เทรนด์สุขภาพในเมืองไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผ่านการออกกำลังกายหลากหลายประเภท โดยมีคอมมูนิตี้ของคนออกกำลังกายกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ
“ฟิตเนส” เป็นสถานที่ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ที่ผ่านมาแบรนด์ใหญ่ในระดับเชนฟิตเนสจากต่างประเทศได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอยู่หลายเจ้า ไม่นับรวมฟิตเนสโลคอลแบรนด์อีกมากมาย แต่ยังถือว่ายังมีโอกาสอีกมาก Anytime Fitness เชนฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันในเมืองไทยมีเพียง 3% จากกลุ่มผู้ออกกำลังกาย ที่ใช้บริการฟิตเนส และนี่คือโอกาสที่ว่านั้น
รู้จัก Anytime Fitness
Anytime Fitness เป็นเชนฟิตเนสยักษ์ใหญ่จากอเมริกา มีสาขามากที่สุดในโลกรวมกว่า 5,500 สาขา ใน 42 ประเทศ อยู่ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 4,000 แห่ง ในปีที่ผ่านมา Anytime Fitness ได้เข้ามาปักหมุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย Anytime Fitness Asia Corporate ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 450 แห่งใน 8 ประเทศ ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม และไทย
จุดยืนของ Anytime Fitness คือ แบรนด์ไลฟ์สไตล์และสุขภาพครบวงจร เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีสาขาในประเทศไทย 5 สาขาในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย อาคาร Exchange Tower, JLK Tower, Century Plaza, Chamchuri Square และ Nanglinchee Market Place Mall และมีสาขาที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 6 แห่งทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมทั้งการเจรจากับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะมีสาขาของ Anytime Fitness อีก 20 แห่ง
เทรนด์ฟิตเนสในเมืองไทย
เทรนด์การออกกำลังกายในเมืองไทยถือว่าได้ก้าวผ่านเข้าสู่โลกแห่งองค์ความรู้ จากเดิมคนไทยโดยทั่วไปอาจจะยังไม่เข้าในรูปแบบของการใช้บริการฟิตเนสมากนัก แต่ปัจจุบันด้วยข้อมูลที่มากขึ้นและเทคโนโลยีที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกขึ้น ทำให้คนไทยมีความเข้าใจในการใช้บริการฟิตเนสเพิ่มขึ้น
เพราะฟิตเนสไม่ได้เป็นเพียงสถานที่รวมเครื่องออกกำลังกายเท่านั้น โดยเฉพาะฟิตเนสที่มีมาตรฐานภายใต้การดูแลของบุคลากรมืออาชีพ พวกเขาสามารถแนะนำวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ฟิตเนสไม่ใช่กระแสแฟชั่น แต่เป็นหนึ่งในกิจกรรมไลฟ์สไตล์ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า หลังเลิกงาน หรือยามว่างกลางดึก คนรักสุขภาพต่างเลือกออกกำลังกายในฟิตเนสเพื่อสร้างความผ่อนคลาย และกลายเป็นคอมมูนิตี้ของคนรักสุขภาพที่ไม่จำกัดเวลา เพราะวันนี้มีฟิตเนสที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังสะดวก สบาย ไม่ต่างจากร้านสะดวกซื้อ
97% คือ โอกาส
ไรอัล ชีล Group Chief Operating Officer (GCOO) Anytime Fitness Asia Corporate เปิดเผยว่า ตลาดสุขภาพในประเทศไทยมีแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย โดยพบว่า กลุ่มผู้ออกกำลังกายในประเทศไทย มีเพียง 3% เท่านั้นที่ใช้บริการฟิตเนส อีก 97% มีไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายที่แตกต่างกันไป ทั้งการเล่นกีฬาชนิดอื่น การออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หรือการออกกำลังกายที่บ้าน จึงเป็นโอกาสของ Anytime Fitness ในการนำเสนอไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ
Anytime Fitness คอมมูนิตี้ของคนรักสุขภาพ
