หน้าแรกHealth&Wellnessเปิดตัว “ศูนย์สุขภาพปอดวิมุต” รับวิกฤตโรคระบาด อากาศแย่ ชี้แนวโน้มอุตสากรรมสุขภาพทะลุ 8.8 แสนล้าน

เปิดตัว “ศูนย์สุขภาพปอดวิมุต” รับวิกฤตโรคระบาด อากาศแย่ ชี้แนวโน้มอุตสากรรมสุขภาพทะลุ 8.8 แสนล้าน

Published on

รพ.วิมุต ฉลองครบรอบ 4 ปี เผยปี 67 โตแกร่ง 35% เดินหน้าต่อด้วยกลยุทธ์ B.E.S.T 
ลุยเปิด “ศูนย์สุขภาพปอดวิมุต” หลัง วิกฤตโรคระบาด-อากาศแย่ ทำคนป่วย “โรคระบบทางเดินหายใจ” พุ่งต่อเนื่อง พลิกโฉมการวินิจฉัยโรคปอดด้วยเทคโนโลยี EBUS ชูความแม่นยำ-เจ็บน้อย-ฟื้นตัวเร็ว
นพ.นิพัฒน์ กุหลาบขาว
นพ.นิพัฒน์ กุหลาบขาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่าในโอกาสครบรอบ 4 ปีของโรงพยาบาลวิมุต เรายังคงยึดมั่นในพันธกิจการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย การพัฒนาบริการที่เข้าใจผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง ไปจนถึงการจัดตั้งทีมแพทย์เฉพาะทางแบบสหสาขาวิชา เพื่อตอบโจทย์การรักษาโรคซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ ตลอดจนตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพเร่งด่วนของสังคม

เรามุ่งเป็น โรงพยาบาลเอกชนมิติใหม่ที่ก้าวล้ำนำเมกะเทรนด์สุขภาพในระยะยาว ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและการเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

จากข้อมูลของ Report Linker คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมสุขภาพไทยจะเติบโต 5.3% ต่อปี จากมูลค่า 679,600 ล้านบาทในปี 2568 สู่มูลค่ากว่า 880,500 ล้านบาทภายในปี 2573 รพ. วิมุต พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ เราจะเดินหน้าต่อในฐานะพันธมิตรด้านสุขภาพที่ทุกครอบครัวไว้ใจ โดยผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 1,203 ล้านบาท เติบโต 35% และในปี 2568 เป้าหมายการเติบโตต่ออีก 40%

ท่ามกลางความท้าทายด้านสุขภาพที่ซับซ้อนและเร่งด่วนในปัจจุบัน โรงพยาบาลวิมุตยึดมั่นในหลักคิดว่าระบบสุขภาพไทยจะต้องมีความเข้มแข็งพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพราะสุขภาพของประชากร เกี่ยวพันกับเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และโครงสร้างสังคมโดยรวม ตามยุทธศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ปี 2568-2571 และข้อมูลจาก สสส. สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะ PM2.5 โดยกรุงเทพฯ ติดอันดับ 8 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจที่คร่าชีวิตผู้คนระดับโลกกว่า 7 ล้านรายต่อปี

ขณะเดียวกัน บุหรี่ไฟฟ้าก็แพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนไทยอย่างน่ากังวล แม้จะมีงานวิจัยชี้ถึงอันตรายจากนิโคตินและสารก่อมะเร็งมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มโลกที่พบว่าการสูบบุหรี่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 8 ล้านรายทุกปี ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างเบาหวาน หัวใจ และมะเร็ง จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้นโดยเฉพาะในเด็ก วัยรุ่น และกลุ่มแรงงานหลังวิกฤตโควิด-19

ขณะเดียวกันการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ก็จำเป็นต้องมีระบบดูแลแบบองค์รวมในระยะยาว ทั้งยังมีภัยคุกคามจากโรคอุบัติใหม่และการดื้อยาปฏิชีวนะ ตลอดจนช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่คือโจทย์ที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อออกแบบระบบสุขภาพของไทยให้มีความยืดหยุ่น เข้าถึงง่าย และยั่งยืน

นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย

นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลวิมุต เร่งสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันโรค การรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ ไปจนถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตในระยะยาว ภายใต้หลัก 3 ประการคือ

1. ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ที่ทำงานร่วมกันแบบสหสาขาวิชา

2. การดูแลครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยที่ตรงจุดไปจนถึงการรักษาที่ปลอดภัย

และ 3. ความรวดเร็วในทุกกระบวนการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะดวกและลื่นไหล

ในอนาคต รพ. วิมุต พร้อมเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ B.E.S.T ที่มุ่งส่งมอบ ความเป็นที่สุดของประสบการณ์ด้านสุขภาพ ผ่าน B – Beyond Technology เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์จริง E- Expertise with Heart ทีมแพทย์เฉพาะทางที่เข้าใจผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง S-Smart Service Experience บริการอัจฉริยะที่เชื่อมต่อไร้รอยต่อ และ T- Trust & Transparency ความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้ เพื่อก้าวสู่การเป็น โรงพยาบาลเอกชนมิติใหม่ที่พร้อมนำพาไทยสู่ยุค Smart Healthcare อย่างแท้จริง 

อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของ รพ. วิมุต คือการตอบสนองต่อเทรนด์สุขภาพโลก เราได้นำแนวโน้มสุขภาพโลกและในเมืองไทยมาพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อตอบโจทย์โรคเฉพาะทางที่ซับซ้อน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คร่าชีวิตคนไทยกว่า 400,000 รายต่อปี ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจถึง 1.6 ล้านล้านบาท หรือ 9.7% ของ GDP ประเทศ วิมุตจึงพัฒนาศูนย์ดูแล NCDs แบบครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหารและตับ สมอง เบาหวาน กระดูก และการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของสังคมไทยในปัจจุบัน

โดยการเปิด ศูนย์สุขภาพปอดวิมุตในวันนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อวิกฤตมลพิษและโรคระบบทางเดินหายใจที่กำลังทวีความรุนแรง เพราะโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคโควิด-19, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง นับเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตหลักของผู้คนทั่วโลก การเปิดศูนย์สุขภาพปอดวิมุต จึงสะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับการดูแลสุขภาพที่สอดรับเมกะเทรนด์โลกอย่างแท้จริง”

ผศ.นพ.วิรัช ตั้งสุจริตวิจิตร

ผศ.นพ.วิรัช ตั้งสุจริตวิจิตร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลวิมุต เล่าถึงความท้าทายเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจและแนวทางการรักษาแบบองค์รวมในปัจจุบัน ว่า “ปัจจุบัน โรคระบบทางเดินหายใจ กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบระยะยาว ทั้งจากเชื้อไวรัสอย่างโควิด-19 ที่ยังพบผู้ป่วยใหม่กว่า 41,000 รายในปีนี้ ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุกว่า 322,000 ราย และ RSV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็น ภัยเงียบที่แทรกซึมเข้าสู่ถุงลมปอดและกระแสเลือดได้โดยตรง ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ และมะเร็งปอด ที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง ตามข้อมูล WHO มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตผู้คนกว่า 7 ล้านรายต่อปีทั่วโลก ทำให้การมีระบบคัดกรอง เฝ้าระวัง และสร้างความตระหนักรู้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง” 

“ศูนย์สุขภาพปอดวิมุต มีแนวทางการดูแลครอบคลุมตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงด้วยการตรวจสมรรถภาพปอด (Lung Function Test), การตรวจหลอดลมด้วยกล้อง (Bronchoscopy) ไปจนถึงการวินิจฉัยและรักษาโรคซับซ้อนอย่างมะเร็งปอดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือการบริการแบบคลอบคลุมในทุกมิติ การวินิจฉัยที่แม่นยำและรวดเร็ว โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี EBUS (Endobronchial Ultrasound) มาใช้เพื่อช่วยการวินิจฉัยโรค ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ตรวจชิ้นเนื้อปอดและจากต่อมน้ำเหลืองในช่องอกได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องสำหรับการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด”ผศ.นพ.วิรัช อธิบาย

