมอบสะสมเกิน 258,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัว และมียอดการส่งมอบรายเดือนเกิน 20,000 คันเป็นเวลาหกเดือนติดต่อกัน ในเดือนเมษายน Xiaomi SU7 มียอดขายสูงสุดสำหรับรถยนต์อัจฉริยะไฟฟ้าทุกรุ่นที่มีราคาเกินกว่า 200,000 หยวน

งบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 2 แสนล้านหยวนในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีในการเสริมสร้างและส่งเสริมนวัตกรรมทางด้าน “ชิป (Chip), AI และระบบปฏิบัติการ (OS)”

เสียวหมี่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะลงทุนในเทคโนโลยีหลักพื้นฐาน และตั้งใจที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในแวดวงเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่กำลังพัฒนา โดยค่าใช้จ่ายด้านงานวิจัยและพัฒนานั้นสูงถึง 6.7 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 เพิ่มขึ้น 30.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 บุคลากรด้านงานวิจัยและพัฒนาของเสียวหมี่นั้นมีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 21,731 คน นอกจากนี้เสียวหมี่ยังขยายขีดความสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญา และได้รับสิทธิบัตรมากกว่า 43,000 ฉบับทั่วโลก กลุ่มบริษัทมีแผนที่จะลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นจำนวนที่สูงถึง 2 แสนล้านหยวนเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลักพื้นฐาน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เสียวหมี่ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi XRING O1 3nm SoC ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นับเป็นการเปิดตัวครั้งสำคัญในการนำเทคโนโลยีพื้นฐานหลักของเสียวหมี่ อย่าง “ชิป (Chip), AI และระบบปฏิบัติการ (OS)” ทั้งหมดมาใช้ โดยเสียวหมี่ยังคงยืนหยัดที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนวัตกรรมล้ำสมัยและระบบนิเวศทางเทคโนโลยีชั้นนำอย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีในระยะยาวอย่างต่อไป

Latest articles

ทีทีบี ปิดโรงหนัง เอาใจแฟนคลับ “สติทช์”

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขอย่างต่อเนื่องให้กับเหล่าผู้ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการมาของเพื่อนรักจากต่างดาวตัวสีฟ้าสุดแสบ “สติทช์” (Stitch) เหมาโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ให้ผู้ถือบัตร ทีทีบี ดิสนีย์ ได้ชมภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปี Disney’s Lilo & Stitch ฟรี รอบพิเศษก่อนใคร

Maxim ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับความสะดวกชายหาด จ.ภูเก็ต

Maxim ประเทศไทย ร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกชายหาด จังหวัดภูเก็ต Maxim แอปพลิเคชันเรียกรถและบริการขนส่งยอดนิยม เดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดป่าตอง ผ่านกิจกรรมส่งมอบเก้าอี้ม้านั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น คาร์เทียร์ และสมาคมผู้จัดงานมหกรรมโลกญี่ปุ่น ในฐานะเวทีระดับโลกที่อุทิศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่างสร้างสรรค์ และเชิดชูบทบาทสำคัญของผู้หญิงในการร่วมสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เข้มแข็ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าอบรมผู้ควบคุมการใช้โดรนพ่นสาร ตั้งเป้า 5,000 รายทั่วประเทศภายในปี 2570

กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการใช้โดรนพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตร จัดอบรมหลักสูตร “ผู้ควบคุมการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน” เตรียมความพร้อมบังคับใช้กฎหมายควบคุมผู้รับจ้างพ่นสารฯ อย่างเป็นทางการ ภายในปี 2570 ตั้งเป้าครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ

More like this