ไรอัล ชีล อธิบายต่อว่า Anytime Fitness ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฟิตเนส แต่เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์และสุขภาพครบวงจร ด้วยการพัฒนาใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย โปรแกรมการโค้ชชิ่งแบบมีผู้เชี่ยวชาญ การผสานเทคโนโลยีเพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างคอมมูนิตี้ที่เชื่อมโยงผู้คน ตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่มองหาสิ่งที่มากกว่าแค่การออกกำลังกาย
จากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมฟิตเนสมากว่า 20 ปี ครอบคลุม 14 ประเทศ ไรอัล กล่าวว่า ตลาดฟิตเนสในประเทศไทย มีลักษณะที่แตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศ การเข้ามาดำเนินธุรกิจในเมืองไทย จำเป็นต้องมีการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ผ่านการขยายสาขาในทำเลหลักของกรุงเทพฯ ก่อนจะขยายสาขาไปยังชานเมืองและต่างจังหวัด ขณะที่ในต่างประเทศ จะใช้เริ่มต้นการขยายสาขาตามชานเมืองก่อน
การออกกำลังกาย ไม่ใช่เรื่องที่น่าอึดอัด
จุดเด่นของ Anytime Fitness คือการเข้าถึงได้ง่าย เมื่อผ่านประตูเข้ามาจะไม่เห็นเคาน์เตอร์ที่ดูจริงจัง ไม่เน้นการขายโปรแกรมสมาชิกที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของการมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยความผ่อนคลาย ขนาดของฟิตเนสจะไม่มุ่งเน้นที่ขนาดใหญ่มาก แต่ก็เพียบพร้อมด้วยบริการที่สะดวกสบายและสิทธิประโยชน์ที่ครบวงจร นอกจากนั้นสมาชิกของ Anytime Fitness ยังสามารถใช้บริการในสาขาเครือข่ายได้ทั่วโลก
แผนขยายสาขา กับเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
ปัจจุบัน Anytime Fitness ทั้ง 5 สาขาที่เปิดตัวไปแล้ว มีสมาชิกประมาณ 800 – 900 คน/สาขา โดยมีอัตราค่าสมาชิก 1,500 -1,800 บาทต่อเดือน ถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ยังน้อยในช่วงเริ่มต้น ไรอัล มองว่า เป้าหมายใหญ่ของ Anytime Fitness คือการทำให้คนไทยหันมาออกกำลังกาย มีสถานที่ออกกำลังกายที่มีคุณภาพ สะดวก สบาย ในบรรยากาศที่เข้าถึงได้ง่าย
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต Anytime Fitness ตั้งเป้าหมายการขยายสาขา 100 -150 สาขา ภายใน 5 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นสาขาของบริษัท 25% และแฟรนไชส์ 75%
“เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จไม่ใช่แค่การขยายจำนวนสาขา
แต่ต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนให้กับสมาชิก พาร์ทเนอร์ และชุมชน”
– ไรอัล ชีล –
ไรอัล ชีล (Ryan Cheal)
เป็นผู้นำสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจฟิตเนสในเอเชีย โดยดำรงตำแหน่ง Group Chief Operating Officer (GCOO) ของ Anytime Fitness Asia Corporate ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 120 แห่งใน 8 ประเทศ เขานำความสามารถด้านการบริหาร ความเป็นผู้ประกอบการ และวิสัยทัศน์ระดับโลกมาพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
เขามีประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมฟิตเนส ครอบคลุม 14 ประเทศ โดยได้ร่วมเปิดสาขา Anytime Fitness กว่า 70 แห่งในเอเชีย แนวทางในการดำเนินธุรกิจของเขามุ่งเน้นการเติบโตเชิงกลยุทธ์ การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ การเข้าใจวัฒนธรรมแต่ละตลาด และการพัฒนาทีมงาน
Anytime Fitness
แบรนด์ฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขากว่า 5,500 แห่งใน 42 ประเทศ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการฟิตเนสแบบเฉพาะบุคคล โดยมี Inspire Brands Asia (IBA): เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ Anytime Fitness ใน 9 ประเทศของเอเชีย ขยายเครือข่ายได้กว่า 330 แห่ง
Anytime Fitness สาขา Exchange Tower (สาขาแรก)
FB : AF Exchange Tower
IG : anytimefitness.exchangetower
เบอร์โทร : 098-282-3512
ที่อยู่ : Exchange Tower ชั้น 4
388 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