ศูนย์สุขภาพปอดวิมุตดำเนินการภายใต้แนวคิด CHEST (Collaborated–Holistic–Excellence–Systematic–Treatments) ที่มุ่งเน้นการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็ว ฟื้นฟูไว และครอบคลุมทุกมิติสุขภาพปอด ผ่านการร่วมมือของแพทย์ที่ทำงานแบบสหสาขาวิชาเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะรายในผู้ป่วยที่มีภาวะเรื้อรังหรือซับซ้อนและเชื่อมโยงการรักษาแบบไร้รอยต่อ ตลอดจนการใช้อุปกรณ์มาตรฐานสูงและการประเมินผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ มอบการรักษาที่ครอบคลุมทั้งทางการแพทย์และการฟื้นฟูด้วยพฤติกรรมบำบัด เพราะ รพ. วิมุต เชื่อว่าการดูแลโรคทางเดินหายใจต้องเน้นการตรวจเชิงรุก การเข้าใจโรคอย่างลึกซึ้ง และการติดตามระยะยาว ไม่ใช่เพียงการรักษาเมื่อมีอาการเท่านั้น 

ในฐานะ โรงพยาบาลเอกชนมิติใหม่โรงพยาบาลวิมุต ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานระบบสุขภาพที่มีความยั่งยืน (Sustainable Healthcare) ทั้งในมิติของคุณภาพการรักษา การเข้าถึงของประชาชน และการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์สุขภาพปอดวิมุตแห่งใหม่ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาระบบทางเดินหายใจในสังคมไทยอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การป้องกัน การวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีระดับสูงอย่าง EBUS ไปจนถึงการฟื้นฟูที่เน้นผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว เพราะ รพ. วิมุต ตั้งใจส่งมอบ คุณภาพที่จับต้องได้ด้วยอัตราค่าบริการที่เป็นธรรม ให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพภายใต้มาตรฐานสากล ในการก้าวสู่
ปีที่ 5 รพ. วิมุต เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนระบบสุขภาพที่ดีและอยู่เคียงข้างสังคมไทยเพื่อก้าวข้ามทุกความท้าทายด้านสุขภาพ

Latest articles

ทีทีบี ปิดโรงหนัง เอาใจแฟนคลับ “สติทช์”

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขอย่างต่อเนื่องให้กับเหล่าผู้ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการมาของเพื่อนรักจากต่างดาวตัวสีฟ้าสุดแสบ “สติทช์” (Stitch) เหมาโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ให้ผู้ถือบัตร ทีทีบี ดิสนีย์ ได้ชมภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปี Disney’s Lilo & Stitch ฟรี รอบพิเศษก่อนใคร

Maxim ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับความสะดวกชายหาด จ.ภูเก็ต

Maxim ประเทศไทย ร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกชายหาด จังหวัดภูเก็ต Maxim แอปพลิเคชันเรียกรถและบริการขนส่งยอดนิยม เดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดป่าตอง ผ่านกิจกรรมส่งมอบเก้าอี้ม้านั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น คาร์เทียร์ และสมาคมผู้จัดงานมหกรรมโลกญี่ปุ่น ในฐานะเวทีระดับโลกที่อุทิศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่างสร้างสรรค์ และเชิดชูบทบาทสำคัญของผู้หญิงในการร่วมสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เข้มแข็ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าอบรมผู้ควบคุมการใช้โดรนพ่นสาร ตั้งเป้า 5,000 รายทั่วประเทศภายในปี 2570

กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการใช้โดรนพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตร จัดอบรมหลักสูตร “ผู้ควบคุมการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน” เตรียมความพร้อมบังคับใช้กฎหมายควบคุมผู้รับจ้างพ่นสารฯ อย่างเป็นทางการ ภายในปี 2570 ตั้งเป้าครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ

More like this