ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก คนสองคนที่มักจะถูกพูดถึงมากในวงการสิ่งแวดล้อมคือ ทราย สก็อต และ เกรต้า ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) แม้ว่าทั้งสองคนจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการปกป้องโลกจากวิกฤตสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาก็มีวิธีการเข้าถึงและการรณรงค์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับทั้งสองคนและสิ่งที่พวกเขาได้ทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้
ทราย สก็อต อาจจะไม่เป็นที่รู้จักในระดับโลกแต่ในประเทศไทย เขาก็มีบทบาทสำคัญในวงการสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่ท้องถิ่นและชุมชน ด้วยความเชื่อที่ว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจะต้องเริ่มจากการปลูกฝังความเข้าใจและพฤติกรรมที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ หรือการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

ทรายมีวิธีการที่เน้นการสร้างเครือข่ายท้องถิ่นและการทำงานร่วมกับชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายใน ทรายมองว่า “การที่คนในชุมชนสามารถเห็นประโยชน์จากการรักษาสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันจะทำให้พวกเขามีแรงกระตุ้นในการร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น” นอกจากนี้ทราย ยังมุ่งเน้นการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในด้านการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
ด้าน เกรต้า ธันเบิร์ก เป็นนักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากการที่เธอเริ่มต้นการประท้วงคนเดียวหน้ารัฐสภาสวีเดนในปี 2018 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากการที่เธอยืนหยัดเพียงลำพังในตอนแรก ธันเบิร์กกลายเป็นผู้นำในแนวการต่อสู้ทางสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากเด็กและเยาวชนทั่วโลกที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหว “Fridays for Future”

เกรต้าใช้วิธีการแสดงความไม่พอใจอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เกรงกลัวการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้มีอำนาจหรือสื่อมวลชน เธอมักจะมีคำพูดที่เฉียบขาดและเรียกร้องให้ผู้นำโลกดำเนินการทันที เช่น คำพูดที่ว่า “You are stealing my future,” (คุณกำลังก่อกรรมทำเข็ญกับอนาคตของฉัน) ซึ่งทำให้โลกต้องหันมาสนใจวิกฤตสิ่งแวดล้อมในมุมมองใหม่
แนวทางการต่อสู้ที่แตกต่างแต่มีเป้าหมายเดียวกัน โดยเกรต้าเลือกที่จะใช้การประท้วงและการเรียกร้องที่หนักแน่นต่อรัฐบาลและผู้นำโลก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและฉับไว ในขณะที่ทรายเลือกการทำงานร่วมกับชุมชนและการเน้นที่การศึกษาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและค่อยเป็นค่อยไปเกรต้า ธันเบิร์ก มักจะวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้นำโลกในทำนองที่แสดงถึงความคับข้องใจและการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทันที ส่วนทราย สก็อตนั้นมักจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้และการสร้างการมีส่วนร่วมในระดับท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านของชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีเดียว การกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนจากเกรต้า และการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนจากทราย ล้วนมีความสำคัญในบริบทของตัวเอง เกรต้าเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องให้มีการกระทำที่รวดเร็ว ในขณะที่ทรายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิบัติที่มีพื้นฐานจากการเข้าใจอย่างลึกซึ้งในระดับพื้นฐาน
ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นที่สนใจ และการทำงานของพวกเขาสะท้อนให้เห็นว่า การรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว แต่มันคือความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนบนโลกใบนี้